บริการซ่อมบำรุงที่พักอาศัยเป็นตลาดค่อนข้างใหญ่ เพราะยังไม่มีผู้เล่นคนไหนจริงจังกับตลาดนี้เหมือนกับรถยนต์ที่มีศูนย์ Fast Fit กระจายอยู่ทั่วประเทศ และจุดนี้เองทำให้ SC Asset นำจุดเด่นเรื่อง Maintenance ของตนเองมาตั้งเป็นบริษัท
SC Able กับอีกก้าวของซ่อมบำรุง
ไม่ใช่แค่ดีไซน์ หรือทำเลที่ทำให้ SC Asset แข็งแกร่งในธุรกิจผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แต่ยังมีเรื่องงานซ่อมบำรุงที่เป็นอีกจุดเด่นของบริษัท สังเกตจากข่าวแย่ๆ บนโลก Social Media ของผู้พัฒนารายนี้ไม่ค่อยพบเห็นนัก และเมื่อมันดีขนาดนี้ การนำแผนกซ่อมบำรุงแยกออกมาตั้งเป็นบริษัทเพื่อรับงานดังกล่าวโดยเฉพาะก็น่าจะเป็นเรื่องที่เหมาะสมกว่า
สมศักดิ์ เธียรธีรวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซี เอเบิล จำกัด เล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้ตัวบริษัทเป็นเพียงแผนกหนึ่งในรองรับงานซ่อมบำรุงกับลูกบ้าน SC Asset กว่า 12,000 ครัวเรือน แต่เมื่อเห็นโอกาส ทางบริษัทแม่จึงตั้งหน่วยธุรกิจนี้ขึ้นเป็นบริษัท ผ่านทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท เพื่อรับงานซ่อมบำรุงทั้งที่พักอาศัยในเครือ และให้กับลูกค้าอื่นๆ ที่สนใจ
อย่างไรก็ตามช่วงแรกของบริษัทใหม่จะเน้นรับงานให้กับที่พักอาศัยในเครือก่อน โดยเฉพาะงานซ่อมบำรุงในระยะเวลาประกัน 1 ปีแรก รวมถึงวางตัวเป็นผู้รับเหมางานซ่อมบำรุงแก่ที่พักอาศัยที่หมดระยะประกันอีกด้วย และหลังจากนั้นจึงเริ่มขยายตลาดไปยังลูกค้าทั่วไป รวมถึงเจรจากับโครงการอื่นๆ ในการเข้าไปรับงานซ่อมบำรุงให้
ช่างคุณภาพ แต่ปริมาณไม่ตอบโจทย์
“ตอนนี้ SC Able มีช่างแค่ 200 คน แต่ดูแลลูกบ้านหลักหมื่น ซึ่งมันไม่พอแน่นอน ทำให้เราต้องหาพาร์ทเนอร์เพิ่มเติม และหนึ่งในนั้นก็คือ Fixzy หรือ Startup ที่ทำแพลตฟอร์มซ่อมบำรุง และรวมช่างมืออาชีพกว่า 3,500 คนในระบบ ผ่านการเข้าไปไปลงทุน 10% ของมูลค่า Fixzy เพื่อเดินหน้าธุรกิจร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ”
ขณะเดียวกันไม่ใช่แค่จับมือเพื่อดึงช่างเพิ่มในระบบเท่านั้น ยังสร้าง Able Academy เพื่อพัฒนาช่างคุณภาพ ผ่านการอบรมทั้งงานซ่อมบำรุง, ทีมรักษาความปลอดภัย และแม่บ้าน เพื่อยกระดับมาตรฐานงานดังกล่าว และช่วยสร้างรายได้ของพวกเขาเติบโตไปพร้อมกับบริษัท ส่วนรายได้ของปี 2560 และหลังจากนี้ยังไม่ตั้งเป้าหมายไว้
มอง Enabler ไม่ใช่ Disrupter
ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น ยอมรับว่า Startup กลุ่ม Prop Tech เกิดขึ้นมาก แต่ตัวผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์จะมองพวกเขาเป็น Disrupter เหมือนอุตสาหกรรมอื่นไม่ได้ ต้องมองให้เป็น Enabler หรือผู้ช่วยที่ทำให้บริษัทเติบโตไปพร้อมกันมากกว่า โดย SC Asset เองตั้งงบลงทุนกับเรื่องนี้ไว้ 50 ล้านบาท
สรุป
เชื่อว่า Prop Tech น่าจะเข้ามามีบทบาทกับผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แน่นอน สังเกตจากก่อนหน้านี้ทาง “อนันดา” ก็จับมือกับ Seekster หรือ Startup ที่ทำแพลตฟอร์มช่างซ่อมบำรุงที่พักอาศัย และผู้พัฒนารายอื่นๆ ก็เริ่มสร้างบริษัทรับงานซ่อมบำรุงมากขึ้น เพราะช่วงหนึ่งก็แข่งขันในเรื่องบริษัทรับผิดชอบงานนิติบุคคลไปแล้ว
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา