Carro เดินหน้าบุกตลาดไทยด้วยคอนเซปต์ Click Buy Drive พร้อมให้บริการเกี่ยวกับรถยนต์ทุกประเภทตั้งแต่ซื้อ-ขาย สินเชื่อ ซ่อมบำรุงและอีกมากมาย จองได้ด้วยเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น พร้อมเปิด CARRO Automall อีก 4 สาขาภายในปีนี้
คุณ อรรณพ “ไมเคิล” เกษตระทัต ประธานบริหารบริษัท คาร์โร (ประเทศไทย) ให้ข้อมูลว่ามูลค่าการซื้อ-ขายรถยนต์มือสองบนแพลตฟอร์มออนไลน์ของ Carro ในประเทศเติบโตถึง 6 เท่า เทียบกับปี 2020 ปัจจัยหลักในความสำเร็จมาจากการใช้ AI เพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็ว โปร่งใส และประสิทธิภาพในการทำงานของระบบของ Carro
Carro ได้เริ่มทำธุรกิจในไทยตั้งแต่ปี 2018 แล้ว มีเป้าหมายในการเป็นผู้นำตลาดด้านแพลตฟอร์มรถยนต์มือสองและให้บริการที่ไร้รอยต่อแก่ลูกค้า โดยมีบริการที่ดำเนินอยู่ ดังนี้
- Carro Express – บริการขายรถยนต์ออนไลน์
- Carro Wholesale – แอปพลิเคชั่นซื้อ-ขายรถยนต์แบบค้าส่ง
- Carro Automall – ศูนย์ฝากขายรถยนต์ ตรวจสภาพรถก่อนส่งมอบ
- Test Drive @ Home – บริการทดลองขับถึงที่บ้าน
นอกจากนั้น Carro ก็จับมือกับ Genie Insurance & Finance สำหรับบริการด้านสินเชื่อและประกันภัยโดยตรงบนแพลตฟอร์มอีกด้วย
CARRO Floor Auction เป็นบริการใหม่ที่กำลังนำเข้าสู่ระบบ ซึ่งจะเพิ่มช่องทางในการรองรับและตรวจสอบรถได้ในจำนวนที่มากขึ้น โดยจะเพิ่มสถาบันและบริษัทพันธมิตรต่างๆ เข้ามาบนแพลตฟอร์ม ซึ่งระบบนี้จะเปิดประมูลรถทั้งทางออฟไลน์และออนไลน์ไปพร้อมๆ กัน เพื่อเพิ่มความหลากหลายของรถ ความโปร่งใสของระบบและช่องทางการซื้อ-ขายแก่ดีลเลอร์และเจ้าของรถทั่วไป
“สุดท้ายนี้ ด้วยความมั่นใจในผลิตภัณฑ์และบริการระดับคุณภาพของเรา ผมมีความมั่นใจที่จะผลักดันแบรนด์ให้เติบโตขึ้น จนเป็นแบรนด์ที่อยู่ในใจอันดับต้นๆ ในตลาดรถยนต์มือสองของประเทศไทย เพราะท้ายที่สุดแล้วการที่เรานำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยในกระบวนการตั้งแต่ต้นจนจบที่มีความโปร่งใสในทุกขั้นตอน โดยที่ลูกค้าสามารถตรวจสอบได้ก่อนทำการตัดสินใจซื้อนั้น จะเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นในแบรนด์คาร์โรมากยิ่งขึ้น ผ่านประสบการณ์ซื้อ-ขายแบบ Seamless Online Purchase Experience ได้ง่าย ๆ ผ่านปลายนิ้วคลิก” คุณอรรณพกล่าวทิ้งท้าย
สรุป
ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่บังคับให้ทุกคนอยู่บ้านกันมากขึ้น การให้บริการเกี่ยวกับรถยนต์ออนไลน์ก็เติบโตอย่างมาก น่าจับตามองว่า Carro จะเปลี่ยนแปลงตลาดการซื้อ-ขายรถยนต์ไปในทางไหนบ้างในอนาคต
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา