ธุรกิจเทคโนโลยียังคงมาแรงอย่างต่อเนื่อง ดูได้จากทุกธุรกิจต้องใช้ทั้งดิจิทัลและเทคโนโลยีเพื่อสร้างความได้เปรียบและแข่งขันได้ในเวทีระดับโลกได้ หรือแม้แต่กระแส ChatGPT ที่สร้างแรงกระเพื่อมให้เกิดขึ้น เพื่อบอกว่า AI คือสิ่งที่จะเป็นแกนหลักในอนาคตต่อจากนี้ และยังมีอีกหลายกเทคโนโลยีที่กำลังเป็นที่ต้องการมากขึ้น
ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจ ถ้าจะบอกว่าสตาร์ทอัพยังมีที่ทางและโอกาสอีกมาก เพียงแต่ต้องเรียนรู้จากอดีต ปรับตัวให้เข้ากับปัจจุบัน และเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต และนั่นจึงเป็นที่มาของโครงการ KATALYST STARTUP LAUNCHPAD 2023 จากธนาคารกสิกรไทย หรือ KBank ที่จัดขึ้นเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน ยิ่งเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่า โอกาสในธุรกิจสตาร์ทอัพยังเปิดกว้างอีกมาก
9 สัปดาห์แห่งการเรียนรู้กับแนวคิด Unleash Your Entrepreneurial Spirit for Sustainable Success
ขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ KBank บอกว่า KATALYST STARTUP LAUNCHPAD 2023 เป็นโครงการที่ KBank ร่วมกับโครงการวิจัยจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยแนวคิด Unleash Your Entrepreneurial Spirit for Sustainable Success ร่วมกับเมนเทอร์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านต่างๆ ทั้งในไทยและต่างประเทศ ตลอดระยะเวลา 9 สัปดาห์ของโครงการ จะอัดแน่นไปด้วยการเรียนรู้แบบเข้มข้น
จุดเด่นสำคัญของโครงการนี้คือ การได้เรียนรู้จากกูรูตัวจริง และได้ลงมือทำจริงทุกขั้นตอน โดยตลอด 3 ปีที่ผ่านมามีสตาร์ทอัพกว่า 100 รายที่ผ่านหลักสูตรและสามารถนำความรู้ประสบการณ์ที่ได้ไปต่อยอดในการทำธุรกิจจริง ท่ามกลางสภาพตลาดและการแข่งขันที่หนักหน่ว
สำหรับปีนี้ โครงการ KATALYST STARTUP LAUNCHPAD 2023 จะเน้นส่งเสริมสตาร์ทอัพที่มีผลิตภัณฑ์หรือต้นแบบ (Prototype) ที่พร้อมแล้ว โดยอยู่ในธุรกิจต่อไปนี้
- กลุ่มอุตสาหกรรมการเงิน (FinTech)
- สิ่งแวดล้อม (ESG และ Green Technology)
- ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence และ Machine Learning)
- เทคโนโลยีด้านสุขภาพ (HealthTech)
- โซลูชั่นสำหรับองค์กร (Enterprise Solution)
หลักสูตรอัดแน่น บ่มเพาะสตาร์ทอัพพร้อมลุยธุรกิจจริง
ธนพงษ์ ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด (Beacon VC) บอกว่า สตาร์ทอัพที่เกิดขึ้นใหม่หลายรายมีแนวคิดที่ดี แต่อาจจะขาดองค์ความรู้บางอย่างที่ทำให้ธุรกิจอยู่รอดและเติบโตต่อไปได้ KATALYST STARTUP LAUNCHPAD 2023 จะมาช่วยเติมเต็มส่วนนี้ ทำให้รู้ว่าอะไรคือจุดอ่อนจุดแข็ง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของการทำธุรกิจ
ดังนั้นเนื้อหาใน KATALYST STARTUP LAUNCHPAD 2023 จะช่วยพัฒนาศักยภาพของสตาร์ทอัพประกอบด้วย
- ไอเดียธุรกิจ (Team and Business Idea)
- การวิเคราะห์ความต้องการลูกค้า (Customer Needs, Market, Resources, and Competitive Advantage)
- การพัฒนาศักยภาพในการแข่งขัน (Competition and Products)
- การสร้างแบรนด์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Brand and Product)
- องค์ประกอบของความเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneurial Identity, Decision Making and Team Efficiency and First Evaluation)
- การบริหารการตลาด (Marketing, Customer Data, Freemium, Community, and Channels)
- การเงิน (Entrepreneurial Financing)
- การวางแผนธุรกิจและทักษะการนำเสนอ (Business Plan and Pitching Skills)
เสริมเนื้อหา ESG แนวคิดที่ธุรกิจยุคใหม่ต้องทำ
นอกจากนี้ ยังเพิ่มเติมเนื้อหาการบริหารจัดการธุรกิจโดยคำนึงถึงมิติด้าน สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลหรือ ESG ให้กับสตาร์ทอัพ เพื่อให้เท่าทันกับสถานการณ์ปัจจุบันซึ่งเป็นแนวโน้มที่เกิดขึ้นและได้เห็นกรณีศึกษาต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งหากจะทำธุรกิจในยุคใหม่ การให้ความสำคัญกับเรื่อง ESG เป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างจริงจัง และวางแผนให้เหมาะสมกับธุรกิจของสตาร์ทอัพ
รวมถึงโอกาสในการสร้างเครือข่ายและต่อยอดการทำธุรกิจกับผู้เข้าร่วมโครงการในรุ่นก่อนๆ และทีมสตาร์ทอัพที่มีผลงานโดดเด่นที่สุด 3 อันดับแรกจะได้รับเลือกเป็นผู้ชนะโครงการและได้รับเงินรางวัลและผลิตภัณฑ์เพื่อสนับสนุนการทำธุรกิจจากพันธมิตรของ KBank ด้วย ทั้งนี้ ตลอดทั้งโครงการจะมีสิทธิประโยชน์มอบให้ผู้เข้าร่วมอบรมรวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท รวมทั้งประกาศนียบัตรจาก KATALYST by KBank และประกาศนียบัตรสำเร็จหลักสูตรการเรียนรู้แบบออนไลน์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ซึ่งเป็นใบเบิกทางและโอกาสสำคัญในการขยายเครือข่ายทางธุรกิจกับบริษัทชั้นนำมากมายทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ต้องเข้าใจการทำธุรกิจแบบสตาร์ทอัพ เพื่อโอกาสในความสำเร็จ
HealthTAG สตาร์ทอัพ HealthTech ที่นำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาประยุกต์ใช้ในทางการแพทย์ ก่อตั้งโดยบุคลากรทางการแพทย์เป็นหลัก ทำให้เข้าใจความต้องการของอุตสาหรรมนี้เป็นอย่างดี โดยการทำธุรกิจนั้นต้องมีประสบการณ์ในการทำธุรกิจแบบสตาร์ทอัพ การทำตลาด การสร้างรายได้ให้เกิดขึ้น ซึ่งที่ KATALYST STARTUP LAUNCHPAD ตอบโจทย์ให้ทั้งหมด ได้เรียนรู้จากคนที่ทำจริง จนถึงได้ลงมือทำจริงด้วยตัวเองมีเมนเทอร์คอยมาชี้ให้เห็นเลยว่าอะไรผิดอะไรถูก ซึ่งหาไม่ได้ในโลกข้างนอกแน่นอน
ดังนั้น บอกได้เลยว่าสตาร์ทอัพที่อยากทำธุรกิจของจริง ถ้าเห็นประกาศโครงการ KATALYST STARTUP LAUNCHPAD 2023 สมัครได้ทันที
การมาร่วมโครงการนี้ จะได้เรียนรู้ทุกอย่างแบบลงมือทำจริง เห็นภาพของ Overall Business Planning การคิดอย่างเป็นระบบตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ได้สร้างเครือข่าย ได้เจอทีมสตาร์ทอัพและเมนเทอร์ ที่หลากหลาย และได้คำแนะนำที่เฉพาะสำหรับธุรกิจของเรา ที่นำไปปรับใช้ได้จริง
อย่ามองแค่ประเทศไทย แต่ต้องไประดับโลก
iFLOWTECH บริษัท Deep tech ที่มุ่งเน้นการพัฒนาความเป็นอยู่ และคุณภาพชีวิตของมนุษย์ผ่านการแก้ไขปัญหาทั้งด้านน้ำ และสิ่งแวดล้อม เพื่อความยั่งยืน อีกหนึ่ง KATALYST ‘s Alumni ที่พัฒนาเทคโนโลยี Maxflow ใช้ในการปรับคุณสมบัติน้ำ ด้วยแม่เหล็กถาวร ที่ได้รับการจดสิทธิบัตรเป็นที่เรียบร้อย โดยสามารถช่วยเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร เพิ่มกำไร ลดต้นทุน ได้อย่างยั่งยืน
iFLOWTECH เข้าร่วมโครงการ KATALYST STARTUP LAUNCHPAD เพราะต้องการขยายตลาดสู่ระดับโลก ซึ่งจากการเข้าร่วมได้เรียนรู้จริง ลงมือทำจริง อุดรูรั่วในกระบวนการคิด วิเคราะห์ ปฏิบัติงาน ได้รับคำแนะนำจากเมนเทอร์ระดับโลก
ตามเนื้อหาหลักสูตร iFLOWTECH ได้เรียนรู้ในทุกส่วนตั้งแต่การวัดความเป็นผู้ประกอบการ เรียนรู้ความต้องการของตลาด การแข่งขัน การสร้างแบรนด์ เรื่องการเงิน จนถึงการทำ Pitching และที่โครงการนี้ให้ทำจริงทั้งหมด ไม่เรียนจากทฤษฎี และอยากบอกสตาร์ทอัพทุกทีมว่า มองให้ไกลกว่าประเทศไทย จะทำธุรกิจสตาร์ทอัพต้องไประดับโลก ซึ่งการมาร่วมโครงการนี้ได้เรียนรู้จากตัวจริงทุกคน คือโอกาสสำคัญที่ไม่ควรพลาด
กำหนดช่วงเวลารับสมัคร
ย้ำอีกครั้งว่า สตาร์ทอัพไม่ควรพลาดโครงการ KATALYST STARTUP LAUNCHPAD 2023 ยิ่งถ้ามีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขที่กำหนด นี่คือโอกาสครั้งสำคัญ โดยมีกำหนดการดังนี้
- เปิดรับสมัคร: 1-31 กรกฎาคม 2566
- ประกาศผลผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าโครงการ: 17 สิงหาคม 2566
- ระยะเวลาเรียน: 4 กันยายน – 29 ตุลาคม 2566
- Final Pitching Day: 27 พฤศจิกายน 2566
ดูรายละเอียดหลักสูตร คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ และสมัครได้ทางเว็บไซต์ของ KATALYST ที่ https://launchpad.klandingservice.com หรือติดตามความเคลื่อนไหวของโครงการทางเฟซบุ๊กที่ https://www.facebook.com/KATALYSTbyKBank
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา