บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ ประเมินว่าแนวโน้มการเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยหรือ SET Index วันนี้ (8 ส.ค.) มองว่ามีแนวรับ – แนวต้านอยู่ในกรอบ 1,520/1,510 – 1,545/1,555 จุด ตามลำดับ โดยคาดว่า SET Index ฟื้นตัวได้ ด้วยปัจจัยหนุนความคืบหน้าด้านการเมือง (หลังจากเมื่อวานนี้พรรคเพื่อไทย แถลงความร่วมมือจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคภูมิใจไทย)
ทั้งนี้ มองว่าการที่แกนนำพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยแถลงจับมือตั้งรัฐบาลเป็น Sentiment เชิงบวกต่อการเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างซึ่งคาดจะปลดล็อกการเบิกจ่ายงบลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ของภาครัฐ
ด้านการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุสถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยในช่วง 7 เดือนแรกปี 2023 (ม.ค.-ก.ค.) นี้มีจำนวนรวม 15.39 ล้านคน โดยชาติที่เดินทางเข้า ไทยสูงสุดอันดับ 1 คือ มาเลเซีย อันดับ 2 คือ จีน
ขณะที่สัญญาณเทคนิคแสดงการรีบาวด์เช่นกัน หลัง SET Index ฟื้นตัวมาจากแนวรับที่ 1,520 จุด ซึ่งหากไม่ต่ำกว่าระดับนี้ยังถือเป็นสัญญาณที่ดีในระยะสั้นต่อการฟื้นตัวได้ อย่างไรก็ตาม ภาพรวม SET Index ยังอยู่ในช่วงพักฐาน ทำให้กรอบบนยังถูกจำกัดที่แนวต้าน 1,545 และ 1,555 จุด ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม SET Index ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ เพราะยังรอความชัดเจนของการจัดตั้งรัฐบาลใหม่และติดตามการเข้าสู่ฤดูกาลประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2023 ของบริษัทจดทะเบียนไทยในกลุ่ม Real Sector ท่ามกลางการคาดการณ์ตัวเลขเงินเฟ้อที่จะชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้า
ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศมองตลาดยังรอจับตาตัวเลขเศรษฐกิจจีนและสหรัฐต่าง ๆ รวมทั้งผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2023 ที่จะออกมาซึ่งคาดว่าจะมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ช้าในช่วงครึ่งปีหลัง 2023
ทั้งนี้ในช่วงสั้นแนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุน
- หุ้นที่คาดผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2023 จะออกมาอ่อนแอ และมีโอกาสตลาดจะปรับลดประมาณการ อาทิ กลุ่มอาหาร (TU, CPF, GFPT, BTG) และกลุ่มหลักทรัพย์ (ASP, MST)
- หุ้นที่คาดได้รับผลกระทบจากปรากฎการณ์เอลนีโญจากกำลังซื้อภาคเกษตรที่ลดลง ได้แก่ กลุ่มพาณิชย์ (GLOBAL) กลุ่มสินเช่ือ (MTC, SAWAD) กลุ่มยานยนต์ (SAT, STANLY) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG มีต้นทุน น้ำตาลสูง) กลุ่มโรงไฟฟ้าพลังน้ำ (CKP) รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF, GFPT)
ที่มา – บล. อินโนเวสท์ เอกซ์
อ่านเพิ่มเติม
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา