บริษัท ภูมิพัฒน์ แมนเนจเม้นท์ จำกัด ผู้ผลิตและส่งออกผ้าหนังเทียมรายใหญ่ของไทย ต่อยอดความสำเร็จธุรกิจ
อพาร์ทเม้นท์ ในทำเลพญาไท ศาลายา และโซนสมุทรสาคร พร้อมงัดแลนด์แบงก์ในมือพัฒนาเป็นโครงการคอม
มูนิตี้ มอลล์ขนาดใหญ่ เดอะ สเฟีย เพชรเกษม (The Spheres Phetkasem) เส้นเพชรเกษม – อ้อมน้อย มุ่งเติมเต็มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตของผู้อาศัยและผู้ทำงานในย่านเพชรเกษม
นางสาวอัญรินทร์ ชลสายพันธ์ ผู้จัดการ บริษัท ภูมิพัฒน์ แมนเนจเม้นท์ จำกัด ผู้พัฒนาโครงการเดอะ สเฟีย เพชรเกษม เปิดเผยว่า “ปัจจุบัน เพชรเกษม – อ้อมน้อย กลายเป็นทำเลที่น่าจับตามองและน่าลงทุน เนื่องจากการขยายตัวของระบบขนส่งมวลชนโครงข่ายรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพง – หลักสอง และบางซื่อ – ท่าพระ ได้เปิดให้บริการแล้ว ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่อาศัยในฝั่งธนบุรีและต่อเนื่องไปถึงพื้นที่ชานเมืองอย่างสมุทรสาครและนครปฐม อีกทั้งในอนาคตจะมีการก่อสร้างส่วนต่อขยายจากสถานีหลักสอง (บางแค) – พุทธมณฑลสาย 4 ก็ยิ่งเพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งปัจจัยที่ว่านี้ทำให้ราคาที่ดินในทำเลแนวรถไฟฟ้าปรับพุ่งสูง ขึ้นไม่ต่ำกว่า 6% อย่างแน่นอน โดยเฉพาะเส้นเพชรเกษม – อ้อมน้อย ที่เป็นจุดเชื่อมต่อของ 3 จังหวัด ได้แก่ สมุทรสาคร นครปฐม และกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นย่านเศรษฐกิจ มีโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมาก เป็นตลาดแรงงานขนาดใหญ่ ทำให้มีดีมานด์ที่อยู่อาศัยค่อนข้างสูง บวกกับปัจจุบัน มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งห้าง สรรพสินค้า โรงพยาบาล มหาวิทยาลัย ฯลฯ ยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงศักยภาพของทำเลย่านนี้ แต่ขณะเดียวกัน ในส่วนคอมมูนิตี้มอลล์ กลับยังไม่มีผู้ประกอบการเข้ามาพัฒนาในพื้นที่โซนนี้”
“จากผลสำรวจความต้องการของคนในพื้นที่เพชรเกษม – อ้อมน้อย โดยเฉพาะฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ พบว่ามีความต้องการแลนด์มาร์คที่เป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ของคนในพื้นที่สูงมาก ภูมิพัฒน์ แมนเนจเม้นท์ ที่เป็นผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจในย่านอ้อมน้อย จังหวัดสมุทรสาคร มาหลายเจนเนอร์เรชัน จึงตัดสินใจนำแลนด์แบงก์มาพัฒนาให้เกิดประโยชน์ต่อคนในพื้นที่ โดยจะพัฒนาเป็นโครงการประเภทรีเทล ในรูปแบบคอมมูนิตี้มอลล์ ภายใต้ชื่อ เดอะ สเฟีย เพชรเกษม (The Spheres Phetkasem) ที่มีคอนเซ็ปต์การออกแบบแนวไบโอฟิลิก (Biophilic) โดยมุ่งมั่นให้เป็นสถานที่อำนวยความสะดวก ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์อย่างครบครันของผู้อาศัยและผู้ทำงานในรัศมี 10 กิโลเมตรรอบโครงการฯ ซึ่งขณะนี้ เดอะ สเฟีย เพชรเกษม กำลังพัฒนาในเฟสแรก โดยใช้ที่ดินขนาด 18 ไร่ จากทั้งหมด 30 ไร่ ซึ่งเป็นส่วนที่ติดริมถนนเพชรเกษม บริเวณซอยเพชรเกษม 124 – 126 ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ มีพื้นที่ร้านค้าขนาด 11,000 ตารางเมตร สามารถรองรับได้มากถึง 150 ร้าน และมีสัดส่วนประเภทร้านค้าที่เป็น Food และ Non-Food อยู่ที่ 70 : 30 ทั้งยังมีพื้นที่จอดรถยนต์และรถจักรยานยนต์รวมกว่า 550 คัน”
เดอะ สเฟีย เพชรเกษม จะประกอบไปด้วยอาคารทั้งหมด 7 อาคาร ซึ่งแบ่งเป็นโซนสำหรับร้านค้าประเภทต่างๆ ดังนี้ อาคาร A เป็นโซนร้านอาหารระดับพรีเมี่ยม อาคาร B เป็นแหล่งรวมร้านอาหารแฟรนไชส์แบรนด์เนม ขณะที่อาคาร C เป็น Food Court รวมร้านดังจากย่านต่างๆ อาคาร D เป็นพื้นที่สำหรับฟิตเนสและโซนเฮลท์แอนด์บิวตี้ ส่วนอาคาร E เป็นโซนร้านอาหารแนวสตรีทฟู้ดที่เป็นที่นิยม อาคาร F เป็นซูเปอร์มาร์เก็ต และสุดท้าย อาคาร G เป็นร้านอาหารที่มีบริการแบบไดร์ฟทรู
นางสาวอัญรินทร์ กล่าวต่อว่า “เดอะ สเฟีย เพชรเกษม เป็นคอมมูนิตี้ มอลล์ที่มีมูลค่าการลงทุนรวมทั้งหมดแตะพันล้านบาท โดยแยกเป็นมูลค่าที่ดินราว 540 ล้านบาท และงานก่อสร้างไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท ทั้งยังมีงานด้านอื่นๆ อาทิ งานออกแบบภูมิทัศน์ งานตกแต่งภายใน งานระบบสาธารณูปโภค เป็นต้น ซึ่งคิดเป็นมูลค่าอีกกว่า 100 ล้านบาท”
“สำหรับทำเลที่ตั้งของเดอะ สเฟีย เพชรเกษม จะอยู่ติดริมถนนเพชรเกษมซึ่งเป็นถนนเส้นหลักของประเทศ บริเวณซอยเพชรเกษม 124 – 126 ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ มีจุดเชื่อมต่อถนนหลายสาย ได้แก่ ถนนพุทธมณฑลสาย 4 เชื่อมถนนบรมราชชนนี ถนนพุทธมณฑลเชื่อมไปถนนบรมราชชนนี และถนนเพชรเกษมไปถึงแยกบางแคเชื่อมต่อถนนกาญจนาภิเษก (หมายเลข 9) ทำให้การเดินทางมายังโครงการฯ สะดวกสบาย นอกจากนี้ ยังมีรถประจำทางผ่านหน้าโครงการฯ หลายสาย ทั้งมาจากอนุสาวรีย์ชัย ปิ่นเกล้า หมอชิต 2 เช่น สาย 123 (ฟาร์มจระเข้สามพราน – ท่าราชวรดิษฐ์) สาย 157 (อ้อมใหญ่ – หมอชิต2) สาย 81 (พุทธมณฑลสาย5 – ปิ่นเกล้า) และ สาย 539 (อ้อมน้อย – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ) เป็นต้น”
ทั้งนี้หากวิเคราะห์ตามสัดส่วนฐานประชาชนในพื้นที่และทำเลโดยรอบโครงการ เดอะ สฟีย เพชรเกษม ในช่วงรัศมี 5 – 10 กิโลเมตร จะพบว่าโครงการฯ ตั้งอยู่ในทำเลย่านเศรษฐกิจที่มีศักยภาพ มีโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปและส่งออกจำนวนมาก รวมแล้วกว่า 9,300 โรงงาน ทำให้มีผู้อยู่อาศัยหนาแน่นและมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่โครงการที่พักอาศัยโดยรอบจะมีราคาตั้งแต่ 2.9 ล้านบาทจนถึง 20 ล้านบาท มีจำนวนเกือบ 86,000 หลังคาเรือน นอกจากนี้ โครงการฯ ยังอยู่บนเส้นทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมมากมาย เช่น วัดท่าไม้ หมู่บ้านเบญจรงค์ วัดไร่ขิง ฟาร์มจระเข้สามพราน ตลาดน้ำดอนหวาย เป็นต้น
นางสาวอัญรินทร์ กล่าวว่า “โครงการฯ จะเน้นจับกลุ่มลูกค้าระดับ B+ ขึ้นไป ซึ่งมีทั้งกลุ่มพนักงานบริษัทและข้าราชการ กลุ่มผู้พักอาศัยในชุมชนพื้นที่บริเวณใกล้เคียง กลุ่มเจ้าของกิจการ เจ้าของโรงงานอุตสาหกรรม ทั้งในฝั่งสมุทรสาครและนครปฐม รองลงมาเป็นกลุ่มครอบครัวใหญ่ในจังหวัดใกล้เคียง กลุ่มนักท่องเที่ยว รวมถึงกลุ่มอาจารย์ นักศึกษา และเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์และมหาวิทยาลัยมหิดล”
ปัจจุบัน โครงการเดอะ สเฟีย เพชรเกษม ได้ก่อสร้างคืบหน้าไปแล้วมากกว่า 30% และคาดว่าจะแล้วเสร็จทันใน ช่วงปลายปี 2566 นี้ เพื่อทำการส่งมอบพื้นที่ให้กับร้านค้าผู้เช่าสำหรับเข้าตกแต่งได้ในช่วงต้นปีหน้า โดยบริษัทฯ คาดว่าโครงการฯ จะพร้อมเปิดให้บริการกับลูกค้าทั้งจากกรุงเทพฯ นครปฐม และสมุทรสาคร รวมไปถึงผู้อาศัยที่นนทบุรีบางส่วน ได้อย่างสมบูรณ์แบบในช่วงกลางปี 2567
“บริษัทฯ คาดว่าเมื่อเดอะ สเฟีย เพชรเกษม เปิดให้บริการแล้ว ในช่วงแรกวันธรรมดาจะมีผู้มาใช้บริการประมาณ 3,000 คนต่อวัน และในส่วนสุดสัปดาห์ ประมาณ 5,000 คนต่อวัน ก่อนจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และคาดว่าโครงการฯ จะเบรกอีเวนท์ในระยะเวลาประมาณ 7 – 8 ปี ซึ่งในอนาคต หากโครงการเดอะ สเฟีย เพชรเกษม ได้ผลตอบรับที่ดี บริษัทฯ ก็พร้อมที่จะเดินหน้าลงทุนพัฒนาเฟส 2 ที่มีเนื้อที่อีก 12 ไร่ โดยอาจจะพัฒนาเป็นตลาดสด เพื่อให้เป็นแหล่งรวมร้านค้าและบริการครบจบในที่เดียว” นางสาวอัญรินทร์ กล่าวทิ้งท้าย
สนใจเช่าพื้นที่ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 094-564-9563 หรือ Line OA: https://bit.ly/43TegiL
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา