Carpool ปิ๊งไอเดียประกันรถยนต์แบบ Peer-to-Peer รวมกลุ่มกันขับดีมีคืนเงิน

startup ในสาย FinTech นอกจากสายการเงินโดยตรงแล้ว ยังรวมถึงสายประกัน หรืออาจจะเรียกแยกออกมาเป็นกลุ่ม InsureTech ก็ได้ ที่ผ่านมาอาจจะเห็นมีมาให้บริการบ้างในลักษณะโบรกเกอร์ เปรียบเทียบราคาออนไลน์เพื่อดึงดูดใจลูกค้าที่อยากได้ประกันภัยรถยนต์ราคาต่ำลงมาหน่อย

สำหรับ Carpool เป็น InsureTech ที่ทำหน้าที่โบรกเกอร์ประกันภัยเช่นเดียวกัน แต่ได้สร้างโมเดลการทำประกันแบบใหม่ที่เรียกว่า Peer-to-Peer และเป็นการนำมาใช้ในประเทศไทยเป็นครั้งแรก

Peer-to-Peer ขับรถดีมีคืนเงิน

เอศ ศิริวัลลภ ผู้ก่อตั้งและกรรมการ บริษัท คาร์พูล อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด หรือ Carpool บอกว่า นี่คือปีที่ครบกำหนด 5 ปีของโครงการรถยนต์คันแรก เป็นการปลดล็อกให้เจ้าของรถสามารถขายรถคันเดิมและเปลี่ยนรถคันใหม่ได้ ค่ายรถยนต์จึงเชื่อว่า ปีนี้ตลาดรถยนต์รวมน่าจะขยับตัวดีขึ้น และตลาดประกันภัยรถยนต์ก็น่าจะดีขึ้นตามไปด้วย

Carpool จึงได้ร่วมมือกับ เมืองไทยประกันภัย เพื่อนำแนวคิด ประกันภัยแบบ Peer-to-Peer มาใช้ ซึ่งต้องการตอบเจ้าของรถผู้ทำประกันภัยว่า ถ้าขับรถดี ไม่มีประวัติการเคลมประกัน ทำไมต้องจ่ายเบี้ยแพงทุกปี

จากข้อมูลในธุรกิจประกันภัยรถยนต์พบว่า 90% ของผู้เอาประกันเป็นผู้ขับขี่ปกติที่ใช้รถทั่วไป ในขณะที่ 10% เป็นผู้ขับรถประมาทที่บริษัทประกันต้องจ่ายค่าเคลมเกินค่าเบี้ยที่กลุ่มนี้จ่ายไปถึง 3 เท่าตัวทุกปี ดังนั้นถ้าทำระบบ Carpool ขึ้นมาเพื่อลดค่าเบี้ยประกัน และได้รับเงินบางส่วนคืน น่าจะเป็นทางออกที่ดี

ทำไมถึงได้เงินคืน 30%

เอศ อธิบายง่ายๆ ว่า ประกันรูปแบบ Peer-to-Peer จะช่วยให้คนขับรถดี ไม่มีการเคลมได้รับส่วนลดประวัติดี พร้อมรับเพิ่มเงินคืนสูงสุด 30% เพราะ Carpool ให้ผู้เอาประกันภัยช่วยคัดกรอง แยกแยะแต่ผู้ขับรถดี โดยไม่รวมผู้ขับรถประมาทเข้าร่วมกลุ่ม เพื่อร่วมแชร์ความเสี่ยงค่าเคลม ที่อาจจะเกิดขึ้น วิธีการนี้จะช่วยให้บริษัทประกันประหยัดค่าเคลมและสามารถนำเงินส่วนนี้คืนให้กับผู้เอาประกันภัย

สิ่งที่ผู้ทำประกันในกลุ่มจะได้ กรณีที่ไม่เคลม (หรือเคลมไม่เกิน) จะได้เงินคืน 30% ของเบี้ยประกันทุกปี โดยได้ความคุ้มครองชั้น 1 จาก เมืองไทยประกันภัย ค่าชดเชยรักษาพยาบาลผู้ป่วยในสูงสุด 3,000 บาทต่ออุบัติเหตุ และค่าเดินทางระหว่างซ่อมรถ 3,000 บาท รวมทั้งส่วนลดประวัติดี 20- 50% เมื่อต่ออายุประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ในปีถัดไป

“Carpool ช่วยคัดกรองคนขับรถดีให้กับบริษัทประกันภัย ลดค่าใช้จ่ายจากการเคลม จึงนำเงินบางส่วนกลับมาคืนให้ผู้ทำประกัน แนวคิดจะช่วยสร้างกลุ่มคนขับรถดี ลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินบนท้องถนนให้น้อยลง”

เอศ บอกว่า ตลาดประกันภัยรถยนต์ปัจจุบันมีขนาดตลาดมากกว่า 1 แสนล้านบาท มีอัตราเติบโตเฉลี่ยปีละ 1.38% สำหรับปี 2560 คาดการ์ณว่าจะมีแนวโน้มที่มีอัตราการเติบโตสูงขึ้นจากปัจจัยบวกการครบกำหนด 5 ปีของโครงการรถยนต์คันแรก Carpool จะเติบโตตามตลาดและตั้งเป้าว่าจะมีลูกค้าสมัครใช้ในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 600-1,000 กลุ่ม คิดเป็นสมาชิกทั้งสิ้น 6,000 คน มูลค่ากรมธรรม์รวม 100 ล้านบาท

สรุป

ถือเป็นแนวคิดใหม่สร้าง ประกันกลุ่มเล็ก ที่จะตรวจสอบกันเอง และยังมีเงินรางวัลจาก “เพื่อนชวนเพื่อน” ด้วย เป็นสิ่งที่สะท้อนแนวคิดว่า startup สามารถสร้างสรรค์โปรดักส์รูปแบบใหม่ๆ ออกมาเจาะความต้องการของตลาดได้ดี แต่จะได้ผลทางการตลาดมากน้อยแค่ไหน ต้องรอดู

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา