ไดเมนชั่น ดาต้า เปิดแนวโน้มด้านเทคโนโลยีในปี 2019 พบว่าปีหน้าจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงทางด้านดิจิทัลเกิดขึ้นจริงอย่างแน่นอน
ไดเมนชั่น ดาต้าผู้ให้บริการเทคโนโลยีระดับโลก ได้เปิดเผยรายงานแนวโน้มเทคโนโลยีในปี 2019 ในรายงานได้ชี้ถึงพื้นฐานของแนวโน้มอุตสาหกรรม ที่จะมากำหนดขอบเขตธุรกิจด้านเทคโนโลยีในปีหน้า ได้แก่ ประสบการณ์ของลูกค้า ความปลอดภัยระบบออนไลน์ ธุรกิจดิจิทัล โครงสร้างพื้นฐานของระบบดิจิทัล สถานที่ทำงานรูปแบบดิจิทัล (ดิจิทัล เวิร์คเพลส) เทคโนโลยีในอนาคต และ รวมถึงการบริการต่างๆ คาดการณ์ว่าจะมีการขยายตัวของบริษัทด้านเทคโนโลยีอย่างล้นหลามในระยะยาว
ประเด็นที่หลายคนพูดถึงกันบ่อยๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ยังไม่ได้เกิดขึ้นอย่างจริงจังก็จะเริ่มเกิดชึ้นจริงและจะเป็นจุดเปลี่ยนทางเทคโนโลยีที่สำคัญ ได้แก่ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) คอมพิวเตอร์ที่สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง (Machine learining) และกระบวนการทำงานอัตโนมัติโดยหุ่นยนต์ (Robotic Process Automation)
สังเกตได้ว่าที่ผ่านมาในอุตสาหกรรมได้พูดถึงเกี่ยวกับเทคโนโลยีล้ำสมัยบางอย่างในเชิงทฤษฎีเท่านั้น ซึ่งยังไม่สามารถระบุถึงประโยชน์และการนำไปใช้ได้อย่างชัดเจน เช่น เครื่องมือวิเคราะห์และเก็บข้อมูลเชิงสถิติ (Think analytics), Machine learining, AI, Blockchain และ Container เป็นต้น
มีการคาดการณ์ว่าในปีหน้าจะมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในเชิงปฏิบัติมากขึ้น ซึ่งจะได้เห็นกันมากขึ้นในตลาดอีก 3 ปีข้างหน้า โดยจะกลายเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญในกระบวนการต่างๆ และจะเป็นเทคโนโลยีธรรมดาที่ใช้กันทั่วๆ ไปในที่สุด โดยเชื่อว่าในปี 2019 จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายในแวดวงเทคโนโลยี
5 เทรนด์เทคโนโลยีในปี 2019
- หุ่นยนต์จะเปลี่ยนแปลงประสบการณ์ของลูกค้า
การเติบโตของกระบวนการใช้หุ่นยนต์อัตโนมัติ เช่น AI, machine learining และเครือข่ายระบบคอมพิวเตอร์ที่เลียนแบบเส้นใยประสาทของมนุษย์ (neural networks) จะทำให้บริษัทเพิ่มความสามารถในการแยกแยะและรวบรวมสถานการณ์ต่างๆ เพิ่มความเข้าใจ และสามารถวิเคราะห์และคาดการณ์ความต้องการและพฤติกรรมของลูกค้าได้แบบเรียลไทม์
2. องค์กรจะให้ความสำคัญกับความปลอดภัยระบบออนไลน์ที่อยู่ในรูปแบบคลาวด์
ช่องโหว่ที่สำคัญในการรักษาความปลอดภัยออนไลน์ในปี 2018 ถือเป็นแรงผลักดันทำให้ผู้ให้บริการรักษาความปลอดภัยที่ใช้ระบบคลาวด์ในปี 2019 ออกมาหามาตรการรับมือกันอย่างจริงจัง โดยระบบรักษาความปลอดภัยบนระบบคลาวด์ได้ถูกสร้างพัฒนาขึ้นมาด้วย APIs แบบเปิดระบบที่ทำให้ทีมรักษาความปลอดภัยสามารถผสมผสานรวมเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้เข้ากับแพลตฟอร์มที่มีได้อย่างรวดเร็วและสะดวกขึ้น โดยสิ่งนี้จะทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าจะสามารถจัดการกับภาคส่วนที่ถูกคุกคามได้อย่างทันท่วงทีและรวดเร็ว
3. โครงสร้างพื้นฐานจะกลายเป็นสิ่งที่ผู้ใช้สามารถจัดการได้ในปลายทาง
หลายๆ บริษัทเริ่มสมัครใช้บริการในรูปแบบคลาวด์ในหลายรูปแบบ และเพิ่มการใช้ซอฟแวร์ผ่านเว็บไซต์ (SaaS) มากขึ้น ซึ่งความสามารถในการจัดการได้ในปลายทาง นั่นหมายถึงองค์กรต่างๆ สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วในการเปลี่ยนแปลงภาคส่วนธุรกิจและความต้องการในการใช้แอพพลิเคชั่นและข้อมูลที่เพิ่มมากขึ้น
4. แอพพลิเคชั่นต่างๆ จะฉลาดมากขึ้นและปรับแต่งได้
ในปีหน้าเราจะได้เห็นแอพพลิเคชั่นต่างๆ จะรวบรวมข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้ และปรับเปลี่ยนให้ตรงกับฟังก์ชั่นการทำงานของพวกเขาเพื่อพัฒนาประสบการณ์ของผู้ใช้ AI และ machine learning จะมีบทบาทสำคัญในการช่วยบุคลากรทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
5. ข้อมูลจะกลายเป็นศูนย์กลางของทุกๆ สิ่ง
ในช่วงต่อจากนี้ จะให้ความสำคัญมากขึ้นต่อมูลค่าที่แท้จริงของข้อมูล มีการรวบรวม และยกระดับเพิ่มมูลค่าให้กับข้อมูล โดยข้อมูลจะกลายเป็นแกนหลักสำคัญของดิจิทัลทรานสฟอร์มเมชั่น และกลายเป็นแหล่งใหม่ของรายได้ที่จะแซงหน้ารายได้แบบเดิม ซึ่งจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างข้อมูลที่จำเป็นต้องพัฒนาข้อมูลให้มีมูลค่าสูงเพื่อจะขับเคลื่อนผลักดันการลงทุนในด้านไอที
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา