เป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา เมื่อองค์กรมุสลิมในอินโดนีเซียและมาเลเซียเรียกร้องให้ชาวมุสลิมคว่ำบาตร Starbucks เนื่องจากมีท่าทีสนับสนุนกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ และดูเหมือนว่าจะต้องการให้เพิกถอนในอนุญาตกันเลยทีเดียว
แค่คว่ำบาตรไม่พอ ยังขอร้องให้รัฐจัดการขั้นเด็ดขาด
ผู้นำจากมูฮัมมาดียะห์ (Muhammadiyah) องค์กรมุสลิมที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของอินโดนีเซีย เรียกร้องให้ชาวมุสลิมในอินโดนีเซียคว่ำบาตร Starbucks เนื่องจาก Starbucks มีท่าทีสนับสนุนกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศหรือ LGBT และมากกว่านั้น ยังมีความพยายามในการเรียกร้องให้รัฐบาลเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจของ Starbucks อันเนื่องมาจากสาเหตุเดียวกันนี้ด้วย
นายแอนวาร์ อับบาส หัวหน้าฝ่ายกิจการเศรษฐกิจของมูฮัมมาดียะห์ ระบุว่า “ธุรกิจและมุมมองของ Starbucks ขัดต่ออุดมการณ์ของพวกเรา”
เหตุผลของการคว่ำบาตรครั้งนี้ เนื่องจากต้องการทำให้ Starbucks ในอินโดนีเซียมีรายได้ไม่เพียงพอที่จะไปสนับสนุนแคมเปญกับกลุ่ม LGBT
ส่วนในมาเลเซียเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา องค์กร Pribumi Perkasa ได้เรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนใบอนุญาตการค้ากับบริษัทห้างร้านต่างๆ ในมาเลเซียที่สนับสนุนการแต่งงานของคนเพศเดียวกันและกลุ่ม LGBT แน่นอนว่า Starbucks เป็นหนึ่งในนั้น
สิ่งที่ควรรู้คือ นอกจากมาเลเซียจะมีประชากรกว่า 60% เป็นชาวมุสลิมแล้ว ประเด็นรักร่วมเพศยังถือเป็นเรื่องต้องห้ามในมาเลเซีย เพราะมีโทษทางกฎหมายจำคุกสูงถึง 20 ปี
สรุป
การประกาศคว่ำบาตร Starbucks ขององค์กรมุสลิมในอินโดนีเซียและมาเลเซียเป็นเรื่องเข้าใจได้ เพราะอินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีชาวมุสลิมมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนมาเลเซียก็เป็นประเทศมุสลิมที่มีความเคร่งครัด สิ่งที่ต้องจับตามองหลังจากนี้ นอกจากความเป็นอนุรักษ์นิยมที่สูงขึ้นของกลุ่มประเทศมุสลิมแล้ว คงจะเป็นธุรกิจข้ามชาติที่จะต้องทำการบ้านให้หนักขึ้น เพราะแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน ยิ่งเป็นประเด็นทางศาสนา/ความเชื่อด้วยแล้ว ต้องทำธุรกิจด้วยความละเอียดอ่อนสูง ไม่เช่นนั้นจะเป็นปัญหาได้
ที่มา – Rappler
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา