“ดัชนีความยั่งยืนระดับโลก FTSE4Good” อีกหนึ่งบทพิสูจน์การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนทรู คอร์ป 

FTSE Russell สถาบันจัดทำดัชนีหลักทรัพย์ชั้นนำจากประเทศอังกฤษ ประกาศรายชื่อบริษัทที่ติดอันดับ FTSE4Good 2023 หนึ่งในดัชนีความยั่งยืนเป็นที่ยอมรับระดับสากล โดยทรู คอร์ปอเรชั่น ได้เป็นสมาชิกต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 และเป็นบริษัทโทรคมนาคมไทยรายเดียวที่ติดกลุ่มคะแนนสูงสุดอันดับโลกของกลุ่มอุตสาหกรรมโทรคมนาคมทั่วโลก โดยมีคะแนนสูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมในทุกมิติของ ESG โดยเฉพาะด้านสังคมที่ได้คะแนนเต็มจากการส่งเสริมการศึกษาเยาวชนไทยผ่านโครงการทรูปลูกปัญญา มูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์อีดี ด้านสิ่งแวดล้อม ติดตั้งพลังงานสะอาดโซล่าเซลล์ที่เสาสัญญาณและชุมสาย เดินหน้าลดก๊าซเรือนกระจก ส่งเสริมการจัดการ e-Waste อย่างถูกวิธี และด้านธรรมาภิบาล มุ่งเน้นบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์และการดูแลรักษาข้อมูลส่วนบุคคล พร้อมสนับสนุนความเท่าเทียมกันของคนทุกกลุ่มในสังคม ย้ำภาพเทคคอมปานีที่มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจเพื่อเติบโตอย่างยั่งยืน สร้างคุณค่าระยะยาวแก่สังคมไทย 

มนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “การดำเนินงานด้านความยั่งยืนเป็นสิ่งที่องค์กรทั่วโลกต่างให้ความสำคัญ เนื่องด้วยเป็นปัจจัยหลักที่จะนำพาให้ธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคง ซึ่งมีสถาบันชั้นนำระดับสากลที่จัดทำดัชนีความยั่งยืนเพื่อเป็นตัวชี้วัดและประเมินศักยภาพองค์กรทั่วโลกในการดำเนินงานในมิติต่างๆ ของ ESG และเป็นที่น่ายินดีที่ในปี 2566 นี้ ทรู คอร์ปอเรชั่น เป็นองค์กรไทยที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิก FTSE4Good Index Series ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 (2017 – 2023) จาก FTSE Russell บริษัทอิสระประเทศอังกฤษที่มีประสบการณ์จัดทำดัชนีให้แก่ตลาดหลักทรัพย์สำคัญหลายแห่งทั่วโลก ซึ่งทรู เป็นบริษัทสื่อสารโทรคมนาคมไทยเพียงหนึ่งเดียวที่ได้คะแนนรวมสูงสุดในอันดับต้น จัดอยู่ในกลุ่ม Top ของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมทั่วโลก อีกทั้ง มีคะแนนสูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม (Industry Average) ในทุกมิติของ ESG โดยเฉพาะด้านสังคมที่ได้คะแนนสูงสุด 5 คะแนน (ค่าเฉลี่ย 3) ตามด้วยสิ่งแวดล้อม 3.6 คะแนน (ค่าเฉลี่ย 2) และธรรมาภิบาล 4.5 คะแนน (ค่าเฉลี่ย 4) ทำให้มี ESG Score ภาพรวมอยู่ที่ 4.4 (ค่าเฉลี่ย 3) อันเป็นผลจากความทุ่มเทในการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานความยั่งยืนอย่างแท้จริง สานต่อโครงการสำคัญต่างๆ  จนเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยทรู คอร์ปอเรชั่น ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจควบคู่กับการพัฒนาอย่างยั่งยืน และเชื่อมั่นว่า การควบรวมองค์กร ทรู-ดีแทค จะสามารถผสานศักยภาพและจุดแข็งของทั้งสององค์กร เพื่อเร่งขับเคลื่อนบริษัทฯ สู่การเป็น Telecom-Tech Company อย่างเต็มรูปแบบ สร้างความน่าเชื่อถือให้แก่นักลงทุน พร้อมส่งมอบคุณค่าระยะยาวแก่สังคมและประเทศไทยให้ดียิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต”

ทั้งนี้ ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้ขับเคลื่อนโครงการด้านความยั่งยืนมาอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อประโยชน์ต่อสังคมและร่วมดูแลสิ่งแวดล้อม สอดคล้องและครบถ้วนตามหลักเกณฑ์การประเมินใน 14 หมวดหัวข้อที่เข้มข้นของ FTSE Russel ครอบคลุมทุกมิติ ESG ได้แก่

ด้านสังคม

  • ส่งเสริมการศึกษาเยาวชนไทยมากกว่า 34 ล้านคนผ่านโครงการทรูปลูกปัญญา และมูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์อีดี 
  • ส่งเสริมอาชีพให้กับกลุ่มเปราะบางมากกว่า 275,000 คน ผ่านโครงการความร่วมมือกับมูลนิธิออทิสติกไทย 

ด้านสิ่งแวดล้อม

  • ดำเนินการติดตั้งโซล่าเซลล์ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดที่เสาสัญญาณและชุมสายสะสม รวมทั้งสิ้นเป็นจำนวน 4,712 แห่ง สามารถลดการใช้พลังงานและผลิตไฟฟ้าได้ถึง 31,176 เมกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี อีกทั้งยังลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 13,905 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี ณ สิ้นปี 2565 
  • มุ่งสู่การเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ทางตรงและทางอ้อม (Scope 1 และ Scope 2) สุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2573 และมุ่งสู่เป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ตามแนวทาง Science-Based Target Initiative (SBTi) ภายในปี 2593
  • ส่งเสริมให้มีการนำขยะ e-Waste จากการดำเนินงานและจากผู้บริโภคไปจัดการอย่างถูกวิธี โดยไม่นำไปฝังกลบ 

ด้านธรรมาภิบาล 

  • มุ่งเน้นบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์และการดูแลรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า พนักงาน และผู้มีส่วนได้เสีย 
  • สนับสนุนความเท่าเทียมของพนักงานและคนทุกกลุ่มในสังคม 

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา