บมจ.เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ AAI ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง และผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทาน ประเมินตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงทั่วโลกเติบโตสูง คาดมูลค่าตลาดรวมปี 72 เพิ่มขึ้นเป็น 1.6 แสนล้านเหรียญสหรัฐ จากปี 64 อยู่ที่ 1.1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ รับกระแสความนิยมเลี้ยงสัตว์เสมือนเป็นสมาชิกในครอบครัว (Pet Humanization) พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์ Level up AAI! ยกระดับองค์กร รองรับแผนงานในอนาคต
เอกราช พรรณสังข์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) หรือ AAI บริษัทฯ เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง (Pet Food) และผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทานบรรจุภาชนะปิดผนึก (Human Food) เป็นหนึ่งในบริษัทย่อยและเป็นบริษัทแกนหลัก (Flagship) ของการดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงของ กลุ่มบมจ. เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น หรือ ASIAN เปิดเผยว่า ตลาดผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงในปัจจุบันมีศักยภาพการเติบโตสูง ซึ่งอ้างอิงข้อมูลจากบทวิจัย Fortune Business Insights ที่แสดงให้เห็นว่าภาพรวมตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงของโลกในปี 2564 มีมูลค่า 1.1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ที่มีมูลค่า 8.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือเติบโตเฉลี่ยมากกว่าร้อยละ 8 ต่อปี และคาดการณ์ว่าแนวโน้มตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงของโลกในปี 2572 จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 1.6 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 5.03 ต่อปี นับจากปี 2564
โควิด ทำคนนิยมสัตว์เลี้ยงเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานของบริษัทฯ คาดว่าจะเติบโตได้ดีกว่าอุตสาหกรรม หรือได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 โดยมีปัจจัยหลักมาจากผู้คนให้ความนิยมเลี้ยงสัตว์เลี้ยงมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม Millennial และ Gen Z เนื่องจากการแพร่ระบาด COVID-19 ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ผู้คนใช้ชีวิตและทำงานที่บ้านเพิ่มขึ้น จึงมีความนิยมเลี้ยงสัตว์เพื่อคลายความเหงา เกิดเป็นเทรนด์การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเสมือนเป็นหนึ่งในสมาชิกครอบครัว (Pet Humanization) ส่งผลให้มูลค่าการขายอาหารสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงดังกล่าว อีกทั้งยังมีการจับจ่ายซื้ออาหารว่าง ขนมขบเคี้ยว ให้กับสัตว์เลี้ยงมากขึ้นอีกด้วย โดยบริษัทฯ เตรียมความพร้อมในการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน เพื่อช่วงชิงโอกาสทางการค้าและเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงมากขึ้น
โดยเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจในการขยายกำลังการผลิตเพื่อรองรับโอกาสในการเติบโต โดยในช่วงที่ผ่านมา AAI ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เพื่อออกและเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) เป็นที่เรียบร้อย
บริษัทฯ มีวิสัยทัศน์เป็นผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงและอาหารสู่สากล ด้วยคุณภาพ ความปลอดภัย และความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ภายใต้กลยุทธ์ “Level up AAI!” เพื่อยกระดับองค์กรให้พัฒนาและเติบโตให้ทันกับโอกาสทางธุรกิจ และพร้อมปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ผ่านการยกระดับองค์กรในด้านต่างๆ ดังนี้
- ยกระดับธุรกิจ (Level up our organization) มุ่งเน้นการปรับโครงสร้างองค์กรและโครงสร้างการบริหารงานให้อยู่ในระดับมาตรฐานสากล การเร่งพัฒนาบุคลากร รวมถึงการปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงเพื่อรองรับการเติบโตและโอกาสทางธุรกิจในอนาคต
- ยกระดับสถานะจาก “ผู้ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์” เพื่อเป็น “คู่ค้าเชิงกลยุทธ์” (Level up our co-developer position to strategic partners) มองหาโอกาสในการพัฒนาความสัมพันธ์ทั้งในกลุ่มธุรกิจที่เป็นต้นน้ำและปลายน้ำ (Up-stream / Down-stream) เพื่อให้การบริหารจัดการด้านห่วงโซ่อุปทานมีความต่อเนื่องและเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ยกระดับแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงของบริษัทฯ เพื่อมุ่งสู่การเป็นแบรนด์ระดับโลก (Level up our own brands) เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงในหลากหลายแบรนด์ เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการของกลุ่มลูกค้าในทุกตลาดย่อย (Market Segment) และมีผลิตภัณฑ์ครบทุกประเภท และ
- ยกระดับความใส่ใจต่อแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนผ่านแผนกลยุทธ์ CHEERS! (Level up cares through CHEERS! strategy) โดยให้ความสำคัญต่อปัญหาด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และยึดมั่นในการขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อความยั่งยืนตามหลักสากลขององค์การสหประชาชาติ
ปัจจุบัน บริษัทฯ แบ่งผลิตภัณฑ์เป็น 2 กลุ่ม ได้แก่
(1) ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง (Pet Food) สำหรับสุนัขและแมว ซึ่งครอบคลุมทั้งผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกและผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงแบบเม็ด ทั้งที่เป็นผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้าของลูกค้า และผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้าของบริษัทฯ ประกอบด้วย แบรนด์มองชู (monchou) และแบรนด์มาเรีย (Maria) เจาะกลุ่มลูกค้าในตลาดสินค้าพรีเมียม (High-end Market) แบรนด์มองชู บาลานซ์ (monchou balanced) และแบรนด์ฮาจิโกะ (Hajiko) เจาะกลุ่มลูกค้าในตลาดมวลชน (Mass Market) และ แบรนด์โปร (Pro) เจาะกลุ่มลูกค้าที่มีการแข่งขันด้านราคาเป็นหลัก (Low-end Market) และ
(2) ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทานบรรจุภาชนะปิดผนึก (Human Food) ซึ่งมีทั้งในรูปแบบผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าในน้ำปรุงรสและซอสปรุงรส และผลิตภัณฑ์อาหารปรุงสุกพร้อมทาน
โดยเป็นผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้าของลูกค้าทั้งหมด นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผลพลอยได้ (By-product) จากการแปรรูปปลาทูน่า เช่น ผลิตภัณฑ์ปลาป่น ผลิตภัณฑ์น้ำนึ่งปลา และผลิตภัณฑ์น้ำมันปลา
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา