สื่อต่างชาติจัดอันดับ “ราชวงศ์” ที่ร่ำรวยที่สุดในโลกปี 2022 อันดับ 1 ยังคงเป็นราชวงศ์ของประเทศ “ซาอุดีอาระเบีย” มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวม 1.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
ตามรายงานข่าวของ South China Morning Post ระบุข้อมูลเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2565 ได้มีการจัดทำข้อมูล “ราชวงศ์” ที่ร่ำรวยที่สุดในโลกปี 2022 โดยสำหรับในปีนี้นับเป็นปีที่ยิ่งใหญ่ของ “ราชวงศ์วินเซอร์” เนื่องจากควีนเอลิซาเบธฉลองสิริราชสมบัติครบ 70 ปีในฤดูร้อนนี้
เเต่ทั้งนี้ทั่วโลกยังคงจับตาเเละส่องสปอต์ไลท์ไปที่ “ราชวงศ์อัษษนี” ประเทศกาตาร์ ที่ในปลายปีนี้จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟีฟ่าเวิลด์คัพ 2022
ซึ่งข้อมูลของ South China Morning Post ระบุว่า
ราชวงศ์ที่ร่ำรวยอันดับหนึ่งยังคงเป็น “ราชวงศ์อัดซาอูด” ประเทศซาอุดีอาระเบีย มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
โดยมกุฎราชกุมารชีค โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน เพิ่งลงนามในหุ้น 2 พันล้านดอลลาร์ของกองทุนเพื่อการลงทุนซาอุดิอาระเบียในบริษัทใหม่ของจาเร็ด คุชเนอร์ และนั่นเป็นลูกปลาเล็กๆ
สำหรับราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นบ้านของราชวงศ์ที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ตระกูลของราชวงศ์อัดซาอูด ปกครองมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1744 กษัตริย์ซัลมานทรงครองราชย์มาตั้งแต่ปี 2558 และเชื่อกันว่ามีทรัพย์มูลค่า 18,000 ล้านดอลลาร์ ทำให้เขาเป็นราชวงศ์ที่ร่ำรวยที่สุดในโลก
สำหรับเจ้าชาย อัลวาลีด บิน ทาลัล ที่เชื่อว่าเป็นราชวงศ์ที่ร่ำรวยที่สุดอันดับสองของครอบครัว ด้วยมูลค่าสุทธิประมาณ 16 พันล้านเหรียญสหรัฐ เเละเจ้าชายยังให้ทุนสนับสนุน 1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในการเข้าซื้อกิจการ Twitter ของอีลอน มัสก์
ราชวงศ์อัดซาอูด ที่มีสมาชิกกว่า 15,000 คนร่วมกันเเล้วมีมูลค่า 1.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ มากกว่าจีดีพีของสเปนหรือออสเตรเลีย ความมั่งคั่งของพวกเขาค่อนข้างน่าประทับใจเมื่อพิจารณาว่าราชวงศ์ที่ร่ำรวยที่สุดในโลก 10 อันดับแรกมีมูลค่ารวมกัน 2.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
ต่อมาเป็นราชวงศ์ที่ร่ำรวยรองลงมาอันดับที่สอง คือ “ราชวงศ์อัศเศาะบาห์” ประเทศคูเวต มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 360 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
“ราชวงศ์อัศเศาะบาห์” ปกครองประเทศคูเวตมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1752 และเป็นที่รู้จักจากการลงทุนมหาศาลในบริษัทบลูชิปรายใหญ่ในสหรัฐอเมริกา ราชวงศ์ประกอบด้วยสมาชิกประมาณ 1,000 คนและปัจจุบันปกครองโดย ชีค นาวาฟ อัล-อะห์หมัด อัลซาบาห์ ซึ่งขึ้นครองบัลลังก์ในปี 2020 หลังจากการเสียชีวิตของ ซาบะห์ อัล-อะหมัด อัลจาเบอร์ อัล-ซาบาห์
ราชวงศ์ที่ร่ำรวยเป็นอันดับที่สาม คือ “ราชวงศ์อัษษนี” ประเทศกาตาร์ มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 335 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ในปลายปีนี้ประเทศกาตาร์จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟีฟ่าเวิลด์คัพซึ่งจะเริ่มในเดือนพฤศจิกายน เป็นที่จับตาเรื่องการท่องเที่ยวที่จะมีนักท่องเที่ยวเเห่เข้าไปท่องเที่ยวกันอย่างคึกคัก
ราชวงศ์อัษษนี ถือครองการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก รวมถึงตึกระฟ้าในกรุงลอนดอน หมู่บ้านโอลิมปิกและห้างสรรพสินค้าแฮร์รอดส์ ตลอดจนตึกเอ็มไพร์สเตทในนิวยอร์ก
ราชวงศ์ซึ่งนำโดยชีค ทามิม บิน ฮาหมัด อัลธานี มีมูลค่าเพียง 2 พันล้านดอลลาร์ ยังลงทุนในบาร์เคลย์แบงก์ บริติชแอร์เวย์ และบริษัทรถยนต์ Volkswagen โดยยึดความมั่งคั่งรวมของพวกเขาเป็น 335 พันล้านดอลลาร์ ชีคเป็นกษัตริย์ที่อายุน้อยที่สุดในโลกด้วยวัย 41 ปี
อันดับที่สี่ของราชวงศ์ที่ร่ำรวยที่สุในโลก คือ “ราชวงศ์อัลนาห์ยาน” ประเทศอาบูดาบี มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 150 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ราชวงศ์อัลนาห์ยาน ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากชนเผ่าเดียวกับราชวงศ์ในเอมิเรตส์ประเทศเพื่อนบ้านอย่างดูไบ และปัจจุบันปกครองสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ทั้งเจ็ดแห่ง ทรัพย์สมบัติของครอบครัวประมาณ 150 พันล้านดอลลาร์สหรัฐส่วนใหญ่มาจากการขายน้ำมัน
นั่นทำให้กษัตริย์ชีคผู้ล่วงลับกลายเป็นหนึ่งในเจ้าของที่ดินที่ร่ำรวยที่สุดในลอนดอน เมื่อเปรียบเทียบแล้ว ชีค โมฮัมเหม็ด บิน ราชิด อัล มักตูม ผู้นำของดูไบมีมูลค่าประมาณ 18,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
อันดับห้าของราชวงศ์ที่ร่ำรวยที่สุในโลก คือ “ราชวงศ์วินด์เซอร์” สหราชอาณาจักรบริเทนใหญ่ และไอร์แลนด์เหนือ มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 88 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
แม้ว่าพระราชินีจะมีทรัพย์สินส่วนพระองค์ประมาณ 470 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่พระราชวงศ์เองก็มีมูลค่าสุทธิรวมกันถึง 88 พันล้านเหรียญสหรัฐ ตามข้อมูลของ นิตยสารฟรอบส์
ทรัพย์สมบัติส่วนใหญ่ของพระราชินีถูกสร้างขึ้นโดย Sovereign Grant เช่นเดียวกับการมีทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ทรัพย์สินหลายอย่างของครอบครัว รวมถึง Sandringham ใน Norfolk และ Balmoral ในสกอตแลนด์ ทำให้พวกเขาอยู่ในอันดับที่เหนือกว่าราชวงศ์ไทยและบรูไน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา