บมจ. เอส แอนด์ พี ซินดิเคท หรือ S&P อยู่ระหว่างเดินหน้าโมเดลร้านอาหารไซส์เล็ก มีไม่ถึง 20 ที่นั่ง มีแค่บางเมนูจากร้านปกติ เหตุเน้นเร็ว และสะดวก ควบคู่กับการจำหน่ายเบเกอรี่ คาดสิ้นปีเปิดให้บริการ 2 แห่ง ชี้เทรนด์ร้านอาหารหลังจากนี้จะมีขนาดเล็กลง เพราะไม่มีความจำเป็นต้องใหญ่ และเดลิเวอรีตอบโจทย์คนไทยมากขึ้น
S&P กับการเดินหน้าร้านโมเดลใหม่
อรรถ ประคุณหังสิต กรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่สายปฏิบัติการธุรกิจ S&P บมจ. เอส แอนด์ พี ซินดิเคท เล่าให้ฟังว่า ช่วง 3 เดือนก่อนหน้านี้ บริษัทได้เดินหน้าเปิดร้าน S&P โมเดลใหม่ โดยเป็นรูปแบบโมเดลร้านอาหารขนาดเล็ก ใช้ชื่อโมเดล Food & Bekery
โมเดลดังกล่าวจะเป็นร้านอาหารขนาดเล็ก มีพื้นที่ราว 100 ตร.ม. สาขาแรกตั้งอยู่ในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. สาขาพระราม 4 รองรับได้ไม่เกิน 20 ที่นั่ง เน้นจำหน่ายเมนูอาหารที่รับประทานสะดวก และปรุงได้รวดเร็ว จึงไม่สามารถปรุงได้ทุกเมนูเหมือนกับร้านอาหารปกติ และร้านดังกล่าวยังจำหน่ายเบเกอรี่เมนูต่าง ๆ ควบคู่ไปด้วย
และในช่วงปลายปี 2023 บริษัทจะเปิดร้านอาหารในโมเดลดังกล่าวอีก 1 แห่งที่สถานีบริการน้ำมัน ปตท. สาขาวิภาวดี และยังมีแผนขยายเพิ่มเติมในอนาคต โดยโมเดลดังกล่าวจะอยู่ระหว่างร้าน Bakery Shop ที่มีขนาดราว 30 ตร.ม. ขายเบเกอรี่ กับ Restaurant ที่มีขนาด 150-200 ตร.ม ขายอาหารทุกเมนู และเบเกอรี่
กระแสร้านอาหารในห้างจะถูกปรับให้เล็กลง
อรรถ เสริมว่า ทิศทางร้านอาหารในประเทศไทยหลังจากนี้ โดยเฉพาะสาขาในศูนย์การค้าจะถูกปรับขนาดให้เล็กลง เนื่องจากไม่มีความจำเป็นต้องมีขนาดใหญ่เพื่อรองรับลูกค้าจำนวนมาก เพราะผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น เช่น บริการเดลิเวอรี เมื่อต้องการรับประทานอาหาร จึงไม่มีความจำเป็นต้องมาที่ศูนย์การค้าเท่านั้น
“S&P เองเรามองเห็นเรื่องนี้ตั้งแต่โรคโควิด-19 เริ่มลดการระบาดในประเทศไทย ทำให้เราเริ่มวางแผนลดขนาดร้านอาหารที่จะเปิดใหม่หลังจากนี้จากเดิมที่ต้องมีขนาด 200 ตร.ม. เหลือ 150 ตร.ม. รวมถึงมีการปรับปรุงหน้าร้านเดิมให้เข้าเกณฑ์ดังกล่าวเช่นกัน”
S&P วางงบประมาณการปรับปรุงสาขาเดิม 100 ล้านบาท โดยจะเป็นการทยอยปรับปรุง และครึ่งแรกของปี 2023 บริษัทมีสาขา S&P แบ่งเป็นร้านอาหาร 137 แห่ง, ร้านเบเกอรี่ 273 แห่ง และร้าน DelTA (ร้านสำหรับเดลิเวอรี่ขนาดเล็ก) 33 สาขา ซึ่งร้านดังกล่าวจะรับคำสั่งซื้อจากแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ และของบริษัทที่มีพนักงานส่ง 200 คน
รายได้ปีนี้โต 15% แต่ยังไม่เท่าปี 2019
ในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 S&P มีความคาดหวังยอดขายจากแคมเปญต่าง ๆ เช่น เมนูอาหารชุดครบรอบ 50 ปี และการจำหน่ายขนมไหว้พระจันทร์ ซึ่งขนมดังกล่าวบริษัทจำหน่ายทั้งปี และช่วงเดือน เม.ย.-มิ.ย. 2023 มียอดขายเติบโต 20% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ถือเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของกลุ่มธุรกิจ Retail & Food Service
สำหรับครึ่งแรกของปี 2023 S&P ทำรายได้ทั้งหมด 2,892 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากปี 2022 แบ่งเป็นธุรกิจร้านอาหารในประเทศ 2,412 ล้านบาท, Retail & Food Service 336 ล้านบาท และธุรกิจร้านอาหารในต่างประเทศ 144 ล้านบาท
จากกลยุทธ์ดังกล่าว S&P คาดหวังรายได้ปี 2023 เพิ่มขึ้นจากปี 2022 ที่ 15% แต่ยังไม่สามารถมีรายได้เทียบเท่ากับปี 2019 หรือช่วงก่อนโรคโควิด-19 ระบาด โดยรายได้จะมากกว่าช่วงเวลาดังกล่าวในปี 2024 และหลังจากนี้ S&P จะเดินหน้ากลยุทธ์ X หรือร่วมมือกับธุรกิจต่าง ๆ มากขึ้น เช่น เมนู หรือสินค้าต่าง ๆ
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา