งานประกาศรางวัล TikTok Awards Thailand 2025 ได้เดินทางมาถึงปีที่ 4 เพื่อยกย่องเหล่าครีเอเตอร์ผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ที่ทรงพลังและสร้างแรงบันดาลใจในหลากหลายแวดวง

ท่ามกลางผู้ชนะทั้ง 14 รางวัล Brand Inside ได้พูดคุยกับ 3 ครีเอเตอร์จาก 3 สาขาที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่มีจุดร่วมเดียวกันคือการใช้ TikTok เป็นเครื่องมือในการ “สร้างโอกาส” และ “ส่งต่อคุณค่า” ในแบบของตัวเอง
- Education Creator of the Year: drmomdiary คุณหมอและคุณแม่ผู้ทำให้เรื่องสุขภาพกายและใจเป็นเรื่องเข้าใจง่าย
- Food Creator of the Year: paratt_ ครีเอเตอร์สายอาหารผู้ทำให้การเข้าครัว “ไม่ไกลตัว” และ “ไม่ยาก” อีกต่อไป
- Sports Creator of the Year: huafulldooball ครีเอเตอร์สายกีฬาที่แจ้งเกิดจาก “ความแค้น” ที่ทีมรักแพ้ สู่คอนเทนต์ฟุตบอล “ของแปลก” ที่ไม่มีใครเหมือน

จุดเริ่มต้นที่ไม่คาดคิด เมื่อ “Passion” และ “จังหวะ” มาเจอกัน
ความสำเร็จของทั้งสามคนไม่ได้มาจากการวางแผนที่ซับซ้อน แต่มาจาก “จังหวะ” ที่ใช่ และ “Passion” ที่ชัดเจน
paratt_ (Food) จบด้านอาหารมาโดยตรง แต่ไม่ได้เข้าสู่สายอาชีพเชฟทันที เขาเริ่มทำคลิปในช่วงเวลาว่างจากการแนะนำของแฟน “ผมเรียนสายอุตสาหกรรมอาหารมา… แต่ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาว่าง แฟนก็บอกว่า ทำอาหารเป็นอยู่แล้ว ลองทำคลิปไหม… วันนั้นเป็นวันแรกที่ลงคลิป แล้วก็ยังทำอยู่จนถึงทุกวันนี้”
ขณะที่ huafulldooball (Sports) มีจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง “เริ่มจากบอลแพ้ก่อน ลิเวอร์พูลแพ้” เขาเล่าอย่างอารมณ์ดี “ไม่มีที่ระบาย ก็เลยทำคลิประบายถึงทีม… ตื่นมาอีกวันได้ 40,000 วิว ผมก็เลยรู้สึกว่า เฮ้ยดังว่ะ นี่อาจจะเป็นทางของเราแล้ว”
ด้าน drmomdiary (Education) บอกว่าเร่ิมต้นทำคอนเทนต์ด้วยการผลักดันของลูกชาย และอยากทำให้เรื่องสุขภาพเป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน อยากเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนได้มีสุขภาพกาย สุขภาพใจที่ดีไปจนถึงนาทีสุดท้ายของชีวิต และแน่นอนทำมาตลอดไม่เคยหยุดจนถึงวันนี้

อะไรคือ “Key Success” ที่ทำให้ชนะ?
สำหรับ drmomdiary ยอมรับว่าสาย Education อาจจะ “ไม่เซ็กซี่” เมื่อเทียบกับสายบันเทิง กุญแจสำคัญคือการ “ตอบโจทย์” คนดูในสิ่งที่เขาอยากรู้ “คนดูเนี่ย เขาไม่ได้อยากรู้อะไรที่ไกลตัว แต่เป็นสิ่งใกล้ตัวที่คาดไม่ถึง แต่ได้ประโยชน์… เราคิดว่าเราตอบประเด็นตรงเนี้ยได้ชัดเจน”
เทคนิคคือการ “Test” คอนเทนต์กับคนในทีมและลูกๆ ที่ไม่ได้อยู่ในวงการแพทย์ “เวลาเล่า… ไม่มีสคริปต์ แต่แม่จะเล่าให้เขาฟังเลย… ฟังแล้วเขาเฮ้ย อันนี้ไม่รู้เรื่องอะไรอย่างเงี้ย ก็มีฟีดแบ็กตลอด”
ด้าน paratt_ เชื่อว่าสิ่งที่ทำให้เขาชนะคือการ “Simplify” หรือการทำให้เรื่องยากดูง่าย “ผมตั้งใจที่จะสื่อมันออกไป… ทำให้การทำอาหารเนี่ยรู้สึกว่ามันไม่ใช่สิ่งไกลตัวเลย แล้วมันไม่ใช่สิ่งที่ยาก… เรา Simplify ให้มันง่ายขึ้นกับคนดู” ทำให้คนดูรู้สึกว่า ทุกคนสามารถทำอาหารเองได้ และชวนทุกคนมาทำอาหารไปด้วยกัน
ส่วน huafulldooball ชี้ไปที่ความ “แตกต่าง” และการหา “ของแปลก” ที่ช่องอื่นไม่มี “พี่เคยเห็นปลาเตะบอลไหม?… ช่องอื่นไม่มี แต่ช่องผมมี นี่แหละครับ คือข้อที่ผมได้เปรียบ” เขาอธิบายว่าในขณะที่คนอื่นเน้นวิเคราะห์เกมการแข่งขัน เขาเลือกจะหา “เรื่องแปลกในวงการ… เรื่องตลกเฮฮา” เพราะ “บอลมันเป็นลูกกลมๆ เราต้องมองให้มันรอบด้าน”

เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่ารางวัล “ความสุข 2 นาที” และ “การเปลี่ยนแปลง”
เมื่อถามถึงสิ่งที่อยากเห็นหลังจากที่คนดูคลิปของพวกเขา เป้าหมายของทั้งสามคนชัดเจนว่าไม่ได้มีแค่ยอดวิว แต่มันคือผลลัพธ์หลังจากนั้นต่างหาก
huafulldooball มองเป้าหมายของเขาไว้อย่างเรียบง่าย “สมมุติว่ามีน้องคนหนึ่งเครียดมากเลย… แต่มาดูคลิปผมสัก 2 นาที เขามีความสุข แค่นั้นคือผมตอบโจทย์แล้ว”
paratt_ อยากทำลายกำแพงความกลัวในการทำอาหาร “สิ่งที่ผมอยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลง คืออยากให้คนเห็นว่าการเข้าครัวเนี่ย มันไม่ได้ยากขนาดนั้น… มันสนุก และทุกคนทำได้”
ขณะที่ drmomdiary มองไปที่ผลกระทบต่อสังคม “อยากให้คนในสังคมดูแลสุขภาพกาย สุขภาพใจตัวเองให้ดี เริ่มจากตัวเอง แล้วก็ครอบครัว แล้วก็สังคม” และเมื่อได้รับรางวัล เธอมองว่ามันคือ “หน้าที่” ที่จะต้อง “เพิ่มความรับผิดชอบต่อสังคม” ให้การทำคอนเทนต์ให้ดีมากขึ้น

TikTok คือ “โอกาส” แพลตฟอร์มที่ดีที่สุดสำหรับ “คนเริ่มต้น”
ในมุมมองของครีเอเตอร์ทั้งสาม TikTok ไม่ใช่แค่แอปบันเทิง แต่คือ “เครื่องมือสร้างโอกาส” ที่ทรงพลัง
huafulldooball นิยาม TikTok ไว้อย่างน่าสนใจว่า “เป็น Application ที่ดีที่สุดในโลก” เพราะเหตุผลเดียวคือ “ความเท่าเทียม” “พี่มีเงิน 10 บาท พี่ก็เล่นได้… สิ่งที่ TikTok มีให้คือ Feed ที่แรงมาก สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มใหม่” เขายอมรับว่าแพลตฟอร์มอื่น “ทำยาก” แต่ TikTok มีโอกาสที่ลงคลิปวันนี้ พรุ่งนี้อาจจะดังไปเลยก็ได้
paratt_ เสริมว่า การแข่งขันที่สูงขึ้นในแพลตฟอร์มไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แต่เป็นเรื่องดี “เราควรยินดีกับ Community ของเรานะที่มันเติบโตมากขึ้น… อุตสาหกรรมมันจะใหญ่ขึ้น” เขามองว่ายิ่งคนเข้ามาเยอะ ถ้าช่วยกันสร้าง Community ที่มีคุณภาพ “มันจะขึ้นไปอยู่ในอีกจุดหนึ่งที่เราอาจจะคาดไม่ถึงเลยก็ได้”

“เริ่มทำ 10 คลิป” และ “อย่าลืมวันแรก”
สำหรับคนที่อยากกระโดดเข้าสู่สนามนี้ ทั้งสามคนมีคำแนะนำที่ตรงไปตรงมา
huafulldooball แนะนำว่า “ลองเริ่มดูก่อน” “ผมไม่สามารถบอกได้ว่าแบบไหนดีที่สุด… อยากให้ลองทำก่อนครับ สัก 10 คลิป แล้วจะรู้เลยว่าแบบไหนมันเวิร์ค… ถ้าแบบนี้มันเวิร์ค ทำแบบนั้นเลย” และสิ่งสำคัญคือ “อย่าเฟล กับยอดวิว… มันมีทั้งวันที่ดีและวันที่แย่”
paratt_ ย้ำเตือนให้ “ยึดมั่นในตัวตน” “อย่าลืมวันแรกว่าเราลงคลิปเพราะอะไร… Energy เราเพียวมากๆ” และ “อย่าหยุดทำ… ในกระแสธารที่เชี่ยวกราด… คุณแค่ทำต่อไปเรื่อยๆ”
และ drmomdiary ปิดท้ายด้วยความรับผิดชอบ “การทำ TikTok เรากำลังทำหน้าที่เป็นสื่อไปถึงคนจำนวนมาก ดังนั้นต้องรับผิดชอบต่อสังคม อะไรที่ไม่ดีต้องระมัดระวัง”

บทสรุป: เวทีที่สร้าง “ไอคอน” จาก “คุณค่า” ของผลงาน
เรื่องราวของครีเอเตอร์ทั้ง 3 ท่าน สะท้อนเป้าหมายของงาน TikTok Awards Thailand ที่จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ได้อย่างชัดเจน คือการเฉลิมฉลอง “โอกาส” ที่แพลตฟอร์มมอบให้คนธรรมดาที่มี Passion ได้กลายเป็น “ไอคอน” ในแบบของตัวเอง ไม่ว่าจะเริ่มต้นจากการระบายเรื่องบอลแพ้, ความตั้งใจที่จะทำให้สุขภาพเป็นเรื่องง่าย หรือความสุขในการแบ่งปันสูตรอาหาร
TikTok ได้พิสูจน์แล้วว่า คอนเทนต์ที่มี “คุณค่า” ไม่ว่าจะในสายการศึกษา, อาหาร หรือกีฬา ก็สามารถสร้างแรงกระเพื่อมทางสังคม สร้างชุมชนที่แข็งแกร่ง และกลายเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้ไม่แพ้คอนเทนต์ในสายอื่นๆ เช่นกัน

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา