ญี่ปุ่นทุ่มงบ จูงใจซื้อ รถยนต์ไฟฟ้า (EV) สร้างสถานีเพิ่มเป็น 1.5 แสนสถานี ตั้งเป้าภายในปี 2035 ยอดขายรถทั้งหมดเป็นรถที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ญี่ปุ่นเร่งเครื่อง เลิกใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล
แม้ญี่ปุ่นดูเหมือนจะตกขบวน รถยนต์ไฟฟ้า (EV) เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ แต่ล่าสุด รัฐบาลญี่ปุ่นจะทุ่มงบประมาณผลักดันการใช้รถยนต์ไฟฟ้ากว่า 3.75 หมื่นล้านเยน (1.08 หมื่นล้านบาท) ในปีงบประมาณ 2021 ที่กำลังจะถึง
งบประมาณกว่า 2.5 หมื่นล้านเยน จะถูกใช้ไปกับแพคเกจจูงใจซื้อรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสูงสุด 8 แสนเยน (2.3 แสนบาท) อย่างไรก็ตาม นโยบายนี้ไม่ได้ครอบคลุมแค่ EV แต่ยังรวมถึง PHEV และ รถยนต์ไฮโดรเจน
นอกจากนี้ ญี่ปุ่นจะสร้างสถานีชาร์จเพิ่มเติม จาก 30,000 สถานี เป็น 150,000 สถานี ให้ได้ภายในปี 2030
ญี่ปุ่นยังตามหลังประเทศอื่นเรื่อง รถยนต์ไฟฟ้า
สาเหตุสำคัญที่ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นตัดสินใจทุ่มงบประมาณเพิ่มเติมเนื่องจากในขณะที่โลกให้ความสำคัญกับประเด็นสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้นทำให้มีกระแสกดดันไปยังรัฐบาลประเทศต่างๆ ทั้งจากประชาชนทั่วไป ภาคประชาสังคม และนักลงทุน ญี่ปุ่นกลับยังห่างไกลเป้าหมายที่จะเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าแทนรถยนต์น้ำมัน
สิ่งที่สะท้อนชัดว่าญี่ปุ่นยังช้าในเรื่องนี้ คือ จากยอดจำหน่ายรถยนต์ในปี 2020 มีเพียง 15,000 คันเท่านั้นที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้าหรือน้อยกว่า 1% ในขณะที่ประเทศในสหภาพยุโรปมียอดขายถึง 10%
นอกจากนี้ โครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อให้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่นก็ยังมีน้อย โดยในปี 2020 มีสถานีชาร์จเพียง 30,000 สถานี คือเป็น 2.3 สถานี/ประชากรหมื่นคน น้อยกว่าฝรั่งเศสที่มีสถานีชาร์จ 6.9 สถานี/ประชากร 10,000 คน หรือคิดเป็น 3 เท่าของญี่ปุ่น
ด้วยความล่าช้าในการเปลี่ยนผ่าน รัฐบาลญี่ปุ่นจึงต้องทุ่มงบก้อนใหญ่เพื่อดึงดูดให้คนสนใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามากยิ่งขึ้นโดยมีเป้าหมายว่าภายในปี 2035 ยอดขายรถยนต์ทั้งหมดจะต้องเป็นรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ที่มา – Nikkei Asia
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา