รัฐบาลดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ประกาศตั้งโครงการนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในกิจการภาครัฐ (e-Government) โดยเลือก IBM และ Consensys เป็นพาร์ทเนอร์ทางเทคโนโลยี
รัฐบาลดูไบ มีแผนการ Smart Dubai อยู่แล้ว โดยตั้งหน่วยงานชื่อ Smart Dubai Office ขึ้นมาเป็นผู้รับผิดชอบงานด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้าน FinTech, Big Data, E-Medical, E-Waste, Smart Car
Smart Dubai มีแผนการย้ายระบบต่างๆ ของภาครัฐมาอยู่บนเทคโนโลยี Blockchain ภายใต้วิสัยทัศน์ blockchain-as-a-service (BaaS) ไม่ว่าจะเป็นภารกิจด้านการท่องเที่ยว สาธารณสุข หรือตำรวจ
ทางรัฐบาลดูไบระบุว่าจะลองระบบ Blockchain นำร่องได้ภายในปีหน้า 2018 และต้องการจะย้ายระบบสำคัญๆ ประมาณ 10-15 ระบบมาอยู่บน Blockchain ให้ได้ภายใน 2-3 ปี เป้าหมายของดูไบคือจะเป็นรัฐบาลแรกของโลกที่รันงานด้วย Blockchain ให้ได้ในปี 2020
โครงการ Blockchain จะเริ่มสำรวจข้อมูลของระบบงานภาครัฐตั้งแต่ปีนี้ โดยจะมีกิจกรรม workshop ต่างๆ ตลอดทั้งปี เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน รับทราบเป้าหมายของโครงการ และคัดเลือกระบบงานภาครัฐที่น่าจะเหมาะสมกับงาน Blockchain มากที่สุด
#SmartDubai holds press conference to kick-off city-wide implementation of #Blockchain technology with partners @IBMMEA & @ConsenSysLLC pic.twitter.com/k9IUUscPwF
— Smart Dubai Old (@Smartdubai_old) March 14, 2017
ดูไบเลือก IBM และ ConsenSys เป็นพาร์ทเนอร์ด้าน Blockchain สองรายที่มีฐานเทคโนโลยีที่ต่างกัน (IBM ใช้ Hyperledger ส่วน ConsenSys เป็น Ethereum) และรัฐบาลดูไบมีนโยบายเปิดกว้าง ไม่อิงกับเทคโนโลยีของบริษัทใดบริษัทหนึ่ง
Zeina El Kaissi หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจของ Smart Dubai ระบุว่าดูไบเป็นรัฐขนาดเล็ก บวกกับนโยบายของภาครัฐที่เปิดกว้างต่อนวัตกรรม จะเป็นจุดแตกต่างจากรัฐบาลของประเทศอื่นๆ ทั่วโลก และดึงดูดให้บริษัทนวัตกรรมเข้ามาทดสอบระบบเหล่านี้ที่ดูไบกันมากขึ้น
ที่มา – CoinDesk, EconoTimes
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา