6 ประเทศในเอเชียแปซิฟิก ติด Top 10 คู่แข่ง Silicon Valley ศูนย์กลางเทคโนโลยี ไม่มีไทยอยู่ในนั้น

KPMG ออดิทเฟิร์มระดับโลกได้ทำการสำรวจและวิจัยพบว่า โควิด-19 ทำให้การทำงานเปลี่ยนไป แต่ Technology Hub จะยังมีความสำคัญ หลายคนอาจทำงานทางไกล ออกจากเมืองใหญ่ แต่หลายคนยังเชื่อว่าพื้นที่ทำงานยังมีจำเป็น แต่ในกรณีนี้ Technology Hub อาจไม่ใช่ Silicon Valley อีกต่อไปในอนาคต

silicon valley

การสำรวจล่าสุดด้านอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของเคพีเอ็มจี (KPMG Technology Industry Survey) ได้มีการสอบถามผู้นำในอุตสาหกรรมมากกว่า 800 ราย โดย 39% เชื่อว่า Hub อย่าง ลอนดอน, สิงคโปร์, เทลอาวีฟ ยังมีบทบาทสำคัญเป็นที่รวมตัวของ “Talent” หรือกลุ่มคนที่มีความสามารถมาทำงานร่วมกัน แต่มี 22% ที่เชื่อว่า Hub จะไม่สำคัญอีกต่อไป

ผลสำรวจครั้งนี้สะท้อนไปในทางเดียวกันกับการวิจัยก่อนหน้านี้ คือ KPMG CEO Outlook pulse survey ประจำปี 2564 ซึ่งเผยว่าผู้นำด้านเทคโนโลยี 78% ไม่มีแผนที่จะลดขนาดการใช้พื้นที่สำนักงาน และมีประมาณ 26% ที่คาดว่าจะจ้างทาเลนท์ที่ทำงานทางไกลในอนาคตเป็นส่วนใหญ่

ประเทศ ที่มีความเป็นไปได้จะมาแทน Silicon Valley จากการสำรวจ ได้แก่

  1. สิงคโปร์
  2. นิวยอร์ก / เทลอาวีฟ (เสมอกัน)
  3. ปักกิ่ง
  4. ลอนดอน
  5. เซี่ยงไฮ้
  6. โตเกียว
  7. เบงคาลูรุ
  8. ฮ่องกง
  9. ออสติน / ซีแอตเติล (เสมอกัน)

6 ใน 10 เมืองที่ได้รับการจัดอันดับมาจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีความเป็นไปได้ที่ Technology Hub จะย้ายไปจาก Silicon Valley ไปเป็นที่อื่นในอีกสี่ปีข้างหน้า ประมาณ 32% เชื่อมั่นว่า ซิลิคอนแวลลีย์จะรักษาตำแหน่งผู้นำในช่วงสี่ปีข้างหน้า

แต่ที่น่าสนใจคือผู้นำจำนวนเดียวกันเชื่อว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น บริษัทที่มีขนาดต่างกัน มีมุมมองที่แตกต่างกันเล็กน้อยเกี่ยวกับเรื่องนี้ บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ 38% คิดว่า ซิลิคอนแวลลีย์จะรักษาตำแหน่งผู้นำไว้ได้ แต่บริษัทขนาดเล็ก หรือ สตาร์ทอัพ 27% เท่านั้นที่รู้สึกเช่นนี้ ในขณะที่บริษัทตลาดระดับกลางอยู่ตรงกลางที่ 32%

แม้ว่าซิลิคอนแวลลีย์จะเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองที่มีอำนาจในด้านเทคโนโลยีระดับโลก ผู้นำองค์กรเพียงหนึ่งในสามเชื่อมั่นว่าซิลิคอนแวลลีย์จะรักษาตำแหน่งผู้นำด้านนวัตกรรมไว้ได้ในระยะยาว

ดาเรน ยอง หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยี สื่อ และโทรคมนาคม เคพีเอ็มจี เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า เมืองที่ติดอันดับท็อป 10 ล้วนมีระบบนิเวศด้านไอทีที่แข็งแกร่งอยู่แล้วก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยการสำรวจปีนี้เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา คือ โซล (เกาหลีใต้) ซึ่งอยู่ในอันดับ 8 หลุดไปเป็นอันดับ 14 ในปีนี้ ในขณะที่ออสตินและซีแอตเทิล ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 11 และ 24 ในปีที่แล้ว ขยับขึ้นมาเป็นอันดับที่ 10 เท่ากันในปี 2564

ต้องมีสมดุลระหว่างสถานที่ทำงาน-ทำงานจากบ้าน

อเล็กซ์ ฮอลท์ หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยี สื่อ และโทรคมนาคมของเคพีเอ็มจีทั่วโลก บอกว่า สถานที่ทำงานและศูนย์กลางนวัตกรรม ยังคงเป็นองค์ประกอบสำคัญในกลยุทธ์ของบริษัทเทคโนโลยี แม้ว่าจะไม่ได้ตั้งอยู่บริเวณซิลิคอนแวลลีย์

ทักษะด้านวิศวกรรมและทรัพย์สินทางปัญญาเป็นส่วนสำคัญของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี และการรักษาผู้มีความสามารถระดับสูงไว้เป็นกลยุทธ์ที่จำเป็น นายจ้างทราบเรื่องนี้และกำลังมุ่งสู่การจัดระบบการทำงานที่ยืดหยุ่น ซึ่งรวมถึงการทำงานแบบผสมผสานระหว่างจากสถานที่ทำงานและจากบ้านให้เป็นนโยบายถาวรแม้หลังวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้วก็ตาม เมื่อแรงงานกระจายตัว ศูนย์กลางแห่งใหม่ๆ ของแรงงานที่มีทักษะสูงก็จะปรากฏขึ้น

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา