- สายการบินสวิสเพิ่มความสามารถในการรองรับผู้โดยสารเส้นทางกรุงเทพฯ ด้วยเครื่องบินแบบใหม่ โบอิ้ง 777-300ER
- กรุงเทพฯเป็นจุดหมายปลายทางแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในเครือข่ายเส้นทางการบินของสายการบินสวิสที่ได้รับมอบเครื่องบินรุ่นนี้
สายการบินสวิสได้เริ่มให้บริการเที่ยวบินทุกวันสู่กรุงเทพฯ ด้วยเครื่องบินลำใหม่รุ่นโบอิ้ง 777-300ER แทนเครื่องบินแอร์บัส เอ340-300 โดยจะทำให้สามารถรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจากเดิมในอัตรากว่า 1 ใน 3 ของสายการบินสวิสในเส้นทางกรุงเทพฯ
นายปีเตอร์ พูลเลม รองประธานฝ่ายการขายและการตลาดระหว่างประเทศของสายการบินสวิส บอกว่า โบอิ้ง 777-300ER สามารถมอบความเป็นส่วนตัว ความสบาย พื้นที่กว้างขวาง และความบันเทิงให้แก่ผู้โดยสารได้มากขึ้น ในฐานะสายการบินประจำชาติของสวิตเซอร์แลนด์ สายการบินสวิสนั้นได้ผสมผสานค่านิยมดั้งเดิมของประเทศเอาไว้ และยังมีความมุ่งมั่นที่จะส่งมอบคุณภาพการบริการและผลิตภัณฑ์ในระดับสูงสุด
นายเดิร์ก โกรสมันน์ ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทยและภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงของกลุ่มลุฟท์ฮันซ่า บอกว่า เป็นโอกาสดีของกลุ่มลุฟท์ฮันซ่าในประเทศไทย ที่สายการบินสวิสได้นำเครื่องบิน โบอิ้ง 777-300ER มาให้บริการ หลังจากประสบความสำเร็จในการแนะนำสายการบินยูโรวิงส์ให้กับตลาดในประเทศไทย เมื่อปลายปีที่แล้ว เป็นข้อพิสูจน์ถึงการเติบโตและยังคงเป็นที่ต้องการอย่างมั่นคงและแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคนี้ และกรุงเทพฯยังคงเป็นศูนย์กลางการบินที่สำคัญในเอเชียของกลุ่มลุฟท์ฮันซ่า
เครื่องบินโบอิ้ง 777-300ER ลำใหม่ของสายการบินสวิสให้บริการที่นั่งผู้โดยสารจำนวน 340 ที่นั่ง โดยแบ่งเป็น 8 ที่นั่งในห้องโดยสารชั้นหนึ่ง 62 ที่นั่งในห้องโดยสารชั้นธุรกิจ และอีก 270 ที่นั่งในห้องโดยสารชั้นประหยัด การตกแต่งภายในห้องโดยสารใหม่ทั้งหมด มอบความสบายและความสุนทรีย์เพื่อตอบสนองความต้องการได้อย่างตรงจุดมากที่สุดในทั้งสามชั้นโดยสาร
สายการบินสวิสได้นำเสนอแพ็คเกจอินเทอร์เน็ตบนเที่ยวบินในสามรูปแบบ ได้แก่ แพ็คเกจการเชื่อมต่อข้อมูลขนาด 20 เม็กกะไบท์ในราคา 9 ฟรังก์สวิส แพ็คเกจ 50 เม็กกะไบท์ในราคา 19 ฟรังก์สวิส และแพ็คเกจ 120 เม็กกะไบท์ในราคา 39 ฟรังก์สวิส และสำหรับผู้โดยสารชั้นหนึ่งนั้น สายการบินสวิสให้บริการแพ็คเกจการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตขนาด 50 เม็กกะไบท์ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ที่นั่งผู้โดยสารชั้นหนึ่งสามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นห้องสวีทส่วนตัว มีจอภาพขนาด 32 นิ้ว ถือเป็นจอที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมการบิน ณ ขณะนี้ ม่านหน้าต่างสามารถปรับแสงได้โดยระบบอิเล็กทรอนิกส์ และมีตู้เสื้อผ้าส่วนตัว ส่วนห้องโดยสารชั้นธุรกิจนำเสนอความเป็นส่วนตัวและอิสระในการเคลื่อนไหวได้อย่างเหมาะสมและลงตัว เบาะที่นั่งสามารถปรับความนุ่มของเบาะได้ตามความต้องการส่วนบุคคล
ส่วนของผู้โดยสารชั้นประหยัด นำเสนอเคาน์เตอร์แบบบริการตัวเอง โดยจัดเครื่องดื่ม และของทานเล่นอีกหลากหลายไว้ให้ผู้โดยสารเลือกหยิบทานได้ในช่วงเวลาที่นอกเหนือจากช่วงบริการอาหารและเครื่องดื่มตามปกติตลอดทั้งเที่ยวบิน ยิ่งไปกว่านั้น เครื่องทวินเจ็ทรุ่นใหม่ยังช่วยประหยัดน้ำมันและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งช่วยลดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม
และเพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นนี้ ทางบริษัทยังได้เปิดตัว “Faces of SWISS” ซึ่งได้ตกแต่งภายนอกลำตัวเครื่องบินโบอิ้ง 777-300ER ลำแรกโดยมีภาพใบหน้าของพนักงานของสายการบินสวิสกว่า 2,500 คนปรากฏอยู่ โดยจะคงไว้ตลอดหนึ่งปีแรกในการปฏิบัติการบิน รูปภาพที่นำมาสร้างสรรค์เป็นลวดลายพิเศษในครั้งนี้ เป็นภาพของบรรดาพนักงานที่เกี่ยวข้องได้ส่งมาให้ด้วยตนเอง และทุกภาพที่ถูกส่งเข้ามาได้ปรากฏอยู่ทั่วลำตัวเครื่องบิน และหนึ่งในตัวแทนของลูกเรือของสายการบินสวิสที่ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 12 ภาพที่ใหญ่ที่สุดในโครงการ “Faces of SWISS” เป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินชาวไทยที่มีชื่อว่า นางสาวจันทิพร บุญเกียรติ
ตารางการบิน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา