ตอนนี้ใครๆ ก็หันมาสนใจสกุลเงินดิจิทัลอย่าง Bitcoin กันมากขึ้น และจะเรียกว่าฟองสบู่กลายๆ ก็คงไม่ผิดนัก แต่จากภาวะตลาดเหล่านี้ Goldman Sachs ธนาคารระดับโลกยังคาดการณ์ว่า Bitcoin จะพุ่งไปถึง 3,915 ดอลลาร์สหรัฐได้
จังหวะลงทุนต้องดี ถ้าทำได้กำไรเลย 110%
จากการเติบโตของมูลค่า Bitcoin ถึง 290% เมื่อเทียบกับปี 2559 ทำให้ปีนี้นักลงทุนทั่วโลกเริ่มจับตามองสกุลเงินดิจิทัลตัวนี้มากขึ้น เพราะมองเห็นโอกาสในการเติบโต และความต้องการของตลาด แต่การลงทุนทั้งหมดนี้ก็มีความเสี่ยง เพราะมูลค่าของ Bitcoin ก็ยังผันผวนค่อนข้างแรง เช่นเดือนก่อนก็มีมูลค่าลดลงถึง 800 ดอลลาร์ในระยะเวลาแค่ 3 วัน
Sheba Jafari นักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs มองว่า ถึงมูลค่าจะผันผวนแรง แต่สัญญาณการเติบโตในระยะยาวของ Bitcoin ยังดีอยู่ โดยหลังจากนี้มูลค่าสกุลเงินดิจิทัลดังกล่าวอาจลดลงเหลือ 1,857 ดอลลาร์/BTC หรือราว 63,000 บาท จากมูลค่าปัจจุบันที่ 2,568 ดอลาร์/BTC ก่อนจะพุ่งทยานไปที่ 3,212-3,915 ดอลลาร์/BTC
ดังนั้นหากนักลงทุนทำการซื้อขายในช่วงจังหวะที่ถูกต้อง ก็สามารถทำผลกำไรได้ถึง 110% และหากมูลค่า Bitcoin แตะที่ 3,915 ดอลลาร์/BTC จริง ก็ทำให้มูลค่ารวม (Market Capitalization) ของ Bitcoin เพิ่มขึ้นอีก 22,000 ล้านดอลลาร์ จากปัจจุบันอยู่ที่ 32,000 ล้านดอลลาร์
นักขุดมือใหม่ในไทยตื่นทองกันคึกคัก
ก่อนหน้านี้วงการ Bitcoin ในประเทศไทยอาจเป็นเรื่องใหม่ แต่จากการเติบโตของมูลค่า ทำให้คนไทยหันมาตื่นเต้นกับเรื่องนี้มากขึ้น สังเกตจากการลงทุนประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์หลักแสนเพื่อขุด (Mining) ตัว Bitcoin ให้ได้มาก และเร็วที่สุด จน Graphic Card อีกอุปกรณ์หลักในการประกอบเครื่องดังกล่าวเกิดอาการขาดตลาด
ประกอบกับเริ่มมีบางร้านค้ารับชำระเงินด้วย Bitcoin กันมากขึ้น เพราะถือเป็นสกุลเงินสากล และง่ายต่อการชำระ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่หากชำระด้วย Ewallet ของประเทศนั้นๆ เช่น WeChat Pay หรือ Alipay ก็ต้องหักค่าความเสี่ยงแลกเปลี่ยนค่าเงิน แต่หากชำระด้วย Bitcoin ก็เหมือนการโอนเงินให้กันปกติ
สรุป
แม้โอกาสมูลค่า Bitcoin จะทะยานขึ้นไปกว่า 1,000 ดอลลาร์ หรือราว 34,000 บาท แต่ทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง หากเข้าซื้อผิดเวลา ก็อาจต้องพ่ายแพ้ในตลาดนี้ไป ประกอบกับการประกอบเครื่อง Mining ช่วงนี้ก็ใช่ว่าจะกำไร เพราะระยะเวลาการขุดหา Bitcoin จะยากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากนี้
อ้างอิง // Fortune
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา