เข้าสู่ปีที่ 5 แล้วสำหรับ IMET MAX โครงการที่มุ่งพัฒนา และยกระดับ ผู้บริหารรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพสูง ให้เป็นผู้นำที่ดี และสามารถสร้างประโยชน์ที่มีคุณค่าให้ตนเอง, สังคม และประเทศ
จุดแข็งของ IMET MAX นอกจาก Mentor ระดับผู้นำแถวหน้าของประเทศ ยังมีเรื่องเนื้อหาที่เข้มข้นตลอดระยะเวลา 12 เดือน ไม่เน้น Networking หรือปาร์ตี้เหมือนกับโครงการอื่น ที่สำคัญคือไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ในการเข้าร่วม
IMET MAX ปีที่ 5 นี้จะมีใครเข้ามาเป็น Mentor บ้าง และความสำเร็จของ Mentee รุ่นก่อนเป็นอย่างไร Brand Inside เตรียมคำตอบไว้ให้ดังนี้
IMET MAX โครงการบ่มเพาะผู้นำที่แตกต่าง
IMET MAX เป็นโครงการบ่มเพาะผู้นำของ มูลนิธิเพื่อสถาบันการศึกษาวิชาการจัดการแห่งประเทศไทย หรือ IMET เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรที่ก่อตั้งมา 40 ปี มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ มุ่งเน้นพัฒนาความสามารถด้านการบริหาร การจัดการ ผ่านการประสานความร่วมมือกับหลายภาคส่วน สร้างขีดความสามารถให้กับผู้นำองค์กร
ก่อนหน้านี้ IMET เคยจัดอบรมต่าง ๆ เช่น โครงการพัฒนานักธุรกิจส่วนภูมิภาคทุกระดับทั่วประเทศ ที่มีผู้เข้าอบรมรวมกว่า 18,000 คน และมีการปรับเปลี่ยนเนื้อหาให้เข้ากับยุคสมัย พร้อมมีคณะกรรมการใหม่ ๆ เข้ามาช่วยขับเคลื่อนหน่วยงาน จนเมื่อ 4 ปี ก่อน IMET ได้เริ่มโครงการ IMET MAX ที่เน้นบ่มเพาะผู้นำองค์กรรุ่นใหม่โดยเฉพาะ
“เราเริ่ม IMET MAX เมื่อ 4 ปีก่อน เพราะเชื่อว่าผู้บริหารรุ่นใหม่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว พวกเขาอาจมีปัญหา แต่ไม่รู้จะไปคุยกับใคร IMET MAX จึงขอช่วยพวกเขา ชวนคิด ช่วยคิด และสะท้อนมุมมองต่าง ๆ ในการคิด” ธนพล ศิริธนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Country CEO) บมจ.เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) และประธานโครงการ IMET MAX กล่าว
คนต้องลับคมด้วยคน เหมือนเหล็กลับคมด้วยเหล็ก
ธนพล ยังเสริมว่า จากความเชื่อเรื่อง คนต้องลับคมด้วยคน เหมือนกับเหล็กลับคมด้วยเหล็ก ทำให้ IMET MAX ชักชวนผู้นำระดับแถวหน้าของประเทศเข้ามาเป็น Mentor ในโครงการ และพัฒนา Mentee ตามหลักการ Wisdom for Life and Social Values
“ตอนนี้เราเห็นหลักสูตรผู้นำเยอะมาก แต่จะเน้น Networking หรือปาร์ตี้ มากกว่า แต่ของ IMET MAX ไม่ใช่เลย เพราะเราเน้นสอน และชวนคิดจริง ๆ เพื่อช่วย Mentee ให้ค่อย ๆ เติบโต และเป็นคนดีของสังคม ทั้งไม่มีค่าใช้จ่ายในการสมัครเข้าร่วมโครงการ”
ตลอดระยะเวลา 4 ปีของ IMET MAX มูลนิธิ IMET ได้สร้าง และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ให้กับ Mentor และ Mentee รวมแล้วกว่า 155 คน โดยในปีนี้โครงการ IMET MAX เปิดรับสมัครผู้นำรุ่นใหม่ที่เป็นคนดี มีศักยภาพสูง และมีความต้องการพัฒนาตนเองด้วยกระบวนการ Mentoring ให้เข้าร่วมโครงการ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
รู้จัก Mentor ทั้ง 12 ท่านที่เข้าร่วมโครงการ IMET MAX
สำหรับโครงการ IMET MAX รุ่นที่ 5 ได้รับเกียรติจาก 12 ผู้บริหารชั้นนำของประเทศที่ล้วนเป็นผู้บริหารระดับสูงและเป็นแบบอย่างที่ดีในสังคมมาร่วมเป็น Mentor ประกอบด้วย
- กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร
- จรีพร จารุกรสกุล คุณจรัมพร โชติกเสถียร
- ธีรพงศ์ จันศิริ
- บรรยง พงษ์พานิช
- ปรีชา เอกคุณากูล
- ไพรินทร์ ชูโชติถาวร
- ภาณุ อิงคะวัต
- วรรณิภา ภักดีบุตร
- วิรไท สันติประภพ
- วิบูลย์ ตวงสิทธิสมบัติ
- สมประสงค์ บุญยะชัย
ทั้งหมดนี้จะมาให้คำชี้แนะ คำปรึกษา ช่วยคิด และชวนคิด รวมถึงสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้บริหารรุ่นใหม่ให้เกิดการเรียนรู้ การพัฒนา และสามารถประยุกต์คุณค่าที่ตนได้รับให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อตนเอง และสังคม ผ่านความรู้ที่มาจากผู้นำในองค์กรเอกชน, หน่วยงานรัฐ และผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมต่าง ๆ
กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด และในฐานะ Mentor ของโครงการ IMET MAX เล่าให้ฟังว่า ถือเป็นอีกปีที่เข้ามาเป็น Mentor และ IMET MAX คือโครงการที่แตกต่างผ่านการเน้นเรื่องจริยธรรม สร้างธรรมาภิบาลให้กับผู้เรียน สู่การเป็นผู้นำที่ดีในระยะยาว
ประสบการณ์ใหม่ที่ไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อน
ปิยะดิษฐ์ อัศวศิริสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ซีวิลเอนจีเนียริง ในฐานะ Mentee รุ่นที่ 1 และคณะทำงานโครงการ IMET MAX เล่าให้ฟังว่า การได้เข้าร่วมโครงการนี้ได้รับประสบการณ์ที่ไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อน ผ่านการสอนที่แตกต่าง และเรียนรู้จากประสบการณ์ของ Mentor ได้อย่างต่อเนื่อง
“การสร้างคนอาจไม่ใช่การผลิตออกมาให้เห็นได้ทันที ต้องค่อย ๆ สร้างความมั่นใจให้กับพวกเขา เหมือนที่ IMET MAX ทำ ที่ส่งต่อความคิดที่ดีไปยังชุมชนต่าง ๆ ผ่านผู้บริหารที่เข้าร่วม และไม่ว่าจะเป็นสายการเงิน, ข้าราชการ หรือทำธุรกิจทั่วไป และ NGO ก็สามารถเข้ามาเป็น Mentee ในโครงการนี้ได้”
ทั้งนี้คุณสมบัติเบื้องต้นของผู้สมัครโครงการ IMET MAX รุ่นที่ 5 ประกอบด้วย
- มีอายุระหว่าง 35-45 ปี (วันสุดท้ายของวันที่รับสมัคร ต้องมีอายุครบ 35 ปีบริบูรณ์และไม่เกิน 46 ปีบริบูรณ์ โดยวันเกิดของผู้สมัครอยู่ระหว่างวันที่ 31 ม.ค. 2520 – 31 ม.ค. 2531)
- เป็นผู้ที่มีความท้าทายในชีวิตและเชื่อว่ากระบวนการ Mentoring สามารถช่วยให้พบ Wisdom for Life and Social Values ที่พึงประสงค์
- เป็นผู้ที่ตระหนักถึงความสำคัญและมีความต้องการที่จะสร้างคุณค่าแก่ผู้อื่นและสังคม
- สามารถเข้าร่วมการ Mentoring (จำนวน 8 ครั้ง) และกิจกรรมภาคบังคับได้ครบถ้วนตามที่โครงการกำหนด
เป็นผู้ที่ยึดมั่นในคุณธรรม จริยธรรม ปฏิบัติตนอยู่ในกรอบของกฎหมาย ศีลธรรมและวัฒนธรรมอันดีงามของสังคมไทยและไม่เป็นผู้มีชื่อเสียงในทางเสื่อมเสีย - เป็นผู้นำหรือผู้บริหารที่บทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร มีความก้าวหน้าในอาชีพการงาน ตลอดจนมีศักยภาพในการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อสังคมในประเภทต่าง ๆ ดังนี้
- ผู้บริหารธุรกิจภาคเอกชน (Business Professional) ที่มีโอกาสก้าวหน้าอย่างสูงในเส้นทางอาชีพ มีบทบาทสำคัญในหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบ ตลอดจนมีผลงานอันประจักษ์และเป็นที่ยอมรับจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
- ผู้ประกอบการธุรกิจ (Business Entrepreneur) ที่เป็นเจ้าของหรือหุ้นส่วนหลักผู้มีบทบาทสำคัญในการบริหารและขับเคลื่อนองค์กรซึ่งมีศักยภาพในการเติบโตสูงหรือสร้างสรรค์คุณค่าที่ยั่งยืนแก่ผู้บริโภค อุตสาหกรรมและสังคม
- ทายาทธุรกิจ (Business Successor) ของกิจการที่มีศักยภาพสูง ซึ่งมีบทบาทที่สำคัญและโดดเด่นในการบริหารงาน ตลอดจนขับเคลื่อนและต่อยอดธุรกิจให้เจริญเติบโตและยั่งยืน
- อาจารย์และนักวิชาการ (Academic) ที่มีผลงานโดดเด่นในด้านวิชาการ การสอน การเป็นที่ปรึกษาให้แก่ภาครัฐและภาคเอกชน หรือได้ดำรงตำแหน่งบริหารที่มีบทบาทสำคัญสถาบันการศึกษา
- เจ้าหน้าที่และบุคลากรภาครัฐ (Government and Public Official) ที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายหรือการบริหารหน่วยงานภาครัฐ อันนำไปสู่การพัฒนาประเทศชาติและประโยชน์สุขของประชาชน
- ผู้ประกอบการหรือผู้บริหารวิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) หรือผู้ดำเนินกิจการเพื่อพัฒนาสังคมในมิติต่าง ๆ ที่มุ่งภารกิจหลักอันเป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยมีผลงานเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง และมีบทบาทอย่างสูงทางความคิดหรือการดำเนินงานอันนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่พึงปรารถนา
- ผู้มีวิชาชีพเฉพาะทาง (Specialist) อาทิ แพทย์ เภสัชกร สถาปนิก วิศวกร ผู้ประกาศข่าว ศิลปิน นักเขียน นักแสดง ฯลฯ ที่มีผลงานเชิงประจักษ์อันเป็นที่ยอมรับในสาขาวิชาชีพและเป็นผู้มีบทบาทอย่างสูงทางความคิดหรือมีความชำนาญการเฉพาะทางที่สามารถขับเคลื่อน พัฒนาความก้าวหน้าและรังสรรค์คุณค่าแก่สาขาวิชาชีพ อุตสาหกรรม หรือประชาสังคม
- ผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมอื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการเห็นสมควร
- ไม่มีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องเป็นพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน หรือเป็นคู่ชีวิต สามี ภรรยาที่จดทะเบียนหรือมิได้จดทะเบียนตามกฎหมายกับ Mentee ของโครงการรุ่นก่อนหน้า (IMET MAX รุ่นที่ 4)
หากตรงตามคุณสมบัติดังกล่าว ผู้สมัครดำเนินการสมัครผ่านระบบออนไลน์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2566 ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2566 โดยการสมัครจะนับว่าสมบูรณ์เมื่อผู้สมัครกรอกใบสมัครผ่านระบบออนไลน์ครบถ้วนและสมบูรณ์ ตลอดจนส่งเอกสารเพิ่มเติมทาง e-mail ที่ imetmax5@gmail.com
อ้างอิง // IMET MAX
อ่านเพิ่มเติม
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา