2 ปีกว่ามาแล้วที่ผมได้เคยเขียนบทความในนี้ เพื่อแนะนำให้ทุกท่านรู้จัก DR หรือ Depositary Receipt ที่แปลเป็นไทยได้ว่า “ตราสารแสดงสิทธิการฝากหลักทรัพย์ต่างประเทศ” โดย DR ตัวแรกของประเทศชื่อว่า “E1VFVN3001” เป็นตราสารที่อ้างอิงกับ ETF E1VFVN30 หรือกองทุนรวมดัชนีหุ้น 30 ตัวชั้นนำของประเทศเวียดนาม เผลอแป๊บเดียว ผ่านมา 2 ปีกว่าแล้วที่มีพัฒนาการที่น่าสนใจ เลยถือโอกาสมาอัปเดตให้ฟังว่า การลงทุนของคนไทยในตลาดหุ้นเวียดนาม ผ่าน DR “E1VFVN3001” ของนักลงทุนไทยนี้เป็นอย่างไรกัน
เท้าความไปตอนปลายปี 2561 ที่เรามีการออก DR ราคาจองซื้อตอน IPO อยู่ที่ 21.6155 บาท จำนวนหน่วยที่เสนอขายเป็นครั้งแรกประมาณ 28.9 ล้านหน่วย ยอดการจองซื้อครั้งแรกสูงประมาณ 624 ล้านบาท โดยมีจำนวนผู้จองซื้อในหลักพันต้น ๆ และเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในเดือนธ.ค. 2561 ซึ่งนับว่าดีทีเดียว สำหรับการออกผลิตภัณฑ์ใหม่เอี่ยมในตลาดทุนไทย สภาพคล่องการซื้อขายของ DR ในตลาดหลักทรัพย์ฯ เฉลี่ยวันละ 10-20 ล้านบาท ต่อวัน โดยราคาของ DR ได้เคลื่อนไหวแบบออกข้างมาสักพัก เพื่อเป็นการปรับฐาน เพราะช่วงที่เราออกนั้นตลาดหุ้นเวียดนามได้ ผ่านจุดที่สูงในต้นปีมาแล้ว และจนผ่านวิกฤตโควิด-19 ในปี 2563 ที่ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวดิ่งลงมาจนกระทั่งกลางเดือนก.ย. 2563 ที่ดัชนี VN30 ได้เริ่มผงาดปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้ส่งผลให้ราคาของ ETF และ DR เพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย
จนถึงปัจจุบัน (เดือนก.ย. 2564) ราคา DR “E1VFVN3001” ได้ไต่มาถึงประมาณ 35.25 บาท เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 63 จากราคา IPO แต่ ณ ระดับราคาขนาดนี้ อัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรในปีหน้า หรือ P/E Ratio ยังประเมินกันอยู่ที่ 11.8 X เท่านั้น และในด้านของจำนวนหน่วยของ DR ก็ได้เติบโตไปถึง 206.9 ล้านหน่วย เติบโตมา 7 เท่ากว่า จากตอน IPO ทำให้มูลค่าตามราคาตลาดของ DR ทั้งหมดในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีมูลค่าสูงถึงประมาณ 7,246 ล้านบาท และที่สำคัญคือ จำนวนผู้ถือหน่วยตอนนี้สูงถึงกว่า 19,000 ราย จากที่เคยมีหลักพันต้น ๆ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีนักลงทุนเข้าใจ และให้ความสนใจมากขึ้น สภาพคล่องการซื้อขายของ DR ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพิ่มจากเฉลี่ยวันละ 10-20 ล้านบาทต่อวัน กลายเป็นวันละ 70-100 ล้านบาท ที่สำคัญเราได้มีโปรแกรมให้นักลงทุนออมเงินแบบ DCA แบบซื้อเฉลี่ยทุกวัน ซึ่งมีผู้ใช้งานออมเงินแบบนี้เกือบพันคน ซึ่งด้วยทิศทางของดัชนี VN30 ที่มีการเติบโตสูงขึ้น ทำให้การทำ DCA บน DR เป็นการออมเงินที่ทั้งกระจายความเสี่ยงและให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
นวัตกรรม DR จึงได้พิสูจน์ถึงการเป็นทางเชื่อม เพื่อเปิดโอกาสให้คนไทยได้ลงทุนในต่างประเทศแบบสะดวก รวดเร็วและง่าย ไม่ต้องยุ่งยากกับกระบวนการอัตราแลกเปลี่ยนและการส่งเงินออก-เข้าประเทศ โดยเฉพาะในตลาดหุ้นเวียดนามที่มีความน่าสนใจในอัตราการเติบโตสูงในระยะยาว แต่ก็แลกมากับการที่ผู้ออก DR ที่ต้องทำงานอยู่เบื้องหลังจะต้องทำงานให้เข้ากับกฎเกณฑ์ที่แตกต่างในตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะในเวียดนามที่ต้องวางเงินก่อนซื้อ และเมื่อซื้อหุ้นแล้วก็ยังขายไม่ได้ เพราะต้องรอหุ้นส่งมอบมาก่อนจึงจะขายได้ ฯลฯ แต่ความท้าทายดังกล่าว กลับเป็นโอกาสให้ผู้ออก DR อย่างเรามีส่วนทำงานสร้างประโยชน์ที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยกลายเป็นประตูสู่การลงทุนในต่างประเทศให้กับคนในประเทศได้ และเพิ่มทางเลือกของการลงทุน เพื่อช่วยกระจายความเสี่ยงและหาผลตอบแทน และเราหวังว่าคงได้เห็น DR บนหลักทรัพย์อ้างอิงใหม่ๆ เพิ่มขึ้นในอนาคต
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา