Mark Butler รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของออสเตรเลีย ได้กล่าวว่า บุหรี่ไฟฟ้าทำให้คนรุ่นใหม่ในประเทศติดนิโคตินมากขึ้น กระทรวงจึงเตรียมออกมาตรการใหม่ เน้นไปที่การปราบปรามการนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง และบุหรี่ไฟฟ้าที่ไม่ได้ถูกใช้งานเพื่อจุดประสงค์ทางการแพทย์ จากเดิมที่ค่อนข้างเข้มงวดกับบุหรี่ไฟฟ้าอยู่แล้ว และอนุญาตให้ใช้เฉพาะทางการแพทย์หรือมีใบสั่งยาจากแพทย์เท่านั้น
หากเป็นการนำเข้าหรือจำหน่ายเพื่อจุดประสงค์ทางการแพทย์ ผลิตภัณฑ์ต้องมีฉลากแบบเดียวกับเวชภัณฑ์อื่นๆ รวมถึงระบุรายละเอียดของผลิตภัณฑ์อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น รส กลิ่น ปริมาณนิโคติน แต่ทั้งนี้รัฐบาลก็จะปรับให้ใบสั่งยาจากแพทย์ได้ง่ายขึ้น ซึ่งมาตรการที่ว่านี้ รอกำหนดบังคับใช้ต่อไปในอนาคต
ออสเตรเลียมีกฎห้ามการซื้อขายบุหรี่ไฟฟ้าที่เข้มงวดอยู่แล้ว แต่ก็ยังมีการซื้อขายใต้ดินเกิดขึ้น จนบุหรี่ไฟฟ้ากลายเป็นกิจกรรมเพื่อความบันเทิง เกิดเป็นปัญหาติดนิโคตินในกลุ่มเยาวชน โดยเฉพาะในโรงเรียน ซึ่ง Butler มองว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นเพียงการสูบบุหรี่ในรูปแบบใหม่ ที่เปลี่ยนแพ็คเกจ เพิ่มรสชาติ แต่สุดท้ายผลจะตกอยู่ที่การติดนิโคตินอยู่ดี นั่นอาจไม่เกินจริงนัก จากผลการสำรวจ 1 ใน 6 ของเด็กอายุ 14-17 ปี และ 1 ใน 4 ของวัยรุ่นอายุ 18-24 ปี มีบุหรี่ไฟฟ้าไว้ในครอบครอง
แม้ในบางประเทศ อย่างอังกฤษจะมีการแจกบุหรี่ไฟฟ้าฟรี เพื่อลดการสูบบุหรี่จริงในโครงการ ‘swap to stop’ เพราะถือว่ามีอันตรายน้อยกว่าบุหรี่จริง แต่ทางฝั่งออสเตรเลียกำลังเผชิญปัญหาเยาวชนติดนิโคตินมากขึ้นจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้า
โดยรวมแล้ว เป็นการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง รวมถึงบุหรี่ไฟฟ้าที่ไม่ได้รับอนุญาตทางการแพทย์ เพื่อลดจำนวนการเสพติดนิโคตินในเยาวชน จึงมีแผนที่จะงดจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง ที่มีรสชาติดึงดูด เพื่อไม่ให้เกิดการสูบเพื่อสันทนาการในกลุ่มเยาวชน
อ้างอิง
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา