Suzuki เพิ่มความเข้มข้นในการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% ล่าสุดลงทุน 1.5 แสนล้านเยน หรือราว 42,000 ล้านบาท ขึ้นไลน์ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ ในประเทศอินเดีย
Suzuki เร่งทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าครั้งแรก
รายงานข่าวแจ้งว่า Suzuki ประกาศลงนามบันทึกความร่วมมือกับรัฐคุชราต ประเทศอินเดีย เพื่อลงทุนกว่า 1.5 แสนล้านเยน หรือราว 42,000 ล้านบาท เพื่อสร้างยกขึ้นไลน์ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 100% และแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ รวมถึงมีการลงทุนสร้างโรงงานรีไซเคิลรถยนต์ที่อินเดียเช่นกัน
ทั้งสองการลงทุนนี้จะเสร็จสิ้น และเริ่มดำเนินการในปี 2568 ทั้งยังเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของ Suzuki ที่ต้องการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนผ่านการทำตลาดรถยนต์ขนาดเล็ก และการลงทุนในประเทศอินเดียอย่างต่อเนื่อง เพราะมีความร่วมมือกับกลุ่มทุนอินเดีย Maruti เพื่อทำธุรกิจร่วมกันมากว่า 40 ปี
ปัจจุบัน Suzuki มีโรงงานอยู่ 2 แห่งในประเทศอินเดีย และทำตลาดในชื่อ Maruti Suzuki มียอดขายเป็นครึ่งหนึ่งของรถยนต์ใหม่ในประเทศอินเดีย (ปี 2563 ยอดขายรถยนต์ใหม่ในอินเดียอยู่ราว 2.9 ล้านคัน) และ Suzuki ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอินเดียอย่างต่อเนื่อง
สำหรับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศอินเดีย รัฐบาลที่นี่มีการออกนโยบายสนับสนุนการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อลดการปล่อยมลพิษ จนทำให้แบรนด์คู่แข่งของ Suzuki สามารถจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าในราคาต่ำกว่า 1 ล้านเยน (ราว 2.8 แสนบาท) ซึ่งการลงทุนพัฒนาการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าครั้งนี้จะช่วยติดอาวุธการแข่งขันให้ Suzuki มากขึ้น
สรุป
Suzuki ค่อนข้างแข็งแกร่งในตลาดอินเดีย และแหล่งรายได้สำคัญของบริษัท จึงไม่แปลกที่การลงทุนรถยนต์ไฟฟ้าจะเกิดขึ้นที่อินเดีย และน่าสนใจว่าการลงทุนครั้งนี้ Suzuki จะส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าออกไปทำตลาดในประเทศอื่นหรือไม่ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่กำลังจะเปิดเผยรายละเอียดนโยบายสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว
ทั้งนี้ Suzuki มี Toyota เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ และกลายเป็นหนึ่งในแหล่งรายได้ในประเทศที่ Toyota ไม่แข็งแกร่งเช่นกัน ดังนั้นการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าจะมี Toyota รวมถึงบริษัทที่ Toyota เข้าไปถือหุ้นเช่น Mazda, Subaru และอื่น ๆ มาช่วยกันออกแบบ โดย Suzuki เคยทำตลาดแต่รถยนต์ไฟฟ้าแบบ Hybrid เท่านั้น
ส่วนในประเทศไทย Suzuki มีโรงงานที่จังหวัดระยอง ผลิตรถยนต์ขนาดเล็กรุ่น Swift และ Celerio เป็นต้น ส่วนรถยนต์รุ่นอื่นจะใช้วิธีนำเข้าจากต่างประเทศ
อ้างอิง // Suzuki
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา