ขณะที่มีข่าวเริ่มต้นการผลิต Tesla Model 3 สำหรับตลาดผู้ใช้ทั่วไป อ่านข่าวได้ที่นี่ ในอีกด้านหนึ่งที่ฮ่องกง ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ของ Tesla กลับมีการลงทะเบียนซื้อในจำนวนที่น้อยลง
ต้องบอกก่อนว่า ด้วยฮ่องกงเป็นเกาะขนาดเล็ก การจะซื้อรถยนต์ได้ต้องลงทะเบียนล่วงหน้า และต้องมีเอกสารเกี่ยวข้องไม่น้อย เช่น ต้องมีบัตรประชาชนฮ่องกง, ใบอนุญาตขับขี่ อีกทั้งค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ภาษีรายปี, ค่าประกันภัย, ค่าที่จอดรถ ก็ค่อนข้างสูง ทำให้คนฮ่องกงที่สามารถซื้อรถยนต์ได้ จะเน้นรถยนต์หรูไปเลย ซึ่งรุ่นที่ขายดีมากคือ Mercedes E-Class
ด้วยนโยบายลดหย่อนภาษีรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เพื่อแก้ปัญหามลพิษทางอากาศ ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีราคาถูกลงมาก 2 ปีที่ผ่านมาจึงมีการลงทะเบียนเพื่อซื้อรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น และทำให้ฮ่องกงกลายเป็นตลาดสำคัญของ Tesla
แต่แล้วเมื่อรัฐบาลประกาศยกเลิกการลดหย่อนภาษีสำหรับรถยนต์ EV เริ่มต้นมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 เม.ย. และคาดว่าจะมีผลไปถึง มี.ค. ปีหน้า ส่งผลให้การยกเว้นภาษีจะมีผลเฉพาะกับคนที่ซื้อรถคันแรกเท่านั้น ทำให้ราคาขายใหม่ของ Tesla คือ 925,500 ดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 118,400 ดอลลาร์) สำหรับ Tesla Model S 60 จากเดิมที่มีราคา 570,000 ดอลลาร์ฮ่องกง (72,900 ดอลลาร์) และนั่นทำให้ความได้เปรียบด้านภาษีของ Tesla หายไปในทันที
อย่างไรก็ตาม ทาง Tesla เชื่อว่าฮ่องกง ยังคงเป็นตลาดที่สำคัญ แต่ยอมรับว่าการประกาศยกเลิกการลดหย่อนภาษีรถยนต์ EV ทำให้ต้นทุนภาษีเพิ่มขึ้นทันทีส่งผลต่อราคาขายที่เพิ่มขึ้นเกือบ 100% และมีผลต่อความต้องการของตลาด เห็นได้จากก่อนที่นโยบายนี้จะมีผลบังคับ (1 เม.ย.) ยังมียอดซื้อเป็นจำนวนมาก
โดยจำนวนผู้ที่ลงทะเบียนครั้งแรกเพื่อซื้อรถยนต์ Tesla ในเดือนมี.ค. มีประมาณ 2,939 คนก่อนที่นโยบายภาษีจะประกาศใช้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือน ก.พ. 5 เท่า
Elon Musk ซีอีโอของ Tesla บอกไว้ก่อนหน้านี้ว่า การลดภาษีรถยนต์ EV ของฮ่องกงเป็นอะไรที่สุดยอดมาก และคาดว่าฮ่องกงจะเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทันที โดยในปี 2015 ยอดลงทะเบียนซื้อรถยนต์ EV เติบโตขึ้น 3 เท่าจากปี 2014 โดย Tesla Model S มียอดขายเกือบ 4,200 คัน คิดเป็น 70% ในปี 2015
นอกจากฮ่องกงแล้ว จีน เป็นอีกประเทศหนึ่งที่เป็นเป้าหมายสำคัญของ Tesla โดยมีแผนที่จะตั้งโรงงานผลิตขึ้นในจีนเพื่อลดภาษีกว่า 50% ของราคารถยนต์ และนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการแก้ปัญหามลพิษทางอากาศ อีกทั้งในปี 2016 ที่ผ่านมา มียอดลงทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าในจีนกว่า 352,000 คัน เทียบกับอเมริกาที่มียอด 159,000 คัน ในเวลาเดียวกัน
ต้องบอกว่า แม้ตลาดฮ่องกงจะดูไม่สดใสนักในอนาคตอันใกล้ ส่วนหนึ่งอาจเพราะรัฐบาลฮ่องกง ต้องการจำกัดจำนวนรถยนต์ใหม่ที่จะซื้อเข้ามาใช้งาน แต่ตลาดอื่นๆ โดยเฉพาะจีนยังเป็นโอกาสที่เปิดกว้างสำหรับ Tesla
source: Quartz
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา