CMMU ชี้ กลุ่มอายุ 18-35 ปี พร้อมเที่ยว เชียงใหม่-ชลบุรี ยอดนิยม พร้อมใช้จ่าย 5,000 บาท/คน

วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล หรือ CMMU เปิดเผยผลวิจัยการท่องเที่ยวหลัง COVID-19 พบว่า กลุ่มอายุ 18-35 ปี พร้อมเที่ยวทันทีหลังได้วัคซีน ใช้จ่าย 5,000 บาท/คน เชียงใหม่-ชลบุรี จุดหมายยอดนิยม

ท่องเที่ยว

Neo Tourism กับการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ

บุญยิ่ง คงอาชาภัทร หัวหน้าสาขาการตลาด CMMU เล่าให้ฟังว่า ภายใต้งานวิจัยเรื่อง Neo Tourism ท่องเที่ยวมิติใหม่ เจาะอินไซต์นักเดินทาง CMMU ทำการสำรวจกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 1,098 คน แบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มคนรุ่นใหม่ อายุ 18-35 ปี ไม่มีบุตร และกลุ่มครอบครัว อายุ 27-45 ปีขึ้นไป มีบุตร และมีสมาชิกมากกว่า 2 ช่วงวัย

สำหรับปัจจัยที่ทำให้ทั้งสองกลุ่มกลับมาท่องเที่ยวอีกครั้งประกอบด้วย

  • ยอดผู้ติดเชื้อลดลง น้อยกว่า 500 คนต่อวัน โดยกลุ่มคนรุ่นใหม่และกลุ่มครอบครัว คิดเห็นตรงกัน 48%
  • สัดส่วนประชากรที่ได้รับวัคซีน มีมากกว่า 70% ทั่วประเทศ
  • ตนเองได้รับวัคซีนที่มั่นใจ mRNA ขณะที่เมื่อพิจารณาสถิติความต้องการในการท่องเที่ยว โดยกลุ่มคนรุ่นใหม่ 45.8% และกลุ่มครอบครัว 52.2% ยังรู้สึกกังวล รองมากลุ่มคนรุ่นใหม่ 43.8% และกลุ่มครอบครัว 28.3% ต้องการเที่ยวโดยเร็วที่สุด ตามด้วยกลุ่มคนรุ่นใหม่ 10.4% และกลุ่มครอบครัว 19.6% เที่ยวก็ได้ ไม่เที่ยวก็ได้

นอกจากนี้การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติจะได้ความนิยมสูงสุดหลัง COVID-19 โดยกลุ่มคนรุ่นใหม่ 45% และกลุ่มครอบครัว 61% ต้องการออกไปสัมผัสธรรมชาติเนื่องจากอยู่ที่บ้านมาระยะนาน และการท่องเที่ยวในประเทศจะเป็นตัวเลือกที่นักเดินทางต้องการมากที่สุด

cmmu
บุญยิ่ง คงอาชาภัทร หัวหน้าสาขาการตลาด CMMU

จังหวัดที่จะได้รับความนิยมสูงสุด 3 จังหวัดแรกในกลุ่มคนรุ่นใหม่ คือ เชียงใหม่ ภูเก็ต ชลบุรี และในกลุ่มครอบครัว คือ เชียงใหม่ ประจวบคีรีขันธ์ ชลบุรี โดยกลุ่มครอบครัวตัวอย่างท่านหนึ่ง บอกว่า “อยากออกไปสัมผัสทะเล ภูเขา ได้ดูพระอาทิตย์ขึ้น สูดอากาศธรรมชาติบ้าง เพราะที่ผ่านมาอยู่แต่ในบ้าน ทำงานที่บ้านมาตลอด 5 เดือนเลยค่ะ”

กลุ่มร้านอาหาร-คาเฟ่ ได้อานิสงส์คนกลับมาเที่ยว

บุญยิ่ง เสริมว่า ในการเดินทางท่องเที่ยวหลัง COVID-19 ธุรกิจที่ได้รับอานิสงส์คือธุรกิจร้านอาหาร และคาเฟ่ โดยกลุ่มคนรุ่นใหม่จะมีพฤติกรรมตระเวนหาร้านอาหารที่ไม่แออัด และมีพื้นที่นั่งด้านนอก รวมถึงร้านที่ให้บรรยากาศธรรมชาติ เน้นชมวิวทิวทัศน์

ส่วนกลุ่มครอบครัวจะให้ความสำคัญกับสถานที่พักผ่อน โดยเปลี่ยนเป็นทานอาหารในโรงแรมเป็นหลัก เพราะเชื่อมั่นในการรักษาความสะอาดของภาชนะในโรงแรม และจะเลือกทำกิจกรรมในโรงแรมมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงในการเดินทาง

ท่องเที่ยว

ดังนั้นมาตรการรักษาความสะอาด บรรยากาศของสถานที่ และบริการของพนักงาน จึงเป็นสิ่งสำคัญที่นักเดินทางพิจารณามากขึ้น อีกหนึ่งการค้นพบที่น่าสนใจคือ ธุรกิจประกันเดินทางเสริมเรื่องโควิด-19 อาจจะเป็นบริการที่มาแรง เพราะกลุ่มคนรุ่นใหม่สนใจซื้อประกันมากถึง 59.4% ขณะที่กลุ่มครอบครัวสนใจซื้อประกัน พุ่งสูงถึง 71.7%

3-4 วันคือจำนวนวันท่องเที่ยวที่ต้องการ

ด้านข้อมูลงบประมาณ และระยะเวลาที่นักเดินทางจะใช้สำหรับการวางแผนจัดทริปท่องเที่ยวหลัง COVID-19 พบว่ามีความเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย โดยกลุ่มคนรุ่นใหม่ จะเลือกจัดแผนการเดินทางที่ 3-4 วัน เดินทางเป็นกลุ่ม 3-4 คน ตั้งงบประมาณต่อคนไว้ 3,000-5,000 บาท

ส่วนกลุ่มครอบครัว เลือกจัดทริป 3-4 วัน เฉพาะคนในครอบครัว ตั้งงบประมาณต่อครอบครัวลดลงเหลือ 3,000-5,000 บาท ซึ่งการตรวจหาเชื้อ COVID-19 หลังจบทริป กลุ่มคนรุ่นใหม่ 70.7% และกลุ่มครอบครัว 65.5% เห็นพ้องตรงกันว่าจำเป็นต้องตรวจหาเชื้อ

ท่องเที่ยว

นอกจากนี้ ความเปลี่ยนแปลงที่พบได้ชัดเจนคือ นักเดินทางเลือกติดต่อตรงกับโรงแรม (Direct To Hotel: D2H) เพิ่มขึ้น โดยกลุ่มคนรุ่นใหม่เพิ่มขึ้น 2% และกลุ่มครอบครัวเพิ่มขึ้น 6% ขณะที่การติดต่อจองที่พักผ่าน Online Travel Agent เช่น Booking.com, Agoda ลดน้อยลง กลุ่มคนรุ่นใหม่ ลดลง 5% และกลุ่มครอบครัวลดลง 3%

“ธุรกิจการท่องเที่ยวนับจากนี้ควรเสริมทำ D2H หรือ Direct To Hotel เพิ่มมากขึ้น ให้สอดรับกับพฤติกรรมนักเดินทางที่เปลี่ยนไป โดยเลือกติดต่อการจองที่พักหรือสอบถามข้อมูลกับโรงแรมโดยตรงมากขึ้น อาทิ ข้อมูลมาตรการด้านสุขอนามัย การปรับเปลี่ยนวันเวลา และเงื่อนไขการจองต่างๆ ทดแทนการจองผ่านแอปพลิเคชันเอเจนท์ออนไลน์ที่อาจไม่สามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับนักเดินทางได้ ดังนั้นกลุ่มธุรกิจการท่องเที่ยวควรชูจุดขายด้านการสื่อสารกับนักเดินทางโดยตรงผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น LINE OA, Facebook, Instagram เป็นต้น เพื่ออำนวยความสะดวกรับพฤติกรรมดังกล่าวแบบไร้รอยต่อ หรือที่เรียกว่า Frictionsless Contact นอกจากนี้ การติดต่อลูกค้าโดยตรง หรือการทำ Direct to Customer จากผลการสำรวจช่องทางที่ใช้ในการหาข้อมูลในการท่องเที่ยว การโฆษณาออนไลน์ (Online Advertising) ไปยังนักเดินทางกลุ่มเป้าหมายโดยตรง จะยังช่วยเพิ่มแรงบันดาลใจ (Inspiration) และการพิจารณาตัดสินใจ (Consideration) เพื่อสร้างโอกาสสำหรับธุรกิจท่องเที่ยวอีกด้วย”

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา