9 อินไซต์ของนักท่องเที่ยวในการจองที่พักในไทย จับตา “จีน-อินเดีย” พักหรูมากขึ้น

Expedia Group เปิดข้อมูลของนักท่องเที่ยวในการจองที่พักในประเทศไทย พบว่าสหรัฐอเมริกายังเป็นตลาดใหญ่ที่สุด รวมถึงชาวจีน และอินเดียมีแนวโน้มมีกำลังซื้อมากขึ้น

Photo : Shutterstock

Expedia Group แพลทฟอร์มด้านการท่องเที่ยวที่ใหญ่ เปิดเผยเทรนด์ความต้องการที่พักล่าสุดในไทย โดยผู้ประกอบการที่พักในไทยยิ้มรับยอดจองที่เติบโตอย่างต่อเนื่องข้อมูลจาก Expedia Group เผยว่าความต้องการที่พักจากนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยรวมในประเทศไทยเติบโตขึ้นปีต่อปีถึง 10% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา

ความต้องการที่พักของนักเดินทางชาวจีนและอินเดียเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อิสราเอลและแอฟริกาใต้เป็นตลาดเกิดใหม่ที่มีความต้องการระดับสูง

Expedia Group ได้ทำการรวบรวมข้อมูลจากแบรนด์การท่องเที่ยวที่หลากหลายซึ่งอยู่บนแพล็ตฟอร์มของทางบริษัทพบว่า มี 9 ข้อมูลเชิงลึก ดังนี้

1. นักเดินทางจากสหรัฐอเมริกายังคงเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดสำหรับไทย โดยความต้องการที่พักเติบโตขึ้นประมาณ 20% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในขณะที่จีนคือตลาดที่ใหญ่รองลงมา ซึ่งแซงญี่ปุ่นฮ่องกงและเกาหลีใต้เป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา นอกจากจีนแล้ว อินเดียก็ไต่อันดับขึ้นมา 3 อันดับ โดยขึ้นมาอยู่อันดับที่ 10 ของนักเดินทางต่างชาติที่เดินทางมายังประเทศไทยมากที่สุด

2. ชาวจีน-อินเดีย ลูกค้ากลุ่มพรีเมี่ยม ที่น่าสนใจคือนักเดินทางจากจีนและอินเดียมีแนวโน้มการจองที่พักระดับพรีเมียมที่มากขึ้น โดย 60% ของการจองที่พักโดยนักเดินทางชาวจีน และ 55% ของการจองโดยนักเดินทางชาวอินเดียเป็นการจองที่พักระดับ 4 ดาวและ 5 ดาว ซึ่งเทรนด์การจองนี้เป็นไปตามกลยุทธ์ของรัฐบาลไทยที่มุ่งเน้นดึงดูดนักท่องเที่ยวระดับพรีเมี่ยมจากจีน และอินเดียให้มากขึ้น

3. ด้านของเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอย่าง กรุงเทพฯ พัทยา และภูเก็ต ก็คือจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวชาวจีนและอินเดียเลือกไปพักผ่อนมากที่สุด มากไปกว่านั้นมีสถานที่ดังต่อไปนี้ มีการขยายการเติบโต ได้รับความนิยมด้านการจองที่พักจากนักเดินทางมากถึง 3 หลัก เมื่อเปรียบเทียบอัตราการเติบโตแบบปีต่อปีในช่วงเวลาเดียวกัน ทั้งหัวหินโต 110% ,เกาะพีพีโต 100% ,และเกาะหลีเป๊ะโต 100% ตามลำดับ

4. ผลสำรวจล่าสุดระบุว่า 80% ของนักเดินทางจากต่างชาติ โดยไม่ได้อ้างอิงถึงอายุเชื่อว่าการจองที่พักให้เสร็จสมบูรณ์ในที่เดียวนั้นถือว่าเป็นประโยชน์มาก โดยข้อมูลจาก Expedia Group ยืนยันว่าความต้องการประสบการณ์การจองแบบครบวงจรในที่เดียวที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้การจองแพ็คเกจระดับนานาชาติเพิ่มขึ้นปีต่อปีถึง 50%

5. นอกจากนี้ข้อมูลยังเผยว่ากลุ่มนักเดินทางชาวจีนคือ ตัวขับเคลื่อนความต้องการด้านแพ็คเกจในประเทศไทย โดย 1 ใน 3ของแพ็คเกจที่จองโดยนักเดินทางต่างชาติมาจากชาวจีน จีนยังเป็นตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดในด้านความต้องการแพ็คเกจ ซึ่งพุ่งสูงถึง 200% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว อินเดียก็เติบโตไปในทิศทางเดียวกัน โดยความต้องการแพ็คเกจเติบโตขึ้นปีต่อปีถึง 160% นอกจากนี้ไอร์แลนด์ เกาหลีใต้และอินโดนีเซียต่างก็มีความต้องการแพ็คเกจที่สูงขึ้นปีต่อปีถึง 130%,120% และ 100% ตามลำดับ

6. UAE-แอฟริกาใต้ ตลาดใหม่สุดพรีเมี่ยมที่ควรเจาะ เมื่อเจาะลึกถึงข้อมูลเกี่ยวกับตลาดนานาชาติที่เกิดขึ้นใหม่ซึ่งมีการเติบโตที่น่าประทับใจ Expedia Group ยืนยันว่าสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แอฟริกาใต้ และอิสราเอลคือตลาดใหม่ระดับไฮเอนด์ที่ผู้ประกอบการด้านที่พักควรลงทุน นักเดินทางจากตลาดดังกล่าวใช้จ่ายค่าที่พัก 15% ที่สูงกว่า และเข้าพักนานกว่าประมาณ 1 วัน เมื่อเทียบกับนักเดินทางต่างชาติทั่วไป

7. ซึ่ง 70% ของการจองโดยนักเดินทางจากประเทศเหล่านี้เป็นการจองที่พักระดับ 4 ดาว และ 5 ดาว และยังมียอดใช้จ่ายค่าที่พักรายวันมากกว่านักเดินทางต่างชาติอื่น ๆ 50%

8. นักท่องเที่ยวจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์แอฟริกาใต้ และอิสราเอลนิยมมาพักที่กรุงเทพฯ เพื่อสัมผัสบรรยากาศและเสน่ห์ของเมืองหลวง หรือแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลอย่างภูเก็ต พัทยา เกาะสมุย และเกาะพะงัน

9. พันธมิตรด้านผู้ประกอบการต่าง ๆ ที่ต้องการเจาะตลาดนักเดินทางระดับไฮเอนด์ควรตระหนักเรื่องช่วงเวลา หรือฤดูที่มีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากทั้งนี้ข้อมูลรายงานว่านักเดินทางจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ชอบเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกันยายน และธันวาคมถึงมกราคม ในขณะที่นักเดินทางจากอิสราเอลและแอฟริกาใต้มักจะเดินทางท่องเที่ยวในเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา