การพัฒนาคนยังคงเป็นกลยุทธ์สำคัญของทุกประเทศ ยิ่งในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ยิ่งต้องยกระดับให้คนมีความเข้าใจและใช้ประโยชน์จากดิจิทัลและเทคโนโลยีให้มากยิ่งขึ้น
ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) บอกว่า การเดินหน้าโครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล เป็นโครงการที่ DEPA ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลเข้าไปขับเคลื่อนเศรษฐกิจในชุมชน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนไทยในทุกระดับ
โครงการนี้ ช่วยเหลือและพัฒนาชุมชน วิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการ ด้วยการเคลื่อนย้ายข้อมูลสู่ดิจิทัล ในลักษณะของการส่งวิทยากรอาสา (Agent) 400 คน ลงพื้นที่อบรมผู้ประกอบการในพื้นที่ 10 จังหวัดนำร่อง ครอบคลุมภาคเหนือ ภาคอีสานและภาคใต้ ได้แก่ เชียงใหม่ ลำปาง น่าน สกลนคร ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา ภูเก็ต นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี รวม 4,ooo คน ทำให้ผู้ประกอบการในพื้นที่สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลให้เกิดการพัฒนาที่เป็นประโยชน์กับธุรกิจของตัวเอง และขยายผลไปยังผู้ประกอบการอื่นๆ ในพื้นที่ของชุมชน
ผลของโครงการที่ออกมา ทำให้เกิดการมีส่วนร่วมของชุมชนในทุกระดับ นอกเหนือจากระบบ Thailand I love U ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นแบบบูรณาการทั้งด้านการวางแผนเส้นทางท่องเที่ยว การซื้อสินค้าและบริการซึ่งเป็นส่งเสริมการท่องเที่ยวในระดับชุมชน
การประกวด B2C Application from Tech-Startup ในหัวข้อ “The Better THAILAND with Digital Services” ยังเป็นการดึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีความคิดสร้างสรรค์และมีศักยภาพ เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาแอปพลิเคชั่น เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวและการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนด้วยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล
“วิทยากรอาสา 400 คน ที่ลงพื้นที่ให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ 4000 คน ถือเป็นตัวแปรและเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างมูลค่าและพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ซึ่งโครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล เป็นการสานต่อนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการเข้าเสริมจุดแข็งให้กับชุมชน รวมทั้งแอปพลิเคชั่น Thailand I Love U ที่จะเข้าไปส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยในระดับชุมชน ซึ่งตรงนี้จะเข้าไปเชื่อมโยงกับไปรษณีย์ไทย ที่เป็นเจ้าภาพหลักในการส่งเสริมและผลักดันผลิตภัณฑ์ชุมชนให้สามารถแข่งขันในระดับประเทศ ระดับภูมิภาคอาเซียน ตลอดจนตลาดโลกได้”
DEPA จะพัฒนาต่อยอด เพื่อให้ชุมชนทั้งประเทศ เพื่อรองรับการเติบโตของดิจิทัลในอนาคต เกิดความเข้มแข็งและพัฒนาอย่างยั่งยืน ตลอดจนทำให้ชุมชนสามารถเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้ โดยตั้งเป้าหมายไว้ว่าใน 20 ปีข้างหน้า จะต้องมีผู้ประกอบการที่มีศักยภาพในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ทั้ง Digital Entrepreneur 500,000 ราย เพื่อจะพลิกโฉม 24,700 ชุมชน ใน 77 จังหวัด 3 ล้านเอสเอ็มอี และ 5 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศให้ขับเคลื่อนโดยฐานดิจิทัลซึ่งเป็นแบบใหม่ของระบบเศรษฐกิจประเทศ
แผนระยะยาวจะถูกกำหนดไว้ 20 ปี แต่ DEPA มั่นใจว่า การพัฒนาบุคลากรและสร้างคนด้านดิจิทัล สามารถดำเนินการให้เห็นผลได้ภายในกรอบระยะสั้น 5 ปี (2560 – 2564) เนื่องจากเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การดำเนินให้ได้ตามแผนระยะสั้น จึงถือว่ามีความสำคัญ ทั้งนี้ ภายในงานได้มีพิธีมอบรางวัลให้กับผู้ชนะการประกวด B2C Application from Tech-Startup ในหัวข้อ “The Better THAILAND with Digital Services”
- ภาคกลาง รางวัลชนะเลิศ Liluna รางวัลรองชนะเลิศ TripGuru รางวัลชมเชย 2 รางวัล คือ Huolto และ 9 วัด ปัง ปัง @dbizcomSDU
- ภาคเหนือ รางวัลชนะเลิศ Knight Club รางวัลรองชนะเลิศ Thai Portals
- ภาคตะวันออกรางวัลชนะเลิศ ทีม Yusai รางวัลรองชนะเลิศ mRestaurant
- ภาคใต้รางวัลชนะเลิศ Miex รางวัลรองชนะเลิศ Handigo Thailand
ผู้ชนะเลิศได้รับเงินรางวัล 250,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศ 120,000 บาท และรางวัลชมเชย 60,000 บาท
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา