เจาะลึก Xiaomi SU7 รถยนต์ไฟฟ้า 4 ประตูดีไซน์เฉี่ยว ที่ชื่อรุ่นย่อยคล้ายรุ่นโทรศัพท์มือถือ

วันนี้ (28 ธ.ค. 2023) Xiaomi ประกาศเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่อย่างเป็นทางการ ใช้ชื่อว่า Xiaomi SU7 มี 2 รุ่นย่อยคือ Xiaomi SU7 และ Xiaomi SU7 Max ถือเป็นการก้าวข้ามจากผู้ผลิตอุปกรณ์ และโทรศัพท์มือถือที่เชื่อมต่อทุกการใช้ชีวิตของมนุษย์ สู่การเข้ามาบุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่มีการแข่งขันอย่างดุเดือด

Xiaomi

Xiaomi เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า Xiaomi SU7

Lei Jun ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Xiaomi ประกาศเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Xiaomi SU7 มีรูปแบบเป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วนเก๋ง 4 ประตูทรงท้ายลาดตามสมัยนิยม เบื้องต้นแบ่งเป็น 2 รุ่นย่อยคือ Xiaomi SU7 และ Xiaomi SU7 Max พร้อมทำตลาดผ่านแนวคิด เดินหน้าไปด้วยเทคโนโลยีที่ผสานกันระหว่างมนุษย์ กับรถยนต์

สำหรับ Xiaomi SU7 จะมากับระบบขับเคลื่อนล้อหลัง เร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 5.28 วินาที วิ่งได้ไกล 668 กม. หลังชาร์จเต็ม ความเร็วสูงสุด 210 กม. พละกำลังสูงสุด 299 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ระยะเบรกจากความเร็ว 100-0 กม./ชม. ที่ 35.5 ม.

ส่วน Xiaomi SU7 Max จะมากับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ เร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 2.78 วินาที วิ่งได้ไกล 800 กม. หลังชาร์จเต็ม ความเร็วสูงสุด 265 กม./ชม. พละกำลังสูงสุด 673 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 838 นิวตันเมตร ระยะเบรกจากความเร็ว 100-0 กม.ชม. ที่ 33.3 ม.

Xiaomi

เบื้องต้น Xiaomi SU7 ใช้แบตเตอรี่ของ CATL ผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ของโลกจากประเทศจีน รองรับการชาร์จเร็วที่ 800 โวลต์ ที่ชาร์จเพียง 5 นาที สามารถวิ่งได้ไกล 220 กม. และชาร์จ 15 นาที สามารถวิ่งได้ไกล 510 กม. ติดตั้งบนโครงสร้างสถาปัตยกรรม Xiaomi EV Modena Architecture

หากเจาะไปที่การออกแบบจะพบว่า Xiaomi SU7 จะออกแบบให้ลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ และง่ายต่อการขับขี่ในลักษณะต่าง ๆ ส่วนเหตุที่มีการโปรโมตเรื่องระบบเบรก เพราะรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้มาพร้อมกับเบรก Brembo 4 พิสตัน รวมถึงระบบควบคุมเบรกจาก Bosch

Xiaomi

ด้านสีมีให้เลือก 3 สีด้วยกันคือ Aqua Blue, Mineral Gray และ Verdant Green ส่วนภายในตัวระบบความบันเทิงจะใช้ระบบปฏิบัติการ Xiaomi HyperOS รวมถึงมีการติดตั้งระบบรถยนต์ไร้คนขับในชื่อ Xiaomi Pilot ส่วนราคาทั้งสองรุ่นย่อย และช่วงเวลาจัดจำหน่ายยังไม่มีการเปิดเผย

อ้างอิง // Xiaomi, Twitter ของ Xiaomi

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา