แม้จะเริ่มปี 2018 เข้าสู่เดือนที่ 2 แล้ว แต่เชื่อว่านักการตลาดหลายคนก็ยังอยากรู้ทิศทางการตลาดในไทยอยู่ มีการพูดคุยกับดิจิทัล เอเยนซี่รุน่ใหม่ไฟแรงอย่าง Rabbit’s Tale มองถึงเทรนด์การตลาดในปีนี้ Micro Influencer ยังคงมาแรงแซงทางโค้งที่สุด
แม้เทรนด์การตลาดในระดับโกลบอลจะมองว่าเทคโนโลยีอย่าง AI หรือ VR/AR จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น แต่สำหรับในประเทศไทยยังไม่ได้เห็นผลมากเช่นนั้น อย่างไรแล้ว Local Marketing ยังคงเป็นหัวใจสำคัญในการเข้าถึงผู้บริโภคคนไทยอยู่
ได้มีโอกาสพูดคุยกับ “สุนาถ ธนสารอักษร” ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แรบบิทส์ เทลล์ จำกัด ดิจิทัล เอเยนซี่รุ่นใหม่ไฟแรง ได้มองทิศทางการตลาดในไทยสำหรับในปีนี้ด้วยกัน 6 ข้อ ส่วนใหญ่หัวใจสำคัญอยู่ที่ “คอนเทนต์” นักการตลาดต้องมีการปรับตัว และเรียนรู้อย่างไรบ้าง ไปดูกัน
- Influencer Marketing ยังคงมาแรงขึ้น แต่จะเป็นกลุ่มของ Micro Influencer หรือเป็นคนทั่วไปบนโลกออนไลน์ที่มีการรีวิวสินค้า ที่จะเห็นมากขึ้นก็คือในทวิตเตอร์ เช่น รีวิวสินค้าในเซเว่น, รีวิวเครื่องสำอาง หรือสินค้าใหม่ๆ ผู้บริโภคจะเชื่อคนกลุ่มนี้มากขึ้น รู้สึกว่ามีความ Real กว่า เข้าถึงได้มากกว่ากลุ่มดารา หรือเซเลบที่มารีวิวสินค้าในรูปแบบเดิมๆ แต่คนธรรมดาให้ความรู้สึกว่าเขาก็มีโอกาสสวยเหมือนกันได้ หรือดูดีเหมือนกับคนรีวิวได้เช่นกัน แต่สำหรับแบรนด์ที่ทำแคมเปญก็อาจจะยังมีการใช้ดาราสัก 1-2 คนอยู่เพื่อสร้างการรับรู้ และจะมีการใช้บุคคลทั่วไปในจำนวนมากๆ แทนมากกว่า
- ปรากฏกาณ์ Facebook ล้างไพ่ New Feed จัดการลด Reach ของเพจนั้น ฝั่งที่กระทบมากที่สุดคือเพจที่เป็นมีเดีย หรือสำนักข่าว หรือคนทำคอนเทนต์ทั่วไป ต้องมีวิธีการปรับคอนเทนต์ให้น่าสนใจมากขึ้น อาจจะใส่ครีเอทีฟเข้าไป หรือเพิ่มเนื้อหาที่เป็นวิดีโอเพื่อเพิ่มการเข้าถึง ส่วนฝั่งของแบรนด์อาจจะไม่ได้รับผลกระทบเท่าไหร่ เพราะมีการใช้เงินมากขึ้นอยู่แล้วสำหรับการซื้อโฆษณาบน Facebook
- การตลาดยุคดิจิทัลไม่ได้แบ่งเป็นออนไลน์ และออฟไลน์แล้ว ต้องผสมผสานทุกอย่างเข้าด้วยกัน วงการเอเยนซี่ก็เช่นเดียวกันต้องมีการทำทุกอย่างผสมกัน รายใหญ่จะเริ่มมีการทำงานทุกอย่างเป็น Total Communication ส่วนรายเล็กจะเจาะไปทางใดทางหนึ่งเลย เช่น SEO หรือ Influencer
- การทำแคมเปญของแบรนด์จะไร้รูปแบบมากขึ้น ไม่มีการกำหนดว่าจะต้องเป็นแบบนี้ วิธีการที่เคยสำเร็จในอดีตก็อาจจะใช้กับยุคนี้ไม่ได้ วิธีการใหม่ๆ ก็อาจจะใช้ได้ผลมากกว่า นักการตลาดต้องมีการใช้ครีเอทีฟมากขึ้น และมีจำนวนคอนเทนต์ในจำนวนเยอะๆ ในการ Engage กับผู้บริโภค เพราะบางทีทำแคมเปญใหญ่ๆ แล้วไม่เกิด ทำให้เปลืองงบประมาณ
- Viral Marketing ยังคงมีให้เห็น แต่คอนเทนต์ดีๆ จะไม่เยอะเท่าเดิม จะมีกระบวนการคัดกรองคนที่ทำไวรัลไม่เป็นให้ออกไป มีกระบวนการเรียนรู้มากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่เทรนด์การทำวิดีโอ คอนเทนต์ก็จะมากขึ้นกว่าเดิม เพราะได้ Reach ที่สูงกว่า แต่อาจจะเป็นจำนวนเยอะ แต่คุณภาพอาจจะน้อยลง
- ในแง่ของบุคลากรเกิดสงคราม Talent War เป็นความท้าทายที่ใหญ่สุด การหาบุคลากรเป็นเรื่องสำคัญ มีการแย่งชิงคนในแต่ละองค์กร ไม่ใช่แค่วงการเอเยนซี่ แต่เป็นในทุกๆ วงการ เพื่อให้ได้คนที่มี Skill เจ๋งๆ เหมาะกับองค์กรมากที่สุด
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา