สีหนาท ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด ผู้พัฒนาและให้บริการ “โรบินฮู้ด” (Robinhood) แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 7 เดือนนับตั้งแต่โรบินฮู้ดเปิดให้ทดลองใช้แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีอย่างเป็นทางการ ด้วยจุดยืนของโรบินฮู้ดที่ไม่เก็บค่า GP ร้านอาหาร และมีนโยบายที่จะไม่เก็บตลอดไป ส่งผลให้แพลตฟอร์มมีการเติบโตในทุกด้าน โดยปัจจุบันมีจำนวนลูกค้าที่ลงทะเบียนใช้งานกว่า 1 ล้านคน ร้านอาหารโดยเฉพาะร้านเล็กๆ กว่า 90,000 ร้าน จำนวนการสั่งอาหารรวมกว่า 2.3 ล้านออเดอร์ คิดเป็นมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท ที่หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ และยังเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในการช่วยสร้างรายได้ให้กับผู้ส่ง (ไรเดอร์) กว่า 15,000 คน
ขยายพื้นที่ Food Delivery เชียงใหม่-ชลบุรี
ในปีนี้มีแผนที่จะขยายขอบเขตการให้บริการด้านฟู้ดเดลิเวอรีสู่ต่างจังหวัด โดยเตรียมปักหมุดนำร่องที่เชียงใหม่ และชลบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ศักยภาพและมีความต้องการบริการด้านฟู้ดเดลิเวอรีสูง รวมถึงโครงการที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างอาชีพเสริมรายได้ของคนส่งอาหารหรือไรเดอร์ให้กับผู้ที่ไม่มีรถมอเตอร์ไซค์เป็นของตัวเอง โดยโรบินฮู้ดร่วมกับพันธมิตรเตรียมเปิดทดลองให้เช่ามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า (EV) เป็นรายวันในช่วงประมาณเดือนมิถุนายน 2564
นอกจากนี้ในอนาคตอันใกล้มีแผนที่จะขยายไปสู่ธุรกิจรับ–ส่งของ (Express Service) และบริการด้านสั่งซื้อสินค้าจากซูเปอร์มาร์เก็ต (Mart Service) เช่น ร้านค้าสามารถสั่งซื้อวัตถุดิบแบบขายส่ง (wholesale) ผ่านแพลตฟอร์ม ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนให้กับร้านค้าได้ เป็นต้น มุ่งเน้นสนับสนุน ecosystem ที่เป็นประโยชน์กับร้านค้าและลูกค้า ซึ่งจะสามารถช่วยสร้างงานเพิ่มขึ้นให้กับไรเดอร์ในช่วง off-peak ที่ลูกค้าไม่ได้สั่งอาหาร
เตรียมขยายบริการจองโรงแรม ต้นปี 65
ธนา เธียรอัจฉริยะ ประธานกรรมการ บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด กล่าวเสริมว่า โรบินฮู้ด เป็นแพลตฟอร์มที่พัฒนาขึ้นโดยบริษัทในกลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นการสร้างโมเดลธุรกิจเพื่อสังคม ควบคู่ไปกับการทำธุรกิจของธนาคาร ที่ผ่านมาโรบินฮู้ดได้เริ่มทำในส่วนของธุรกิจอาหารไปแล้ว แต่ยังมีอีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจสำคัญที่จะเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนประเทศหลัง Covid คือ การท่องเที่ยว จึงได้เตรียมทำโมเดลที่เรียกว่า Zero GP OTA ไม่เก็บ GP โรงแรม ซึ่งสอดคล้องกับหลักการของแพลตฟอร์ม เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการโรงแรมร่วมกับลูกค้าโรบินฮู้ดกว่าล้านคนภายในต้นปีหน้า น่าจะเป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างเหมาะสม การท่องเที่ยวน่าจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง โดยจะดำเนินการตามขั้นตอนของธนาคารแห่งประเทศไทยต่อไป
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา