ค้าปลีกแห่งอนาคต เมื่อ 7-Eleven ในสหรัฐอเมริกาเริ่มทดลองทำสาขาไร้แคชเชียร์ จัดการด้วยระบบอัตโนมัติ

7-Eleven
7-Eleven

ร้านสะดวกซื้อแห่งอนาคต ใช้แรงงานคนน้อยลง เทคโนโลยีทั้งร้าน

7-Eleven ในเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา จะทดลองทำร้านในรูปแบบไร้แคชเชียร์ (cashierless concept) โดยขั้นแรกจะเริ่มต้นทดลองให้บริการกับพนักงานของบริษัทก่อน ซึ่งสาขาที่ทดลองนี้จะมีขนาด 700 ตารางฟุต

ถ้าใครที่รู้จักหรือเคยเห็นร้าน Amazon Go ที่เป็นร้านไร้แคชเชียร์และเสริมพลังด้วย AI ในการจัดการสาขา ในแง่นี้ร้านไร้แคชเชียร์ของ 7-Eleven แทบจะไม่มีอะไรแตกต่าง

Mani Suri รองประธานอาวุโสและผู้บริหารฝ่ายข้อมูลของ 7-Eleven ระบุว่า “ถึงที่สุดแล้ว เราต้องการทำให้ประสบการณ์ในการซื้อของของลูกค้าเป็นไปอย่างรวดเร็ว สะดวกสบายในการจ่ายเงิน รวมถึงเป็นประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ไร้ร้อยต่อ ส่วนการเปิดสาขาอัตโนมัติให้พนักงานของเราทดลองใช้บริการก่อน ก็เพื่อทำให้เราเห็นว่าในท้ายที่สุดเราจะทำร้านไร้แคชเชียร์ออกมาในรูปแบบใดให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับลูกค้าในวงกว้าง”

การนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาในธุรกิจค้าปลีกอย่างร้านสะดวกซื้อเป็นแนวทางที่หลายบริษัทปรับตัวเข้าไปเล่น เพราะถึงที่สุด ไม่ใช่เพียงแค่ใช้แรงงานมนุษย์น้อยลง แต่ประสิทธิภาพในการจัดการร้านจะสูงขึ้นด้วย เช่น ระบบการจัดการสต็อคสินค้าทั้งหมดในร้าน ตั้งแต่อาหาร เครื่องดื่ม ขนม สินค้าเครื่องใช้ที่มีขายในร้าน จะทำให้ทางบริษัทมีข้อมูลแบบเรียลไทม์ว่า สินค้าชิ้นใดขายดี ชิ้นใดขายไม่ดี และจะเติมหรือปลดสินค้าชิ้นนั้นเมื่อใด ข้อมูลลักษณะนี้จะทำให้บริษัทลดต้นทุนไปได้มาก รวมถึงฝั่งลูกค้าเองก็สามารถที่จะติดตามสินค้าและบริการได้จากแอพพลิเคชั่นของ 7-Eleven ยกตัวอย่างเช่น บริการเดลิเวอรี่สินค้าหรือมารับของที่หน้าสาขาสามารถทำได้ทุกขั้นตอนโดยไม่ต้องใช้มนุษย์ เพราะหากสั่งของผ่านออนไลน์แล้วมารับที่หน้าร้าน เพียงสแกนผ่านแอพพลิเคชั่นบนมือถือก็เสร็จสิ้นทันที

ปัจจุบัน 7-Eleven มีสาขาทั่วโลก (รวมสาขาแบบแฟรนไชส์) กว่า 70,000 แห่ง มีสาขาให้บริการใน 17 ประเทศ หากนับเฉพาะในฝั่งอเมริกาเหนืออย่างเดียว 7-Eleven มีสาขามากถึง 11,800 แห่ง

ส่วน 7-Eleven ในไทย เราเริ่มได้ยินกันมากขึ้นกับกระแสสาขาอัตโนมัติที่ไร้แคชเชียร์และไม่ต้องใช้แรงงานมนุษย์จำนวนมากเหมือนเดิมกันบ้างแล้ว ต้องรอดูว่าค้าปลีกไทยจะเดินตามเส้นทางนี้หรือไม่ ต้องติดตาม

ที่มา – Techcrunch

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา