ศึกษา 5 เทรนด์อสังหาฯ โลกในปี 2561 กับโอกาสประยุกต์ใช้ในสังคมไทย

“ที่อยู่อาศัย” คือหนึ่งในปัจจัยสี่ที่มนุษย์ต้องมีเพื่อดำรงชีวิต แต่ใช่ว่าที่อยู่อาศัยจะมีลักษณะเหมือนเดิมไปตลอด เพราะในแต่ละปีอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์นั้นเปลี่ยนไปมาก และ Theme หลักในปี 2561 คือ “เล็กๆ”

ภาพ pixabay.com

ขอแค่เล็กๆ-มีสังคม-อยู่ในเมือง ก็พอ

3 เรื่องนี้คือตัวแปรสำคัญในการที่ผู้พัฒนาโครงการที่พักอาศัยต้องนำมาปรับใช้ เพราะด้วยผู้เช่า หรือผู้ซื้อที่พักอาศัยรายใหม่เริ่มเข้ามาอยู่ในกลุ่ม Millennial มากขึ้น ซึ่งกลุ่มนี้ชื่นชอบการใช้ชีวิต, รักความท้าทาย และดำรงชีวิตอยู่ในเมืองเป็นหลัก

ดังนั้นขอแค่มีพื้นที่เล็กๆ หรือขนาดห้องไม่เกิน 20 ตร.ม. เพื่อใช้พักอาศัยแค่ผ่อนคลาย เพื่ออกไปดำรงชีวิตในเมืองต่อก็น่าจะเพียงพอแล้ว ขณะเดียวกันการสร้างสังคมภายในที่พักอาศัยก็เป็นอีกแนวคิดที่พวกเขาน่าจะต้องการ โดยเฉพาะการทำ Co-Living Space เพื่อสร้างสังคมในที่พักอาศัย

ซึ่งเรื่องนี้มีผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยได้นำมาปรับใช้กันแล้วบ้าง เช่นแสนสิริ, อนันดา หรือแม้กระทั่งลุมพินี ที่เริ่มต้นด้วยคำว่า “ชุมชนน่าอยู่” เพื่อยกระดับจากการพักอาศัยแนวสูง ที่ต้องอยู่รวมกันเยอะ แต่ต่างคนต่างไม่สนใจกัน ทำให้เกิดสังคมการใช้ชีวิตมากขึ้น

ภาพ pixabay.com

ก้าวสู่ดิจิทัล และทุกอย่างต้องง่าย

อีก 2 เรื่องถัดมาคือการปรับตัวเข้าสู่โลกดิจิทัลมากขึ้นของผู้พัฒนาโครงการ เพื่อทำให้การทำธุรกรรมต่างๆ เกี่ยวกับที่พักอาศัยนั้นง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง Application เพื่อจัดการค่าสาธารณูปโภคต่างๆ รวมถึงการเข้ามาเช่าที่พักอาศัยด้วย เพราะ Millennial หลายคนก็ต้องการมาลองอยู่ก่อนเพื่อเรียนรู้ชีวิตแบบใหม่

และเรื่องดังกล่าวก็มีผู้พัฒนาอสังหาฯ ในไทยบางรายเริ่มเดินแล้วเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะแสนสิริ, อนันดา และเอสซี แอสเสท ที่เดินเกม Prop Tech อย่างจริงจัง ผ่านการดึง Startup เข้ามาช่วยเหลือในการยกระดับโครงการให้มีนวัตกรรมใหม่ๆ มารองรับพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคนี้

สำหรับกลุ่มผู้พัฒนาอสังหาฯ รายอื่นๆ ก็คงต้องให้เวลาสักนิด เพราะการปรับตัวครั้งนี้ไม่ได้ปรับกันง่ายๆ บางเรื่องต้องใช้เวลาลงทุน หรือทำการตลาดเป็นระยะเวลานาน แต่ถึงอย่างไรพวกเขาก็ต้องทำ เพื่อแย่งชิงความต้องการผู้บริโภคที่จะถาโถมเข้ามาในเมืองใหญ่มากขึ้น

อ้างอิง // Forbes

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา