กระทรวงสาธารณสุข ให้บริการนวดแผนไทยกับผู้เข้าร่วมประชุม APEC Health Week พร้อมผลักดันสมุนไพรไทยตั้งแต่กระชาย ไปจนถึงกัญชา
ระหว่างวันที่ 22-26 สิงหาคม 2565 ประเทศไทยรับบทเป็นเจ้าภาพจัดประชุม APEC Health Week ภายใต้หัวข้อ “Open to partnership. Connect with the World. Balance Health and the Economy. เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์กับภาคี เชื่อมโยงกันกับโลก สู่สมดุลระหว่างสาธารณสุขและเศรษฐกิจ”
ในงานประชุมดังกล่าว มีผู้เข้าร่วมประชุมระดับรัฐมนตรีสาธารณสุขในเขตเศรษฐกิจ APEC ไม่ว่าจะเป็น บรูไนดารุสซาลาม อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ จีนไทเป ไทย สหรัฐอเมริกา และเวียดนาม ที่เข้าร่วมแบบออนไซต์ ไปจนถึง จีน จีนฮ่องกง เกาหลีใต้ และรัสเซีย ที่เข้าร่วมในรูปแบบออนไลน์
นอกจากนี้ ยังมีผู้เข้าร่วมที่เป็นผู้นำระดับสูงของหน่วยงานระหว่างประเทศ ได้แก่ เลขาธิการอาเซียน รองประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย และผู้อำนวยการบริหารสำนักงานเลขาธิการเอเปค รวมถึงมีข้าราชการระดับสูงและภาคเอกชนเข้าร่วมประชุมอีกกว่า 150 คน
การเป็นเจ้าภาพจัดประชุมครั้งนี้ เป็นโอกาสที่ประเทศไทยจะได้สร้างความร่วมมือทางด้านการแพทย์และการสาธารณสุข และเปลี่ยนประสบการณ์ และที่สำคัญคือเป็นเวทีแสดงศักยภาพด้านการแพทย์และการสาธารณสุข ซึ่งเป็นหนึ่งในภาคส่วนทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของประเทศไทย
เพื่อแสดงศักยภาพด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุขจึงจัดบริการนวดไทย ให้บริการผู้เข้าร่วมประชุม APEC ทั้งในรูปแบบของการนวดคอ บ่า ไหล่ รองรับได้ 40 คน/วัน และการนวดเท้า รองรับได้ 40 คน/วัน โดย “นวดไทย” ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ จากองค์การยูเนสโกตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2562
นอกจากการนวดแล้ว นพ.ยงยศกล่าวถึงการประชุมเอเปคว่า “เราได้นำเสนอเกี่ยวกับบริการการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรในการดูแลสุขภาพ เนื่องจากมีประโยชน์ในการดูแลสุขภาพ ยังถือเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทยที่ต่างชาติให้ความสนใจและนิยมมารับบริการโดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ”
นพ.ยงยศกล่าวในตอนท้ายว่า สมุนไพรสามารถช่วยสร้างสุขภาพและเศรษฐกิจไทย โดยการต่อยอดเป็นสมุนไพรและผลิตภัณฑ์คุณภาพ ตั้งแต่ปี 2560 กรมการแพทย์แผนไทยฯ ได้ผลักดันสมุนไพร 12 รายการเป็น Herbal Champion ได้แก่ กวาวเครือขาว กระชายดำ ขมิ้นชัน บัวบก มะขามป้อม กระชายขาว พริก ฟ้าทะลายโจร กระเจี๊ยบแดง หญ้าหวาน ว่านหางจระเข้ และไพล
รวมถึงขณะนี้ ประเทศไทยผลักดันกัญชาทางการแพทย์ เพื่อใช้ในการดูแลสุขภาพและสร้างเศรษฐกิจ โดยมีเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อสุขภาพที่ได้มาตรฐานในภูมิภาค ก้าวเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมสมุนไพรของโลก คาดว่าปี 2565 จะเกิดการสร้างรายได้จากการพัฒนาสมุนไพร การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ประมาณเกือบ 78,000 ล้านบาท
และเพื่อเป็นการสร้างภาพลักษณ์ให้สมุนไพรไทยเป็นที่รู้จัก ในการาประชุม APEC ครั้งนี้ กรมการแพทย์แผนไทยฯ จึงได้จัดทำของที่ระลึกซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทย เช่น ผลิตภัณฑ์เครื่องหอมไทย น้ำมันหอมระเหย และเครื่องสำอาง เพื่อมอบให้แก่ผู้นำเขตเศรษฐกิจ คู่สมรส วิทยากร และผู้เข้าร่วมประชุม
ที่มา – กรมสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข, รัฐบาลไทย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา