สหกรุ๊ปแฟร์ งานประจำปีที่สินค้าในเครือสหพัฒน์จะขนมาขายแบบพร้อมๆ กันในงานเดียวแบบราคาพิเศษ และจัดมาต่อเนื่อง 19 ปีแล้ว ดังนั้นหลายๆ คนก็รองานนี้อยู่ เพราะจะได้ซื้อของใช้สินค้าอุปโภคบริโภคเข้าบ้าน แต่ความพิเศษของงานครั้งนี้คือ การซื้อขายสินค้าแบบดิจิทัล ผ่านการใช้งาน QR Code และใช้เทคโนโลยี VR-AR เข้ามาสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้ซื้อ บุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ และ บุญเกียรติ โชควัฒนา ประธานกรรมการบริษัทและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานจัดงานสหกรุ๊ปแฟร์ ได้ให้ข้อมูลที่น่าสนใจ สรุปได้ดังนี้
- งานสหกรุ๊ปแฟร์ครั้งนี้ จัดวันที่ 30 มิ.ย. – 3 ก.ค. ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยรวมสินค้าอุปโภคบริโภคในเครือสหพัฒน์มาขายในงานเดียว เป็นงานที่ถ้าใครมีโอกาสมีเวลา ก็ไม่ควรพลาดไปเดินดูข้าวของเครื่องใช้ เผื่อซื้อมาไว้ใช้ในบ้าน
- อย่างที่บอกไปแล้ว ความพิเศษคือ นี่เป็นครั้งแรกที่สหกรุ๊ปแฟร์ นำระบบ e-Commerce มาใช้ผ่านเว็บไซต์ www.ethailandbest.com และนำระบบ QR Code มาใช้งาน เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภค
- วิธีการง่าย ถ้าไปเดินในงานแล้ว มีสินค้าที่ถูกใจอยากซื้อ แต่ไม่อยากขน แค่เปิดแอพพลิเคชั่น LINE ใช้คำสั่ง เพิ่มเพื่อน จากนั้นเลือก QR Code ยิงไปที่รหัสของสินค้า ระบบจะเข้าสู่การซื้อสินค้านั้นๆ ผ่าน e-Commerce ทันที จากนั้นก็สามารถกดซื้อและชำระเงินผ่านบัตรเครดิต หรือระบบ e-Payment อื่นๆ ได้
- นี่เป็นครั้งแรกที่งานแฟร์ ขายสินค้า สร้างประสบการณ์ใหม่ให้ผู้ซื้อ ด้วยการนำระบบ e-Commerce มาให้ใช้งานกันแบบต่อหน้า (face to face) ได้เห็นสินค้า ได้ลองสินค้า จากนั้นซื้อ ถ้าไม่อยากขนของหนักๆ กดซื้อออนไลน์ อีก 1-2 วันของไปส่งถึงบ้านฟรี
- ความพิเศษต่อมาคือ การนำระบบ 3D Virtual Augmented Reality Store จำลองร้าน เช่น Lawson หรือ ห้างสรรพสินค้า พร้อมพนักงานขายเสมือนจริงคอยช่วยเหลือ และหากจะซื้อสินค้า ก็ใช้ระบบ QR Code เช่นเดิม นอกจากนี้ ยังมีห้องลองเสื้อเสมือน Virtual Fitting Room ลองเสื้อผ้าทันทีบนหน้าจอ แค่คลิกก็เปลี่ยนแบบเสื้อได้
- สรุปว่า ไปงานนี้นอกจากจะได้ซื้อของใช้อุปโภคบริโภคสารพัดอย่างแล้ว ยังได้ลองระบบ e-Commerce แบบเห็นหน้าเห็นตากัน กดจ่ายเงินแล้ว รอของไปส่งที่บ้านไม่ต้องแบกให้เหนื่อย เดินตัวปลิวสบายๆ ในงานต่อไป
บทวิเคราะห์
เดิมเทคโนโลยี QR Code เชื่อว่าจะตายจากไปเพราะไม่เหมาะกับการใช้งานในหลายประเทศ ประเทศที่คนนิยมกันมาก เช่น ญี่ปุ่น แต่กับไทยนี่เป็นความฝันเลยทีเดียว แต่ สหกรุ๊ปแฟร์ เลือกใช้เทคโนโลยีนี้ เพราะ ทุกวันนี้มีแอพพลิเคชั่นที่ใช้อ่าน QR Code และอยู่กับคนไทยประมาณ 34 ล้านคน นั่นคือ LINE เพียงแค่เพิ่มเพื่อนใน LINE แล้วยิงไปที่รหัส QR Code แค่นั้นก็ไปถึงแหล่งซื้อขายได้ทันที เชื่อว่ามีส่วนช่วยสร้างประสบการณ์ซื้อขายออนไลน์ให้ผู้บริโภคได้ระดับหนึ่ง
ขณะที่การใช้ VR และ AR เข้ามาช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ในการซื้อสินค้าของผู้บริโภค ก็น่าสนใจไม่น้อย ทั้งหมดทำให้งาน สหกรุ๊ปแฟร์ ครั้งนี้น่าสนใจมากขึ้นทันที สำหรับใครที่ไม่นิยม ไม่ถูกโฉลกกับระบบใหม่ๆ อยากซื้อขายจ่ายสด ขนของกลับแบบเดิมๆ ก็ทำได้ แต่ถ้าใครอยากลองอะไรใหม่ๆ ที่งานนี้ก็มีเช่นเดียวกัน
อีกส่วนหนึ่ง อาจจะไม่เกี่ยวกับงาน แต่ปีนี้เครือสหพัฒน์เดินหน้าลงทุนเพิ่ม เซ็นสัญญาร่วมทุนกับต่างประเทศหลายโครงการ เช่น การเซ็นสัญญาระหว่างบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) กับ Japanese Ramen ประเทศญี่ปุ่น เพื่อดำเนินกิจการร้านราเมง, การเซ็นสัญญาระหว่างบริษัท สหพัฒนาอินเตอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กับ MayFlower Group ประเทศมาเลเซีย เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการทัวร์ที่มีความหลากหลายและครบวงจร, การเซ็นสัญญาระหว่างเครือสหพัฒน์กับ World Co.,Ltd เพื่อก่อตั้งบริษัทร่วมทุนชื่อว่า World Saha Fashion, การเซ็นสัญญาระหว่างบริษัท ไทยอรุซ จำกัด และ MK GROUP เพื่อก่อตั้งบริษัท Arusu Myanmar ขยายธุรกิจทางด้านการออกแบบตกแต่งไปยังประเทศเมียนมาร์
ทั้งหมดเป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่า บริษัทใหญ่ๆ อย่างเครือสหพัฒน์ ไม่ได้หยุดการลงทุน และยังมองหาตลาดอย่างต่อเนื่อง เป็นสิ่งที่ยืนยันว่าสถานการณ์เศรษฐกิจน่าจะกำลังเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นตามลำดับ
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา