จากเบื้องหลังวิชวลเอฟเฟคโฆษณาไทย สู่ผู้พัฒนาเกม Home Sweet Home ที่โด่งดังไปทั่วโลก ลองมารู้จัก Yggdrazil Group บริษัทดิจิทัลคอนเทนต์สัญชาติไทย ที่ปี 2020 มีรายได้ 227 ล้านบาท เติบโต 16% กัน
เริ่มด้วยสตูดิโอเล็ก ๆ ก่อน IPO ปี 2020
Yggdrazil Group ก่อตั้งโดย ธนัช จุวิวัฒน์ กับ ศรุต ทับลอย เมื่อปี 2006 วางตัวเองเป็นครีเอทีฟสตูดิโอขนาดเล็กที่เชี่ยวชาญเรื่องวิชวลเอฟเฟค แต่ถึงจะเล็ก ฝีมือกลับไม่เล็กตาม เพราะ Yggdrazil Group ได้รับความไว้วางใจจากเอเจนซีโฆษณาในการทำวิชวลเอฟเฟคจนได้รับรางวัลมากมาย
จากความเชี่ยวชาญ ประกอบกับกระแสวิชวลเอฟเฟค และดิจิทัลคอนเทนต์กำลังเติบโต Yggdrazil Group จึงขยับตัวเองจากแค่เบื้องหลังโฆษณา สู่การรุก 3 บริการคือ งานโฆษณา และภาพยนตร์ (วิชวลเอฟเฟค), แอนิเมชัน และผลิต กับรับจ้างผลิตเกม ซึ่งทั้งหมดมีลูกค้าทั้งในไทย และต่างประเทศ ถือเป็นการต่อยอดธุรกิจที่น่าสนใจ
เมื่อเติบโตจนถึงระดับหนึ่ง Yggdrazil Group ตัดสินใจจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI ช่วงต้นปี 2020 เพื่อนำเงินทุนไปพัฒนาบริการต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพ และแข่งขันกับต่างชาติได้มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีพนักงานกว่า 200 คน และคนทั่วไป โดยเฉพาะคนที่เล่นเกมน่าจะรู้จักชื่อบริษัทนี้จากเกม Home Sweet Home ที่เล่นบนพีซี
COVID-19 ดันตลาดดิจิทัลคอนเทนต์เติบโต
แม้หลายอุตสาหกรรมจะประสบปัญหาจากการระบาดของโรค COVID-19 แต่ไม่ใช่กับดิจิทัลคอนเทนต์ที่เติบโตสวนทาง เพราะผู้บริโภคทุกคนต้องอยู่บ้าน และ Yggdrazil Group ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ไปเต็ม ๆ แถมนักลงทุนก็มองเห็นโอกาสจนทำให้มูลค่าหุ้น Yggdrazil Group จาก IPO ที่ 5.35 บาท ปิดปี 2020 จบที่ 17.79 บาท
ส่วนในมุมรายได้ ปี 2020 ทาง Yggdrazil Group ปิดรายได้ 227 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากปีก่อนหน้า มาจากบริการงานโฆษณา และภาพยนตร์ (วิชวลเอฟเฟค) 110 ล้านบาท, ภาพยนตร์แอนิเมชัน 100 ล้านบาท และเกม 17 ล้านบาท คิดเป็นแค่ 7.5% ของรายได้
ด้านกำไรขั้นต้นปิดที่ 93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% และกำไรสุทธิ 57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% ขณะเดียวกันด้วยงานโฆษณากับภาพยนตร์ และแอนิเมชัน ล้วนเป็นงานที่ต้องใช้เวลา ทำให้ Yggdrazil Group มีงานเหล่านี้เป็น Backlog ที่เตรียมรับรู้รายได้ในอนาคต
Yggdrazil Group กับตลาดเกมที่ไม่ง่าย
จากตัวเลขข้างต้น Yggdrazil Group ให้ข้อมูลในรายงานว่า โดยส่วนมากเกมจะจำหน่ายได้สูงสุดใน 3 เดือนแรกของการวางจำหน่าย จากนั้นยอดขายจะค่อย ๆ ลดลง จึงไม่แปลกที่เกม Home Sweet Home ที่เปิดตัวเดือน ก.ย. 2017 และ Home Sweet Home EP2 เปิดตัวเดือน ก.ย. 2019 จะไม่ขับเคลื่อนรายได้จากธุรกิจเกมในปี 2020
ต่างกับปี 2018 ที่เกมทำรายได้ 55.6 ล้านบาท คิดเป็น 33% ของรายได้ทั้งหมด ส่วนปี 2019 เกมทำรายได้ 47.9 ล้านบาท คิดเป็น 25% ของรายได้ทั้งหมด แม้ Yggdrazil Group จะนำเกม Home Sweet Home ไปจำหน่ายในหน้าร้านออนไลน์ของเครื่องเกม Playstation และ Xbox ช่วงปลายปี 2019 ก็ไม่ช่วยเพิ่มรายได้นัก
ที่น่าสนใจคือ Home Sweet Home ที่ให้เล่นบนพีซี Yggdrazil Group วางจำหน่ายผ่านคู่สัญญา ซึ่งบริษัทจะได้รับค่าตอบแทนประมาณ 70% ของยอดขาย ส่วนบน Playstation และ Xbox บริษัทต้องจ้างผู้พัฒนาเพื่อแปลงตัวเกมให้เล่นบนเครื่องเกมดังกล่าว และจะได้ค่าตอบแทนแค่ 35-55% ของรายได้สุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายตามที่กำหนด
ลุ้น Home Sweet Home: Survive ช่วย
เมื่อมีปัจจัยเรื่องระยะเวลา และการถูกหักรายได้ Yggdrazil Group จึงต้องสร้างเกมใหม่เพื่อรักษาสัดส่วนรายได้เกมไม่ให้น้อยไปกว่านี้ และนี่คือที่มาของ Home Sweet Home: Survive เกมใหม่ที่นำตัวละครจาก Home Sweet Home มาต่อยอด เริ่มทดสอบให้เล่นเดือน ก.พ. 2021 ก่อนวางขายอย่างเป็นทางการเดือน มี.ค. 2021
เกมใหม่นี้ช่วยขับเคลื่อนรายได้จากเกมในไตรมาส 1 2021 ของ Yggdrazil Group เป็น 9.9 ล้านบาท เติบโต 104% จากไตรมาส 1 2020 เพราะมีโมเดลรายได้ 2 ทางคือขายเกม และขายไอเท็มในเกม ต่างจากเดิมที่มีแต่การขายเกมเท่านั้น
เมื่อประกอบกับรายได้จากโฆษณา และภาพยนตร์ 28.2 ล้านบาท เติบโต 48% และแอนิเมชันอีก 22.7 ล้านบาท ลดลง 24% ภาพรวมไตรมาส 1 2021 บริษัทปิดรายได้ 60.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% โดย Yggdrazil Group มีรายได้ที่จะรับรู้ในอนาคต (Backlog) อีก 152 ล้านบาท แบ่งเป็นแอนิเมชัน 92% และโฆษณากับภาพยนตร์ 8%
สรุป
เมื่อดิจิทัลคอนเทนต์ไม่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 แถมเติบโตก้าวกระโดด จึงไม่แปลกที่ Yggdrazil Group จะมีการเติบโตของธุรกิจที่แข็งแกร่ง โดยช่วง 5 ปีนับจากปี 2016 มีการเติบโตเฉลี่ยต่อปี 29% และหากบริษัทสามารถสร้างรายได้จากเกมให้เพิ่มขึ้นด้วยโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ ก็คงจะเติบโตไปได้มากกว่านี้ในอนาคต
อ้างอิง // Yggdrazil Group 1, 2, 3
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา