Xi Jinping ประธานาธิบดีจีน เผยวิสัยทัศน์ต่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนในอีกสามทศวรรษข้างหน้า เพื่อเรียกความเลื่อมใสศรัทธาและความมั่นใจในห้วงขณะที่โลกกำลังเผชิญความท้าทายอย่างหนักหน่วง
Xi Jinping กล่าวในที่ประชุมที่เต็มไปด้วยสมาชิกระดับสูงเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เขาเชื่อว่าขณะนี้เป็นช่วงเวลาของจีน แม้ว่าจะมีความท้าทายหลากหลายมิติที่จีนต้องเผชิญอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโควิดระบาด การดิสรัปของซัพพลายเชน ความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่กับโลกตะวันตกและยังมีระดับเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างเชื่องช้าอีก ทศวรรษที่ผ่านมาคือห้วงเวลาแห่งความวุ่นวาย คาดการณ์ไม่ได้ แต่ช่วงเวลานี้คือช่วงเวลาของจีน ที่จีนต้องแสดงให้เห็นว่ามีความยืดหยุ่นสูง สามารถกำหนดชะตาตนเองได้อย่างมั่นใจ
จากนั้น Xi Jinping ก็พูดถึงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมห้าปี ที่ต้องพัฒนาทั้งในระยะกลางและระยะยาวในปี 2025 ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ จีนต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างโอกาสและความท้าทายที่เข้ามา การขยายโอกาสและความท้าทายเป็นสิ่งที่คาดการณ์ไม่ได้ แต่เป็นสิ่งที่จีนต้องเผชิญความท้าทายอย่างหนัก
Xi Jinping เรียกร้องให้เกิดความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ความพากเพียร และความยืดหยุ่น เพื่อให้พรรคประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ พรรคคอมมิวนิสต์จีนตั้งเป้าหมายสำคัญสองประการ เรื่องแรกคือเป้าหมายแห่งศตวรรษเมื่อจีนมีอายุครบรอบ 100 ปี และอีกเรื่องคือการมีสังคมที่กินดีอยู่ดีสมบูรณ์พร้อมภายในสิ้นปีนี้ แผนดังกล่าวจะช่วยปูทางให้จีนรวมอำนาจได้อย่างแข็งแกร่งและสร้างความชอบธรรมให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนในการปกครองอีก 30 ปีข้างหน้า เพื่อทำให้จีนเป็นชาติที่ยิ่งใหญ่และทันสมัยมากขึ้นในปี 2049
Xi Jinping ยังย้ำถึงการทำเศรษฐกิจหมุนเวียนคู่ขนานให้เป็นยุทธศาสตร์แรกในการรับมือกับความท้ายทายจากโรคระบาดที่ส่งผลให้เศรษฐกิจจีนเติบโตช้าลง Xi Jinping พูดถึงการพึ่งพาตนเองและการพัฒนาตลาดภายในประเทศจะทำให้จึนเติบโตได้อย่างสดใสภายใต้ธีมการพึ่งพาตัวเองตามแผนเศรษฐกิจห้าปีจนถึงปี 2025
ด้านรองผู้อำนวยการศูนย์วิจัยฯ จากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ระบุว่าสุนทรพจน์ของ Xi Jinping แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจที่มีต่อระบบการเมืองและการพัฒนาของจีน นอกจากนี้ เขายังมุ่งเป้าไปที่ประเด็นในประเทศด้วยการพัฒนาความเป็นอยู่ของคนจีนมากกว่าจะให้ความสนใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างประเทศเสียอีก
ขณะที่รองประธานสถาบันคลังสมองจากเมืองกว่างตง วิเคราะห์ว่า คำพูดของผู้นำจีนสะท้อนให้เห็นถึงการจัดการโควิดระบาดได้ ขณะเดียวกันสหรัฐฯ ก็กำลังวุ่นวายกับการจัดการโรคระบาดและการเปลี่ยนผ่านอำนาจสู่ผู้นำคนใหม่ ในอนาคต จีนอาจจะหาทางผนึกกำลังกับรัสเซียและประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อจัดการกับความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐฯ และเพื่อให้เป็นไปตามหลักการของจีนในประเด็นฮ่องกงและไต้หวัน
ที่มา – South China Morning Post
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา