ถ้าเทียบกับพี่ใหญ่ในตลาดทั้งหลาย All Inspire Development เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ระดับย่อมลงมา แต่ต้องบอกว่าในรอบปีที่ผ่านมา เป็นบริษัทที่มีการเติบโตสูง และมีแนวโน้มจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ในเวลาไม่นานนี้
ทว่า ครึ่งปีแรกที่ผ่านมา อาจจะเห็นว่า All Inspire ดูจะเงียบไปไม่มีเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มเติม ส่วนหนึ่งเพราะกำลังเตรียมออฟฟิศใหม่บนตึกภิรัช ทาวเวอร์ แอท ไบเทค บางนา และในที่สุดก็ได้ฤกษ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมกับ 3 โครงการใหม่สำหรับลุยไตรมาส 3 ปีนี้
แนวคิด Class of Living ออฟฟิศต้องน่าอยู่เพื่อพนักงาน
ธนากร ธนวริทธิ์ CEO ของ All Inspire บอกว่า ในฐานะที่เป็นบริษัทอสังหาฯ ตัวสำนักงานใหญ่จะต้องสะท้อนความเป็นตัวตนของ All Inspire ออกมา ดังนั้นจึงออกแบบตามสโลแกนของบริษัท คือ Class of Living โดยตัวออฟฟิศจะอยู่ชั้น 18 ของอาคารภิรัช พื้นที่ 1,800 ตร.ม. ออกมาเน้นพื้นที่ทำงานสำหรับพนักงาน 100 คนแบบ Open Office
การออกแบบจะเน้นเป็นออฟฟิศแนวใหม่ มี 5 ห้องประชุมขนาดต่างๆ พื้นที่ส่วนใหญ่เปิดกว้างเสริมความคิดสร้างสรรค์ แต่ก็มีห้องเฉพาะกรณีที่ต้องการความส่วนตัว มีห้องพักผ่อน และมีพื้นที่อเนกประสงค์เพื่อใช้สร้างแรงบันดาลใจ เพื่อสร้างงานคุณภาพ
“สิ่งที่พิเศษอีกประการคือ All Inspire มีเลี้ยงอาหารเช้าก่อน 9 โมงให้พนักงานที่มาถึงในตอนเช้า เป็นแนวคิดการดูแลพนักงาน ซึ่งเชื่อว่าจะสะท้อนถึงการดูแลลูกค้าด้วย”
เปิด 3 โครงการลุยไตรมาส 3 และ 4 โครงการไตรมาสสุดท้าย
หลังจากเงียบหายไปบ้างในครึ่งปีแรก ในไตรมาส 3 All Inspire เตรียมเปิด 3 โครงการคอนโดมิเนียม ได้แก่ The Excel Hideaway สุขุมวิท 50 คอนโด 8 ชั้น 774 ยูนิต, The Excel Hideaway สุขุมวิท 71 คอนโด 8 ชั้น 672 ยูนิต และ The Excel รัชดา 17 คอนโด 8 ชั้น 230 ยูนิต
ทั้ง 3 โครงการเน้นคอนโด สไตล์โลว์ไลฟ์ ใกล้ชิดธรรมชาติ ราคาเริ่มต้นที่ 1.39 ล้านบาท ซึ่งจากทำเลและราคาแล้ว หาไม่ได้ง่ายๆ อาจจะไม่ได้อยู่ติดรถไฟฟ้า แต่ก็อยู่ไม่ไกลการเดินทางจึงยังสะดวก และอยู่ในพื้นที่เหมาะกับการเข้าเมือง
ส่วนไตรมาสสุดท้าย จะมี 4 โครงการออกมาทำตลาดต่อเนื่อง คือ คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ 2 โครงการ ทำเลรัชดา-ห้วยขวาง และ ลัคซ์ชัวรี่ คอนโด ตากอากาศ ริมหาดอ่าวฉลอง จังหวัดภูเก็ต ตามด้วยที่อยู่อาศัยแนวราบ ทาวเฮ้าส์หน้ากว้าง 5 และ 5.5 เมตร อีก 2 โครงการในชื่อแบรนด์ เดอะ วิชั่น 2 ทำเล ย่านเกษตร และ นวมินทร์ ราคาเฉลี่ย 3-4 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 7 โครงการ 9,700 ล้านบาท
เติบโตก้าวกระโดด พร้อมเข้าตลาดหุ้น
ธนากร บอกว่า การพัฒนาโครงการของ All Inspire จะเน้นตลาดระดับกลาง ราคาไม่สูง เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่าย แต่ยังคงมีความพิเศษ นอกจากคนไทยแล้ว 30-40% เป็นคนต่างประเทศ เช่น ฮ่องกง, สิงคโปร์ และไต้หวัน และทุกโครงการจะเน้นดาวน์สูง ประมาณ 15% ทำให้บริษัทสามารถทำยอดการเติบโตได้ดี
สำหรับปีที่ผ่านมา มีรายได้ 440 ล้านบาท ขณะที่ปีนี้คาดว่าจะรับรู้รายได้สิ้นปีอย่างน้อย 1,300 ล้านบาท และยังมี back log อีก 3,000 ล้านบาทในปีหน้า ยังไม่รวมโครงการจะเปิดในครึ่งปีหลังข้างต้น มูลค่า 9,700 ล้านบาท ซึ่งหากเป็นไปตามแผน All Inspire มีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นทุกปี
“การลงทุนของ All Inspire จะเน้นในกรุงเทพ มองหาทำเลดีพัฒนาโครงการในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย เป็นแนวทางที่ชัดเจน ขณะที่ต่างจังหวัดจะยังไม่ใช่พื้นที่โฟกัสในเวลานี้”
สรุป
All Inspire เป็นบริษัทอสังหาฯ อีกรายที่พัฒนาออฟฟิศเน้น การทำงานในรูปแบบใหม่ซึ่งถือเป็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ส่วนหนึ่งยิ่งสะท้อนความตั้งใจทำธุรกิจด้านที่อยู่อาศัยให้ชัดเจนขึ้น และดูจาก 3 โครงการใหม่ที่จะเปิดให้จองในไตรมาส 3 ยิ่งน่าสนใจ ใครมองหาคอนโดฯ ไว้ น่าลองแวะไปศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา