Robinhood ประกาศแผน Super App เตรียมลงทุน 4,000-5,000 ล้านบาทภายในปี 2023 ต่อยอดจากบริการส่งอาหาร สู่การจองโรงแรม, ซื้อสินค้า และส่งพัสดุ พร้อมขยายไปต่างจังหวัด และกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน
Super App ที่มี Food Travel Mart และ Express
ธนา เธียรอัจฉริยะ ประธานกรรมการ บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด ผู้ให้บริการ Robinhood เล่าให้ฟังว่า จากเงินทุนตั้งต้น 150 ล้านบาทเพื่อเดินหน้าธุรกิจในเดือน ต.ค. 2020 หลังจากนี้บริษัทเตรียมลงทุนกว่า 4,000-5,000 ล้านบาท ภายในปี 2023 เพื่อยกระดับการเติบโต และเดินหน้าแผน Super App
สำหรับ Super App ของ Robinhood จะประกอบด้วย
- Food บริการส่งอาหาร ที่เป็นบริการเริ่มต้นของธุรกิจ และเดินหน้าในรูปแบบไม่เก็บ GP เช่นเดิม
- Travel บริการเกี่ยวกับการท่องเที่ยว เช่นจองโรงแรม, จองทัวร์, ซื้อตั๋วเครื่องบิน และจองรถเช่า โดยไม่เก็บ GP
- Mart บริการซื้อสินค้าที่ร้านค้าชั้นนำ ตอบโจทย์ผู้ซื้อระดับกลาง-บน
- Express บริการส่งพัสดุ ตอบโจทย์ทิศทางการซื้อสินค้าออนไลน์ และเพิ่มงานที่หลากหลายให้ไรเดอร์
“ในช่วงกลางปี 2022 Robinhood จะเริ่มโร้ดโชว์กับนักลงทุน เพื่อระดมทุนต่อยอดแผนธุรกิจดังกล่าว ยิ่ง Food Delivery แข่งขันดุเดือด แถมเกือบทุกรายต่างพยายามพัฒนา Super App ในแบบตัวเอง ทำให้ Robinhood ต้องปรับตัว และสร้าง Super App โดยขยายจาก Food ไปยังบริการอื่น ๆ”
หากนับถึงวันที่ 26 ต.ค. Robinhood ให้บริการครบ 1 ปี มีเพียงบริการ Food Delivery ครอบคลุมพื้นที่กทม. และปริมณฑล มีผู้ใช้ 2.3 ล้านราย ไรเดอร์ 26,000 คน ร้านค้า 1.64 แสนร้าน มี 1.5 แสนออร์เดอร์/วัน โดยผู้ใช้ส่วนใหญ่เป็นคนเมือง และค่อนข้างมีกำลังซื้อ เพราะตัวระบบชำระได้แค่บัตรเครดิต หรือผูกบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์
ทั้งนี้ Robinhood มีแผนปรับโฉมแอปพลิเคชันตามแผน Super App ตั้งแต่เดือน ก.พ. 2022 พร้อมกับขยายบริการ Food ออกไปยังต่างจังหวัด โดยจะทำไปพร้อมกับจังหวัดที่เปิดธุรกิจ Travel รวมถึงการขยายออกไปที่กลุ่มประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน ภายในปี 2022
เจาะลึกบริการ Food Delivery
หากเจาะไปที่บริการ Food Delivery ของ Robinhood ช่วง 1 ปีแรก เมนูที่ขายได้มากที่สุดคือ ก๋วยเตี๋ยว ทั้งหมด 3.7 ล้านชาม และ จตุจักร คือพื้นที่ที่มีการสั่งซื้อเยอะที่สุด และเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับบริการดังกล่าว บริษัทเตรียมยกเครื่องด้วยการใช้ฟีเจอร์ใหม่เข้าไปเช่น
- ให้คะแนนร้าน และไรเดอร์, แชทกับไรเดอร์ รวมถึงให้ทิปไรเดอร์
- มีโปรแกรมสมัครสมาชิกให้ผู้ใช้เพื่อมอบสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ
- ระบบวิเคราะห์ข้อมูลของร้านค้า และให้อิสระในการปรับแต่งหน้าเพจของร้านค้า
“การขยายบริการไปต่างจังหวัดจะเน้นที่จังหวัดท่องเที่ยว เพราะสามารถทำโปรโมชันต่าง ๆ ร่วมกันได้ เช่นจองโรงแรมด้วย Robinhood จะได้คูปองส่งอาหารฟรีเป็นต้น ส่วนการขยายไปต่างประเทศจะใช้การร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ท้องถิ่น หรือวิธีอื่น ๆ แต่ยังไปด้วยแนวคิดช่วยเหลือรายย่อย และไม่เก็บ GP เช่นเดิม”
นอกจากนี้ Robinhood จะเดินหน้าทำธุรกิจร่วมกับหน่วยต่าง ๆ ใน SCBx เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง เช่น การให้สินเชื่อกับร้านค้า และไรเดอร์ โดยร่วมมือกับ SCB SME และ Auto X, การวิเคราะห์ข้อมูล และการทำโฆษณาในแอปพลิเคชัน กับ Data X และการทำโปรโมชันบัตรเครดิตต่าง ๆ กับ Card X
เป้าหมายปี 2022 ต้องสู้ได้มากกว่าเดิม
Robinhood ตั้งเป้าปี 2022 ในธุรกิจต่าง ๆ ประกอบด้วย
- Food ต้องมีผู้ใช้งาน 4 ล้านบัญชี เพิ่มร้านค้าเป็น 3 แสนร้าน หลังเปิดให้บริการในต่างจังหวัด
- Travel ต้องมีโรงแรม และผู้ให้บริการทัวร์ต่าง ๆ ลงทะเบียนกับระบบ 45,000 ราย มีการจองมากกว่า 4.8 แสนครั้ง
- Mart ต้องมีผู้ใช้งาน 1.5 ล้านราย และมี 8,000-10,000 ร้านค้าที่ไม่เคยเข้าร่วมกับแพลตฟอร์มใด ๆ มาจำหน่ายสินค้ากับ Robinhood
- Express ต้องมีลูกค้าองค์กรมากกว่า 5,000 ราย และมีการใช้บริการอย่างน้อย 4,000 ครั้ง/เดือน
“ยอมรับว่าปี 2022 ก็ยังขาดทุนเหมือนเดิม และขาดทุนไปอีก 1-2 ปี แต่มันอาจน้อยลง เพราะถึงเราจะไม่เก็บ GP ร้านอาหาร และธุรกิจท่องเที่ยว แต่ Robinhood จะมีรายได้จากการทำโฆษณาบนแพลตฟอร์ม และเก็บ GP กับร้านค้าใน Mart หรือ Express แต่เราก็อยากจะเก็บให้น้อยที่สุดในตลาด”
อย่างไรก็ตามหากขาดทุนแล้ว Robinhood ยังเติบโต โอกาสการจูงใจนักลงทุนย่อมมีมากกว่าเดิม ผ่านการมี Food เป็นฐานหลัก และมีบริการอื่น ๆ เพิ่มเข้ามาสร้างรายได้ แต่ทั้งหมดอยู่ภายใต้แนวคิดช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย และผู้บริโภค
ในทางกลับกัน Robinhood ยืนยันว่า อยู่ระหว่างเจรจากับธนาคาร และบริการทางการเงินอื่น ๆ เพื่อเชื่อมต่อระบบ ยกระดับการชำระเงินให้มากกว่าแค่บัตรเครดิต กับแอปพลิเคชัน SCB Easy ส่วนการไม่เข้าร่วมโครงการ คนละครึ่ง ไม่ได้ทำให้ยอดใช้บริการลดลงแต่อย่างใด
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา