หลังเผชิญความผันผวนในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ไทยมีพฤติกรรมและมุมมองบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไป Google ได้สรุป 3 เทรนด์อสังหาริมทรัพย์ล่าสุดของปีนี้ ที่แบรนด์และนักการตลาดควรทราบ เพื่อก้าวทันความพฤติกรรมผู้บริโภคและความคาดหวังต่อแบรนด์ที่เปลี่ยนไป
1. ผสานชีวิตออนไลน์และออฟไลน์
ปัจจุบันคนไทยส่วนใหญ่ได้ผสานชีวิตออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกันเพื่อช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น Google เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงนี้ในผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยเช่นกัน ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะมีประเภทของอสังหาริมทรัพย์และทำเลในใจ เมื่อเริ่มมีความสนใจซื้ออสังหาริมทรัพย์จากนั้นจึงหาข้อมูลเพิ่มเติมผ่านช่องทางออนไลน์
โดย 3 ช่องทางหลักที่ผู้บริโภคใช้ยังคงเป็นการใช้ช่องทางออนไลน์ อย่างการค้นหาบน Search และ YouTube เหมือนปีที่ผ่านมา ที่สูงถึง 97% และเมื่อเลือกโครงการที่สนใจได้แล้ว 84% ของผู้บริโภคขยับไปในช่องทางออฟไลน์อย่างการเยี่ยมชมโครงการหรือสถานที่จริง
แนวทางสำหรับนักการตลาด
ผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์นั้นเจอกับทัชพอตย์มากมายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ซึ่งแบรนด์สามารถใช้โอกาสตรงนี้ได้ด้วยโซลูชันอย่าง Performance Max โดยใช้ Audience Signals ที่มีประสิทธิภาพเป็นตัวชี้นำให้ระบบ AI ของ Google ได้ช่วยทำงานเพื่อให้ผู้ซื้อตอบสนองตามเป้าหมายออนไลน์ และออฟไลน์ (การโทร, การขอเส้นทาง) ที่นักการตลาดต้องการ และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับแคมเปญโฆษณาและสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจได้
2. มุมมองการให้คุณค่าเริ่มเปลี่ยนไป
คนไทยเริ่มเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการให้คุณค่า โดยเทรนด์ของความเป็นอยู่ที่ดีกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น แม้ว่าราคาจะยังเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจ แต่ปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตอย่างการออกแบบ พื้นที่ความสะดวกในการเดินทาง และสถานที่ตั้ง ได้กลายเป็นเกณฑ์สำคัญในการเปรียบเทียบตัวเลือก
ซึ่งจากเทรนด์ดังกล่าวจะเห็นได้ว่าปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจ 3 อันดับแรก คือ “สภาพแวดล้อมรอบๆ โครงการ” 84% ความสะดวกในการเดินทาง 82% และพื้นที่ใช้สอย 80% และคำค้นหาบน Search ที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยข้างต้นที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ “คอนใกล้ ม.” เพิ่มขึ้น 70% “คอนโดใกล้ bts” เพิ่มขึ้น 105% และ “แบบบ้านสองชั้น โล่งโปร่งสบาย” เพิ่มขึ้น 130%
แนวทางสำหรับนักการตลาด
เพราะ Search ยังคงเป็นหนึ่งในเส้นทางยอดนิยมในการหาข้อมูลก่อนซื้ออสังหาริมทรัพย์ แบรนด์จึงควรคำนึงถึงการแสดงตัวเมื่อลูกค้าค้นหาข้อมูลอยู่เสมอเมื่อวางแผนการตลาด อีกทั้งยังสามารถนำศักยภาพของ AI มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ Search ขึ้นไปอีกขั้นได้ เช่น โซลูชั่น Broad Match ที่ช่วยจับคำค้นหาที่เกี่ยวข้อง ทำให้แบรนด์ตามทันความต้องการของผู้บริโภคในทุกขั้นตอนก่อนที่พวกเขาจะตัดสินใจซื้อ
3. วิดีโอเข้ามามีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจมากขึ้น
ด้วยข้อมูลอันท่วมท้นประกอบกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ผู้บริโภคต้องพิถีพิถันในการเฟ้นหาแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้มั่นใจว่าได้สินค้าที่มีคุณภาพดีและคุ้มค่า วิดีโอจึงเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อได้อย่างมั่นใจ ซึ่งผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยได้ยกให้ YouTube เป็นสื่อออนไลน์อันดับ 1 ที่พวกเขาใช้หาข้อมูลเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือและชื่อเสียงของแบรนด์
ซึ่ง 89% ของผู้บริโภคต้องการความเชื่อมั่นในแบรนด์ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ การค้นหาข้อมูลออนไลน์ผ่านวิดีโอเกี่ยวกับบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียมจึงเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งการค้นหา “รีวิว บ้านเดี่ยว” เพิ่มขึ้น 140% และ “รีวิว คอนโด” เพิ่มขึ้น 60%
แนวทางสำหรับนักการตลาด
YouTube เป็นอีกหนึ่งช่องทางสื่อที่สำคัญที่แบรนด์ไม่ควรมองข้าม เพราะไม่เพียงจะช่วยสื่อสารคุณสมบัติ อย่างการออกแบบ พื้นที่ สถานที่ตั้ง และสภาพแวดล้อมโดยรอบของโครงการไปยังผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังสื่อถึงความน่าเชื่อถือของแบรนด์ได้เช่นกัน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา