ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อุตสาหกรรมภาพยนตร์ และโรงภาพยนตร์ทั่วโลกต่างได้รับผลกระทบอย่างหนัก ทั้งไม่มีภาพยนตร์เข้าฉาย หรือถ่ายทำภาพยนตร์ไม่ได้ในช่วงเวลานี้ แต่ Box Office ในเอเชียยังคงเติบโต มีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นนับ 10%
ในปี 2020 รายได้ของการขายบัตรเข้าชมภาพยนตร์ (Box Office) ทั่วโลก มีมูลค่า 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3.73 แสนล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2019 นับว่ามูลค่าหายไปราว 70%
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ของวงการภาพยนตร์ก็ไม่เหมือนสถานการณ์ในประเทศอื่นๆ ทั่วโลกเสียทีเดียว เพราะในประเทศญี่ปุ่น วงการภาพยนตร์ และโรงภาพยนตร์ดูเหมือนว่าจะมีอนาคตที่สดใส เพราะ Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba the Movie: Mugen Train หรือ ดาบพิฆาตอสูร เดอะมูฟวี่: ศึกรถไฟสู่นิรันดร์ เพิ่งจะทำลายสถิติกลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดอันดับ 1 ด้วยรายได้ 3.17 หมื่นล้านเยน หรือประมาณ 9.11 พันล้านบาท โดยทำลายแชมป์เก่าอย่าง Spirited Away ที่ครองแชมป์มานาน 19 ปี
วงการภาพยนตร์เอเชียสดใส สวนทางสหรัฐอเมริกา
สถานการณ์ของวงการภาพยนตร์ในทวีปเอเชีย ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นับว่ามีอนาคตที่ดูดีกว่าในกลุ่มทวีปอื่นๆ ในโลก เพราะตั้งแต่ในช่วงเดือนสิงหาคม 2020 ที่ผ่านมา รายได้จากการขายบัตรชมภาพยนตร์ในทวีปเอเชีย คิดเป็นสัดส่วนกว่า 78% ของรายได้ทั่วโลก
สาเหตุที่ทำให้วงการภาพยนตร์ในเอเชียฟื้นตัวเร็ว เป็นเพราะการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทำได้ดีกว่า ทั้งการสวมใส่หน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่างทางสังคม รวมถึงการมีจำนวนผู้ติดเชื้อที่น้อยกว่า ทำให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้
ยิ่งเมื่อเทียบกับในปี 2019 ก่อนที่โควิด-19 จะระบาด สัดส่วนรายได้จากการขายบัตรชมภาพยนตร์ในเอเชีย มีสัดส่วนเพียง 41% เท่านั้น ก่อนที่จะเพิ่มเป็น 78% ในช่วงเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว และเฉลี่ย 51.5% ของทั้งปี ส่วนสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ที่เคยมีรายได้คิดเป็นสัดส่วน 30% กลับลดเหลือเพียง 18% เท่านั้น
แม้ว่าการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ดี จะมีส่วนที่ทำให้วงการภาพยตร์ในทวีปเอเชียกลับมาเร็วกว่าทวีปอื่นๆ ทั่วโลก แต่ความจริงแล้วยังมีอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ
ภาพยนตร์ท้องถิ่น อาจดึงดูดผู้ชมได้มากกว่าภาพยนตร์ Hollywood
นักวิเคราะห์ด้านสื่อรายหนึ่งให้ความเห็นว่า นอกจากการควบคุมโควิด-19 ได้ดีในทวีปเอเชียแล้ว ยังมีอีกปัจจัยสำคัญ คือ ภาพยนตร์ใหม่ๆ ที่ไม่ใช่ภาพยนตร์ Hollywood เพราะโรงภาพยนตร์ในทวีเอเชียมีภาพยนตร์ใหม่ๆ ดึงดูดผู้ชมจำนวนมาก ต่างจากในสหรัฐอเมริกาที่ภาพยนตร์ที่เข้าฉายในโรงช่วงนี้มักเป็นภาพยนตร์ Hollywood เก่าๆ อย่าง Star Wars และ Jaws
เฉพาะในประเทศจีนเพียงแห่งเดียว มีภาพยนตร์ถึง 2 เรื่องที่สร้างรายได้มากกว่า 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท นั่นคือ The Eight Hundred ภาพยตร์ดราม่าย้อนยุคในช่วงปี 1930 และ My People, My Homeland ภาพยนตร์ตลก โดยทั้งสองเรื่องมีกำหนดฉายในโรงภาพยนตร์พร้อมๆ กัน ในช่วครึ่งหลังของปี 2020
ภาพยนตร์ Hollywood บางเรื่องก็ไม่ปังอย่างที่คิด
แต่เมื่อเทียบกับสหรัฐอเมริกา ภาพยนตร์ที่ทำรายได้ดีที่สุดในรอบปี 2020 ต้องย้อนกลับไปถึงช่วงเดือนมกราคม นั่นคือภาพยนตร์เรื่อง Bad Boys for Life โดยสามารถทำรายได้ไปได้ 204 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 6.12 พันล้านบาท
ส่วนภาพยนตร์ดังเรื่องอื่น ที่ตอนแรกคาดว่าจะทำรายได้ในสหรัฐอเมริกาอย่างมหาศาล กลับทำรายได้ไม่มากอย่างที่คาดการณ์นัก เช่น Wonder Woman 1984 และ Tenet ทำรายได้ได้น้อยกว่า 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 903 ล้านบาทเท่านั้น
ที่มา – cnbc
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา