ภาวะโอเวอร์ซัพพลายในตลาดคอนโดมิเนียม และการหายไปของกำลังซื้อจากกลุ่มนักท่องเที่ยว นักลงทุนต่างชาติ หลังเกิดปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้การซื้อคอนโดเพื่อลงทุน ที่เคยได้รับความนิยมอย่างสูง หายไปจากตลาดทันที เนื่องจากกลุ่มนักลงทุนทั้งไทย และต่างชาติมองว่าการลงทุนในคอนโดขณะนี้ เป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่าและให้ผลตอบแทน
อย่างไรก็ตามการมาของ Campus Condo คอนโดในทำเลใกล้สถาบันการศึกษา ที่เน้นจับกลุ่ม นักเรียน นักศึกษา ทำให้การซื้อคอนโดเพื่อลงทุนกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง แม้ต้องเผชิญภาวะการแพร่ระบาดของเชื่อไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลต่อกำลังซื้อ และความต้องการของผู้บริโภค
การซื้อและลงทุนในคอนโด ในมุมมองของกลุ่มนักลงทุนไทยและต่างชาติ กลายเป็นการลงทุนที่ไม่ได้รับความสนใจเช่นที่ผ่านมา แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ที่พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในตลาด มีการนำห้องชุดในโครงการคอนโดในทุก ๆ พื้นที่ออกมาลดราคาขาย ด้วยการจัดโปรโมชั่นมอบส่วนลด30 – 40 % เพื่อระบายสต็อกห้องชุดสะสมในพอร์ต โดยหวังจะเก็บเงินสดไว้ในมือ เพื่อใช้เป็นเงินหมุนเวียนในช่วงที่ตลาดได้รับผลกระทบจากปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการหดตัวทางเศรษฐกิจ ทำให้ในช่วง1-2ปีนี้ อสังหาฯ กลายเป็นตลาดของผู้ซื้ออย่างแท้จริง
แม้ว่าการเร่งระบายสต็อกห้องชุด ด้วยการลดราคาขายเกือบ 50% จากราคาขายปกติ จะเป็นโอกาส การซื้อเพื่อลงทุนสำหรับนักลงทุน หรือผู้มีเงินเก็บไล่เก็บห้องชุดราคาถูกไว้ทำกำไรในระยะยาว แต่โอกาสที่เกิดขึ้นนี้ ยังไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร เนื่องจากผลตอบแทนจากการลงทุนในคอนโด ณ ปัจจุบันค่อนข้างต่ำ เพราะเป็นที่รู้กันว่าซัพพลายสะสมในตลาดมีอยู่เยอะมาก การแข่งขันจึงสูง แม้แต่ในทำเลที่เคยทำราคาได้ดีไม่มีตก อย่างทำเลทองหล่อ นานา อโศก หรือ รัชดา ซึ่งอดีตนั้นค่าเช่าห้องคอนโดพุ่งสูงต่อเนื่องในทุกปี
แต่หลังจากเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้เกิดการล็อกดาวน์ประเทศ นักท่องเที่ยว และชาวต่างชาติ ที่เป็นลูกค้าหลักหายไปหมด ทำให้การแข่งขันในตลาดเช่า ในทำเลในกลางเมืองพุ่งสูงขึ้น เพราะไม่ว่า คอนโดปล่อยเช่า อพาร์ทเม้นท์ เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ โรงแรม ทั้งที่ให้บริการแบบรายวัน และราคาเดือน ไม่มีลูกค้าเข้าใช้บริการ ทำให้ธุรกิจห้องเช่าเหล่านี้ยอมลดค่าเช่า เพื่อดึงลูกค้าเข้ามาใช้บริการ จนทำให้การแข่งขันรุนแรงมาก และที่สำคัญคือ ผลตอบแทนที่ได้จากธุรกิจเหล่านี้ลดต่ำลงเลื่อย ๆ เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ในภาวะที่คอนโดส่วนใหญ่ถูกประเมินว่าไม่คุ้มค่าแก่การลงทุน การกลับมาของ “Campus Condo” ได้ดึงดูดสายตาและความสนใจของกลุ่มนักลงทุนสูงมาก ๆ เพราะหากจะมองหาสินทรัพย์เพื่อการลงทุน ณ เวลานี้ ในตลาดอสังหาฯ ยังไม่มีตัวเลือกที่ดีเท่ากับ Campus Condo เลย เพราะหากจะพูดถึงการลงทุนแล้ว สิ่งแรกคนต้องมองหาคือ ผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับเม็ดเงินที่ลงทุนไป ระยะในการคุ้มทุน และส่วนที่เป็นกำไรจะเป็นอย่างไร ถ้ายิ่งจะเก็บเป็น Asset ที่มีมูลค่าเพิ่มสามารถส่งต่อเป็นมรดกตกทอดให้ลูกหลานได้ก็ถือว่าคุ้มค่ามากๆ
สำหรับ Campus Condo หรือคอนโดในทำเลใกล้สถานศึกษา ในอดีตไม่ค่อยได้รับความสนใจ เพราะต้องแข่งขันกับหอพัก อพาร์ตเมนต์ แต่หลังจากที่หอพักขนาดใหญ่สร้างได้ยากขึ้น ที่ดินแพงมากขึ้น Campus Condo จึงก้าวเข้ามาแทนที่ เนื่องจากเป็นตลาดที่จับลูกค้าได้ถึง 2 กลุ่มในเวลาเดียวกัน คือ
- กลุ่มซื้อเพื่ออยู่เอง เช่น ผู้ปกครองซื้อให้บุตรหลาน เพื่อใกล้ที่ทำงานของคณาจารย์ และบุคลากรในสถานศึกษา เพราะมีจุดเด่นของทำเลที่อยู่ใกล้สถานศึกษา ทำให้นักเรียน นักศึกษาและบุคลากรของมหาวิทยาลัยเดินทางได้สะดวกรวดเร็ว
- กลุ่มซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่า หรือ ขายทำกำไรระยะยาว โดยเฉพาะหากเป็นคอนโดในทำเลอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ของรัฐ หรือ มหาวิทยาลัยของเอกชนแถบชานเมือง ที่เปิดสอนทุกระดับชั้น ไม่ว่าจะเป็นระดับปริญญาตรี โท เอก จะมีประชากรนักศึกษาหลักหมื่นคนที่ต้องมาเรียนหนังสือกันยังไม่นับอาจารย์ เจ้าหน้าที่และงานที่เกี่ยวข้องและต้องมาทำงานในมหาวิทยาลัยอีก ทำให้มีกลุ่มเป้าหมายชัดเจนจนถือว่าเป็นแม่เหล็กที่ดึงดูด ทั้งจำนวนคน จำนวนงานที่เกิดขึ้น ร้านค้าและคอมมูนนิตี้มอลล์ต่างๆ สนามกีฬาต่างๆ เกิดขึ้น ทำให้ดีมานด์ห้องเช่าและอยู่อาศัยในพื้นที่เติบโตไม่หยุด
โดยเฉพาะคนทำงานบางส่วนเลือกเช่าที่อยู่อาศัยและกลุ่มนักลงทุนที่ซื้อไว้ปล่อยเช่าในจำนวนมากๆ บางรายอาจซื้อเหมายกชั้น เพื่อทำเป็นแบบเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ หรือเป็นอาคารพาณิชย์สร้างทะลุกันหลายๆ ห้องบ้างก็มี และจากการที่มีตลาดผู้เช่าชัดเจนทำให้มีความต้องการเช่าสูงมาก และถือว่าในหนึ่งห้อง สามารถทำกำไรได้ตลอดอายุขัย หรือ Life Time Value ที่ไม่รู้จบ ปัจจัยดังกล่าว ทำให้อัตราผลตอบแทนจากราคาค่าเช่าปรับตัวสูงขึ้นในทุก ๆ ปี โดยอัตราค่าเช่าอยู่ที่ 7,000-8,500 บาทต่อเดือน หรือมีอัตราผลตอบแทนส่วนมากก็จะอยู่ที่ประมาณ 6-8% ต่อปี
สำหรับ Campus Condo จะเลือกทำเลในการพัฒนาในย่านชานเมือง เช่น แถวบางนาตราดอย่าง ใกล้มหาวิทยาลัยเอแบค มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ทำเลรังสิต หรือทำเลกล้วยน้ำไท ทำเลใกล้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิต ซึ่งทำเลเหล่านี้ไม่ได้อยู่ใกล้รถไฟฟ้า แต่อาศัยแรงดึงดูดจากนักศึกษาเป็นหลัก ซึ่งดูเหมือนจะเป็นตลาดที่แคบกว่าคอนโดใกล้รถไฟฟ้า แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นตลาดที่มีความชัดเจนในกลุ่มลูกค้า และดีมานด์ที่มีกำลังซื้อที่ดี การขยายของดีมานด์เองก็มีอย่างต่อเนื่องในทุก ๆ ปี เพราะในแต่ละปีนั้น จะมีนักศึกษาใหม่ๆเข้ามาศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีทุกปี ทำให้มีดีมานด์เกิดใหม่และหมุนเวียนทุก ๆ ปี ดังนั้น Campus Condo จึงเป็นคอนโดที่น่าลงทุน เพราะมีอัตราผลตอบแทนจากค่าเช่า ที่ดีกว่าคอนโดใกล้แนวรถไฟฟ้า
สรุป
เมื่อมองถึงความคุ้มค่าในการลงทุน ในขณะนี้ “Campus Condo” น่าจะเป็นคอนโดที่ตอบโจทย์นักลงทุนมากที่สุด และเหมาะสมกับการลงทุนมากที่สุด เมื่อเทียบกับคอนโดแนวรถไฟฟ้า หรือ คอนโดในย่านกลางเมือง เพราะเป็นตลาดที่มีการขยายตัวของดีมกานด์อย่างต่อเนื่องในทุก ๆ ปี และยังสามารถให้ผลตอบแทนจากปล่อยเช่าที่ดีต่อเนื่อง นอกจากนี้หากต้องการที่จะขาย หรือเปลี่ยนมือก็สามารถทำได้สะดวก คล่องตัว เพราะมีกลุ่มนักลงทุนใหม่ๆ พร้อมที่จะรับซื้อ เนื่องจากซับพลายในตลาดนี้มีปริมาณจำกัด และที่ดินในทำเลใกล้สถานศึกษานั้นมีจำนวนน้อยลงทุนวัน ทำให้ราคาที่ดินสูงขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าหากมีคอนโดเกิดใหม่ราคาขายก็จะสูงขึ้นเลื่อยๆ ดังนั้น Campus Condo ก้าวเข้ามาเป็นอีกเซ็กต์เม้นท์ที่น่าลงทุนที่สุดในเวลานี้
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา