คนอเมริกันแห่คืนสัตว์เลี้ยงให้สถานสงเคราะห์เพิ่ม หลังเมืองเปิด ต้องออกไปใช้ชีวิตนอกบ้าน

ฝันร้ายของน้องหมา คนอเมริกันแห่คืนสัตว์เลี้ยงให้สถานสงเคราะห์สัตว์ หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ในสหรัฐฯ ดีขึ้น จนเมืองเปิด และคนต้องเริ่มกลับไปทำงานนอกบ้านตามปกติแล้ว

เมื่อปีที่แล้วทั่วโลกต้องเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 อย่างหนักหน่วง การต้องอยู่แต่ในบ้านตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะทำงานหรือพักผ่อน ทำให้เกิดกระแสการรับอุปการะสัตว์เลี้ยงจากสถานสงเคราะห์สัตว์ อย่างในสหรัฐอเมริกา สถานสงเคราะห์สัตว์บางแห่งพบว่ายอดอุปการะเพิ่มขึ้นกว่า 90%

แต่เมื่อเวลาผ่านไป หลายประเทศสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้เป็นที่เรียบร้อย โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ที่สามารถฉีดวัคซีนได้อย่างทั่วถึง และรวดเร็ว ทำให้การแพร่ระบาดลงลงจนสามารถเปิดเมือง คนสามารถออกไปใช้ชีวิตได้ตามปกติเรียบร้อยแล้ว

ยอดส่งคืนสัตว์เลี้ยงเพิ่มหลังคลายล็อคดาวน์

เมื่อเปิดเมือง และคนออกไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ นั่นหมายถึงเวลาที่จะอยู่บ้าน และเล่นกับสัตว์เลี้ยงก็ลดลง ทำให้ในขณะนี้สถานสงเคราะห์สัตว์เลี้ยงบางแห่งในสหรัฐฯ รายงานว่า ยอดส่งคืนสัตว์เลี้ยงให้สถานสงเคราะห์เพิ่มขึ้นมากในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้

Chloe Esperiquette ผู้ประสานงานของ Wags and Walks สถานสงเคราะห์สัตว์เลี้ยงแห่งหนึ่งในแคลิฟอร์เนีย รายงานว่า ยอดการส่งคืนสุนัขเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และในขณะนี้สถานสงเคราะห์สัตว์บางแห่งเต็มแล้ว

สัตว์บางส่วนต้องถูกฆ่าตายในสถานสงเคราะห์

ความน่ากลัวอย่างหนึ่งของสถานสงเคราะห์สัตว์ในสหรัฐฯ คือ มีการฆ่าสัตว์ที่ส่งเข้ามาปีละประมาณ 1.5 ล้านตัว โดยเป็นสุนัขไปแล้ว 670,000 ตัว

กลุ่มคนรักสัตว์ให้ความเห็นว่า ให้คิดดีๆ ก่อนที่จะส่งสัตว์เลี้ยงกลับไปยังสถานสงเคราะห์สัตว์ แต่ให้เลือกประกาศให้คนอื่นๆ รู้แทนว่าคุณไม่สามารถดูแลสัตว์เลี้ยงได้อีกต่อไป และหาเจ้าของใหม่ที่มีความพร้อม และรักสัตว์มาอุปการะไป

ไม่พร้อมอย่าเลี้ยง สัตว์เลี้ยงไม่สมควรเจอเรื่องแบบนี้

สุดท้ายนี้ Chloe Esperiquette ขอร้องคนที่กำลังคิดส่งสัตว์เลี้ยงกลับคืนให้สถานสงเคราะห์สัตว์ว่า สัตว์เลี้ยงไม่ใช่สินค้าที่เสียหาย “พวกมันเป็นเพียงปัญหาสำหรับคนบางคน ด้วยเหตุผลบางอย่างจึงถูกส่งคืนมายังสถานสงเคราะห์สัตว์ นี่ไม่ใช่ความผิดของพวกมัน และพวกมันก็ไม่สมควรได้รับสิ่งเหล่านี้

ที่มา – Reuter

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา