กระแสโกออนไลน์ที่มาแรงในทุกมิติของธุรกิจ โดยเฉพาะแวดวงผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ ถ้าจับตาดูตั้งแต่ต้นปีที่ AIS เสริม content พร้อมลุยสนามดิจิทัลเต็มรูปแบบ หรือ TRUE ที่เพิ่งเปิดตัวพื้นที่รองรับความเป็นดิจิทัลอย่าง True Branding Shop ไปเมื่อไม่นานมานี้ ตอนนี้ถึงคราวของ DTAC กันบ้างที่กำลังขยายสาขาแนวดิจิทัลในชื่อ “dinfinite” โดยจะเป็นสมาร์ทดิจิทัล เช่น จองคิวใช้บริการและเบอร์มงคลผ่านแอพพลิเคชั่น แถมยังยกเอาข้อมูลหลังบ้านมาให้ลูกค้าดูเพื่อตัดสินใจเลือกแพ็กเกจอีกด้วย
หน้าร้านแบบใหม่ ต้องตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ดิจิทัล
นายปัญญา เวชบรรยงรัตน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงานขาย บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ระบุว่า จากข้อมูลของดีแทคพบว่า ลูกค้าใช้บริการผ่านดิจิทัลมากขึ้น ดูได้จากการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นดีแทคถึง 5 ล้านคน เพิ่มขึ้น 2 เท่าจากปีก่อนหน้า นอกจากนั้นยังชำระเงินผ่านตู้ Kiosk มากขึ้นถึง 113% ดังนั้นร้านรูปแบบใหม่ของ DTAC จึงต้องการทำให้ลูกค้าได้รับรู้ถึงความทันสมัยของนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เพิ่มมากขึ้น เน้นครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ผสานกับเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อตอบรับการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัล และแก้ปัญหาหน้าร้านแบบเดิมๆ
ปัญหาคลาสสิกที่ 1 ลูกค้ารอคิวนาน
อันนี้แน่นอน ถ้าลูกค้ามาเดินห้างสรรพสินค้าและต้องการเข้าสาขาเพื่อมาใช้บริการ จะต้องรอคิวนาน เพราะต้องมากดบัตรคิวและรอคิวที่สาขาเพื่อใช้บริการ ปัญหานี้ DTAC ส่งหนึ่งในไฮท์ไลท์ที่มาพร้อมกับการเปิดร้านรูปแบบใหม่คือ บริการดิจิทัลจากดีแทคผ่านแอพพลิเคชั่น “Speedy Queue” หรือจองคิวผ่านแอพพลิเคชั่น โดยลูกค้าสามารถจองคิวออนไลน์ได้ล่วงหน้าก่อนมาถึงศูนย์บริการผ่านแอปพลิเคชั่นบนมือถือได้ทุกที่ ทุกเวลา ทำให้ไม่ต้องเสียเวลามานั่งรอคิวที่ศูนย์บริการ
ปัญหาคลาสสิกที่ 2 ลูกค้าอยากได้เบอร์มงคล แต่เสียเวลาเลือกนาน
ด้วยความที่ DTAC ไม่ขายเบอร์สวย เบอร์มงคล จึงทำให้ลูกค้าอยากเปลี่ยนเบอร์บ่อยๆ หรืออยากทำให้เลขมงคลมากขึ้นตามความเชื่อของลูกค้า ดังนั้นลูกค้าที่มาใช้บริการที่ร้านส่วนหนึ่งคือมาหาเบอร์สวย มาหาเลขมงคล จึงทำให้คนล้นร้าน เสียเวลารอนาน เพราะคนก่อนหน้ายังเลือกไม่เสร็จ
จากปัญหานี้ DTAC เปิดตัว “e-Brochure Wall” ตั้งอยู่ในร้าน และยังมีอยู่ในแอพพลิเคชั่นของ DTAC ด้วย โดยให้ลูกค้าสามารถเลือกหาเบอร์มงคลที่ถูกโฉลกกับตัวเองได้ หากลูกค้าต้องการเลขจากผลรวม หรือตัวเลขที่เป็นมงคล กับวัน เดือน ปีเกิด ตามราศี ลูกค้าสามารถเลือกเบอร์ตามปีเกิด ใน e-Brochure Wall และสแกน QR Code เพื่อรับข้อมูลหรือจะผ่านทางอีเมล์ SMS ก็ได้ ทำให้ลูกค้าสะดวก ใช้ได้ทุกที่ทุกเวลา แล้วพอเลือกเบอร์สวยเบอร์มงคลเสร็จ ก็ไปค่อยไปติดต่อที่สาขาภายในเวลา 2-3 วันหลังจากนั้น
เลือกแพ็กเกจเองได้ ไม่ต้องรอพนักงาน
ตัวนี้น่าสนใจ เพราะในยุคที่ผู้คนเดินทางไปสาขาน้อยลง การเลือกแพ็กเกจจึงต้องพึ่งพาพนักงานที่ร้านให้น้อยที่สุด สำหรับตัว “e-Brochure Wall” ยังมีคุณสมบัติมากกว่านั้นคือ DTAC ส่งตัวนี้มาเพื่อให้ลูกค้าเห็นข้อมูลหลังบ้าน ทั้งการใช้งานผ่านการโทร ผ่านการใช้เน็ต และแนะนำแพ็กเกจให้พร้อม เพื่อทำให้ลูกค้าไม่ต้องเดินทางมาสาขาเพื่อปรึกษาพนักงานบ่อยๆ
AIS และ TRUE สร้างพื้นที่รองรับลูกค้า แต่ DTAC บอกว่า เน้นแจก Reward ให้ลูกค้าเอาไปใช้เอง
อีกประเด็นที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ ในขณะที่ค่ายคู่แข่งอย่าง AIS และ TRUE ต่างมีพื้นที่ให้บริการในห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ แต่ DTAC ให้ข้อมูลว่า “การลงทุนกับเรื่องกายภาพหรือร้านค้าไม่ใช่โจทย์หลักของเรา โจทย์ของเราคือทำ Value ให้ลูกค้า เช่น ส่ง Reward ให้ลูกค้าเป็นส่วนลดของสินค้า อาหารการกิน สิ่งเหล่านี้เป็นดิจิทัลที่เข้าถึงได้ง่าย และลูกค้าจะเดินทางไปที่ไหนก็ได้ แต่ถ้าจะมาที่ Shop เราก็ยินดีเสมอ”
สรุป
Shop ของ DTAC รูปแบบใหม่คือการเพิ่มเทคโนโลยีดิจิทัล ทั้งทางรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย เพราะสมัยนี้น้อยคนนักที่จะเดินทางไปสาขาเพื่อใช้บริการเช่นในอดีต การออกแบบร้านใหม่ครั้งของ DTAC ครั้งนี้จึงเป็นความพยายามทำให้ลูกค้าสะดวกสบายากขึ้น ด้วยการสร้างแพลตฟอร์มให้ลูกค้าใช้อุปกรณ์ใกล้ตัวอย่างสมาร์ทโฟนให้เป็นเสมือน Shop เคลื่อนที่นั่นเอง
ส่วนร้านรูปแบบใหม่ของ DTAC “dinfinite” ตอนนี้มีอยู่ 10 สาขาทั่วประเทศ ส่วนใหญ่อยู่ในห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ในกรุงเทพ แต่ปีนี้จะขยายเพิ่มอีก 5 แห่ง เช่น Central World, The mall บางกะปิ และจามจุรีสแควร์ โดยค่าปรับปรุงต่อ 1 ร้านตกอยู่ประมาณ 13-14 ล้านบาท
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา