ล่าสุด Jaspal Group ที่ทำธุรกิจแฟชั่นโดยมีแบรนด์หลัก เช่น CC DOUBLE O, CPS CHAPS, LYN ฯลฯ เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย โดยจะเตรียมเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 156 ล้านหุ้น และสำนักงาน ก.ล.ต. เริ่มนับหนึ่งแบบไฟลิ่งแล้ว
จรัญ สิงห์สัจจเทศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยัสปาล จำกัด (มหาชน) (Jaspal Group หรือ JPC) เปิดเผยว่า Jaspal Group ที่ทำธุรกิจแฟชั่น (รวมถึงธุรกิจที่นอนและเครื่องนอน) มามากว่า 75 ปี ล่าสุด ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบไฟลิ่ง) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 156 ล้านหุ้น คิดสัดส่วนไม่เกิน 26% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด
ทั้งนี้ สำนักงาน ก.ล.ต.ได้นับ 1 แบบไฟลิ่งแล้ว โดย JPC มีแผนนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ไปเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินธุรกิจ ลงทุนขยาย และ/หรือ ปรับปรุงสาขาและจุดจำหน่ายสินค้า รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจและชำระคืนเงินกู้ยืมจากธนาคารพาณิชย์ของกลุ่มบริษัทฯ ต่อไป
ทั้งนี้ Jaspal Group มีแบรนด์สินค้าที่กลุ่มบริษัทฯ เป็นเจ้าของ (In-house Brand) และแบรนด์ที่บริษัทฯ ได้รับสิทธิ์ให้ผลิตและเป็นตัวแทนจำหน่าย ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิ์ หรือได้รับสัญญาแฟรนไชส์ (Import Brand) รวมกันกว่า 27 แบรนด์ เช่น
- หมวด In-house Brand เช่น JASPAL, CC DOUBLE O, CPS CHAPS, LYN, lyn around เป็นต้น
- หมวด Import Brand เช่น FRED PERRY, DIESEL, Superdry
- กลุ่มธุรกิจที่นอนและเครื่องนอนทั้ง In-house Brand และ Import Brand รวม 6 แบรนด์ ได้แก่ SANTAS, SANTAS HOME, STEVENS, Sealy, TEMPUR และ ETHAN ALLEN (มีช่องทางการขายทั่วประเทศรวม 977 สาขา)
ทั้งนี้ อ้างอิงจาก Euromonitor International ระบุว่า บมจ. ยัสปาล เป็นบริษัทสัญชาติไทยที่มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับที่ 1 โดยมีส่วนแบ่งการตลาดปี 2563 – 2565 8.4%, 10.0% และ 10.5% ตามลำดับ
นอกจากนี้ ส่งผลให้อัตราการหมุนเวียนสินค้าคงเหลือในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2563-2565) ดีขึ้นต่อเนื่อง หรืออยู่ที่ 1.6, 1.7 และ 2.0 เท่า ตามลำดับ ส่งผลให้ บริษัทฯ มีความสามารถในการทำกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 50.76% ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2566
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2563-2565) บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 8,303.2 ล้านบาท 8,276.4 ล้านบาท และ 11,491.34 ล้านบาท ตามลำดับ โดยธุรกิจสินค้าแฟชั่นคิดเป็นสัดส่วน 82.5%, 82.0% และ 83.3% ของรายได้จากการขาย ซึ่งมาจาก In-house Brand 5 แบรนด์หลัก ได้แก่ JASPAL (ยัสปาล), CC DOUBLE O (ซีซี ดับเบิ้ลโอ), CPS CHAPS (ซีพีเอส แชปส์), LYN (ลิน), lyn around (ลิน อะราวนด์) ขณะที่ธุรกิจที่นอนและเครื่องนอนทำสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 17.5%, 18.0% และ 16.7% ตามลำดับ โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจาก Import Brand
ส่วนผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2566 (ม.ค. – มิ.ย. 66) บริษัทฯ มีรายได้จากการขายรวม 6,083.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.9% และกำไรขั้นต้น 3,088.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังการบริโภคภายในประเทศฟื้นตัวและจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในไทยเพิ่มขึ้น โดยธุรกิจสินค้าแฟชั่น คิดเป็น 85.1% ของรายได้จากการขาย ขณะที่ธุรกิจที่นอนและเครื่องนอนทำสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 14.9%
ที่มา บมจ. ยัสปาล (JPC)
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา