การมีเงินทุนสำรองเพื่อเป้าหมายสำคัญในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการต่อยอดธุรกิจ สร้างบ้านในฝัน หรือเพิ่มสภาพคล่องในยามจำเป็น คือสิ่งที่หลายคนต้องการ แต่เส้นทางการขอสินเชื่ออาจทำให้หลายคนกังวลใจเมื่อต้องเจอกับคำว่า “ไม่ผ่านการอนุมัติ” อย่างไรก็ตาม การเตรียมตัวที่ดีคือหัวใจสำคัญของความสำเร็จ บทความนี้ได้รวบรวมวิธีขอสินเชื่อธนาคารให้ผ่านที่จะเปลี่ยนเรื่องยากให้กลายเป็นเรื่องง่าย เพื่อให้มือใหม่สามารถเตรียมความพร้อมได้อย่างมั่นใจ และเพิ่มโอกาสในการอนุมัติ
เช็กลิสต์ 3 ด่านสำคัญที่ธนาคารใช้พิจารณาสินเชื่อ
ก่อนจะไปดูเทคนิคการสมัคร การเข้าใจมุมมองของสถาบันการเงินถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญ เพราะธนาคารจะประเมินคุณสมบัติของผู้กู้ผ่านปัจจัยหลัก ๆ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะได้รับชำระหนี้คืนตามกำหนด
1. สุขภาพทางการเงิน และประวัติเครดิตบูโร
ประวัติการชำระหนี้ในอดีตคือกระจกสะท้อนวินัยทางการเงินของคุณ ข้อมูลการชำระหนี้ทุกประเภทจะถูกบันทึกไว้ในรายงานข้อมูลเครดิต การจ่ายหนี้ตรงเวลา และครบถ้วนสม่ำเสมอ จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ ทำให้สถาบันการเงินมองว่าคุณเป็นผู้กู้ที่มีความรับผิดชอบ ในทางกลับกัน หากมีประวัติการชำระล่าช้า หรือมีบัญชีที่ผิดนัดชำระหนี้เกิน 90 วัน ก็อาจเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึงความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ในอนาคต ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ
2. ความมั่นคงของรายได้ และอาชีพ
สถาบันการเงินต้องการความมั่นใจว่า คุณมีความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ได้ตลอดอายุสัญญา
สำหรับพนักงานประจำ ปัจจัยอย่างอายุงาน และความมั่นคงของบริษัทที่ทำงานอยู่จึงมีความสำคัญ ส่วนผู้ประกอบอาชีพอิสระหรือเจ้าของกิจการ ธนาคารจะพิจารณาจากกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอผ่านรายการเดินบัญชี และหลักฐานการเสียภาษี
ดังนั้น การมีแหล่งรายได้ที่ชัดเจน และสม่ำเสมอ จึงเป็นคุณสมบัติพื้นฐานที่ขาดไม่ได้ ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพในการชำระคืนหนี้ของคุณนั่นเอง
3. ความถูกต้อง และครบถ้วนของเอกสาร
เอกสารประกอบการสมัครเปรียบเสมือนตัวแทนที่บอกเล่าเรื่องราวทางการเงินของคุณ การเตรียมเอกสารที่ไม่ครบถ้วน หรือมีข้อมูลที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้กระบวนการล่าช้า หรือถูกปฏิเสธได้ทันที จึงควรตรวจสอบ และเตรียมให้พร้อมก่อนยื่นสมัครเสมอ
ตัวอย่างเอกสารที่มักใช้ในการขอสินเชื่อ
- เอกสารยืนยันตัวตน : สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน
- เอกสารแสดงรายได้ (พนักงานประจำ) : สลิปเงินเดือน (หรือหนังสือรับรองเงินเดือน) รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน
- เอกสารแสดงรายได้ (เจ้าของกิจการ/อาชีพอิสระ) : รายการเดินบัญชีของตนเองหรือกิจการย้อนหลัง 6-12 เดือน หนังสือรับรองการจดทะเบียนการค้า หลักฐานการเสียภาษี (ภ.ง.ด.)
5 เทคนิคลับ วิธีขอสินเชื่อธนาคารให้ผ่าน มือใหม่ก็ทำได้
นอกจากการเตรียมคุณสมบัติพื้นฐานให้พร้อมแล้ว ยังมีเทคนิคเชิงลึกที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการอนุมัติให้สูงขึ้นไปอีกขั้น อ้างอิงข้อมูลจาก Krungsri The COACH แหล่งรวมความรู้เรื่องการเงิน และการลงทุนจากผู้เชี่ยวชาญ ที่ได้แนะนำกลยุทธ์การขอสินเชื่อธนาคารให้มีโอกาสได้รับอนุมัติง่ายขึ้น สามารถนำไปปรับใช้ได้ ดังนี้
1. สร้างประวัติเครดิตให้ดี ไม่ใช่แค่ไม่มีหนี้
หลายคนเข้าใจว่า การไม่สร้างหนี้เลยคือสิ่งที่ดีที่สุด แต่ในมุมมองของสถาบันการเงิน การไม่มีประวัติทางการเงินเลยทำให้ประเมินพฤติกรรมการชำระหนี้ได้ยาก การมีประวัติการใช้สินเชื่ออย่างบัตรเครดิต และชำระคืนเต็มจำนวนตรงเวลา จะเป็นการสร้างประวัติที่ดี และแสดงให้เห็นถึงวินัยทางการเงินที่จับต้องได้ ซึ่งช่วยสร้างคะแนนความน่าเชื่อถือให้สูงขึ้น และทำให้ธนาคารเห็นภาพความสามารถในการบริหารหนี้ของคุณชัดเจนยิ่งขึ้น
2. เลือกประเภทสินเชื่อให้ตรงกับวัตถุประสงค์
สินเชื่อมีหลากหลายประเภทซึ่งออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน การเลือกสมัครสินเชื่อให้ตรงกับความต้องการใช้งานจริง เช่น ขอสินเชื่อบ้านเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย หรือสินเชื่อรถยนต์เพื่อซื้อรถ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการอนุมัติได้มากกว่า เพราะธนาคารจะเห็นถึงแผนการใช้เงินที่ชัดเจน และสมเหตุสมผล
3. เตรียมเอกสารให้ “พร้อม” ก่อนยื่นสมัคร
ความพร้อมของเอกสารไม่ได้หมายถึงแค่ความครบถ้วน แต่ยังรวมถึงความน่าเชื่อถือของข้อมูลด้วย สำหรับผู้ประกอบการ การนำรายรับเข้าบัญชีธนาคารอย่างสม่ำเสมอแทนการรับเงินสด จะช่วยสร้างรายการเดินบัญชีที่แข็งแกร่ง และตรวจสอบได้ง่าย เช่นเดียวกับพนักงานประจำ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลในสลิปเงินเดือน และรายการเดินบัญชีสอดคล้องกัน การเตรียมเอกสารให้สมบูรณ์ และเป็นระเบียบจะสะท้อนถึงการวางแผนที่ดีของคุณ
4. ประเมินความสามารถในการผ่อนของตัวเอง
ก่อนตัดสินใจยื่นขอสินเชื่อ ควรประเมินภาระหนี้สินต่อรายได้ (Debt-to-Income Ratio) ของตัวเองก่อน โดยทั่วไป ภาระการผ่อนหนี้สินทั้งหมดที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นค่าบัตรเครดิต ค่าผ่อนรถ หรือหนี้อื่น ๆ รวมกับหนี้ก้อนใหม่ที่กำลังจะขอ ไม่ควรเกิน 40% ของรายได้ต่อเดือน
การคำนวณตัวเลขนี้ล่วงหน้าจะช่วยให้คุณขอวงเงินสินเชื่อในระดับที่สมเหตุสมผล และแสดงให้ธนาคารเห็นว่าคุณยังมีความสามารถในการชำระคืนโดยไม่ตึงตัวจนเกินไป
5. สมัครอย่างมีกลยุทธ์ ไม่ยื่นขอสินเชื่อพร้อมกันหลายที่
การยื่นใบสมัครสินเชื่อหลายแห่งในเวลาไล่เลี่ยกันจะถูกบันทึกในรายงานข้อมูลเครดิต ซึ่งอาจทำให้สถาบันการเงินมองว่าคุณกำลังร้อนเงิน และมีความเสี่ยงสูง นอกจากนี้ หากเคยถูกปฏิเสธสินเชื่อ ควรเว้นระยะเวลาอย่างน้อย 3-6 เดือนก่อนยื่นสมัครใหม่อีกครั้ง เพื่อให้มีเวลาในการปรับปรุงคุณสมบัติของตนเอง เช่น สร้างรายการเดินบัญชีให้ดีขึ้น หรือลดภาระหนี้สินเดิมลง เพราะข้อมูลเครดิตจะมีการอัปเดตเป็นรอบ การสมัครซ้ำทันทีโดยที่ข้อมูลยังไม่เปลี่ยนแปลงก็มักจะให้ผลลัพธ์เช่นเดิม
สรุปบทความ
การขอสินเชื่อให้ผ่านการอนุมัติไม่ใช่เรื่องของโชคช่วย แต่เป็นผลมาจากการวางแผน และเตรียมตัวอย่างเป็นระบบ การทำความเข้าใจเกณฑ์การพิจารณาของธนาคาร การรักษาสุขภาพทางการเงินให้แข็งแรงอยู่เสมอ และการสมัครอย่างมีกลยุทธ์ คือกุญแจสำคัญที่จะเปิดประตูสู่โอกาสทางการเงินที่ต้องการ เพียงแค่คุณเตรียมความพร้อมในทุกด้านอย่างรอบคอบ การเป็นเจ้าของสินเชื่อที่ตั้งใจไว้ก็ไม่ใช่เรื่องไกลเกินฝัน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา