สำรวจเทรนด์การทำงานระดับโลก เมื่อผลสำรวจชี้ 64% อาจย้ายงาน ถ้านายจ้างให้กลับไปทำงานที่ออฟฟิศ 100% หรือรูปแบบการทำงานกำลังจะเปลี่ยนไป?
ปัจจุบันหลายออฟฟิศเริ่มให้พนักงานกลับมาทำงานมากขึ้น อย่างในกรณีของสหรัฐฯ ตอนนี้อาคารสำนักงานใน 10 เมืองที่ใหญ่ที่สุดกว่า 40% เริ่มกลับมาใช้งานกันแล้ว เพิ่มขึ้นจาก 15% เมื่อปีที่แล้ว จากข้อมูลของ Kastle บริษัทรักษาความปลอดภัยอาคารสำนักงานที่ติดตามปริมาณการแตะบัตรเข้าอาคารในช่วงที่ผ่านมา
หลายๆ บริษัท เช่น Apple และ Google เริ่มให้พนักงานกลับมาทำงานที่ออฟฟิศแบบไฮบริด ส่วนบางบริษัทก็ให้กลับมาทำงานที่ออฟฟิศ 100% ซึ่งจุดที่น่าสนใจก็คือผลสำรวจล่าสุดโดย ADP Research Institute สถาบันวิจัยด้านตลาดแรงงานพบว่า การที่บริษัทยกเลิก Work From Home อาจทำให้พนักงานตัดสินใจลาออกได้
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ADP Research Institute ปล่อยรายงาน People at Work 2022: A Global Workforce View ซึ่งเป็นการสำรวจความคิดเห็นของพนักงานกว่า 32,000 ในสหรัฐฯ อินเดีย เนเธอร์แลนด์ และอื่นๆ รวม 17 ประเทศ สำรวจเทรนด์และความเปลี่ยนแปลงในตลาดแรงงานโลก
สิ่งที่น่าสนใจจากการสำรวจครั้งนี้อย่างหนึ่งคือการที่คนทำงานทั่วโลกกว่า 64% หรือเกือบ 2 ใน 3 ระบุว่าจะหาหรือจะพิจารณาหางานใหม่หากนายจ้างให้กลับไปทำงานที่ออฟฟิศเต็มเวลา
คนทำงานที่มีอายุระหว่าง 18-24 ปี คือคนกลุ่มที่ไม่อยากกลับไปทำงานที่ออฟฟิศเต็มเวลามากที่สุด เพราะกว่า 71% ระบุว่าจะหาหรือจะพิจารณาหางานใหม่ ส่วนคนที่มีอายุ 35-44 ปี และ 45-54 ปี อยู่ที่ 61% และ 56% ตามลำดับ
นอกจากนี้ กว่า 52% หรือเกินครึ่งยังระบุอีกว่าพวกเขายินดีลดเงินเดือนเพื่อแลกกับการทำงานแบบไฮบริด
เอาเข้าจริงแล้ว สาเหตุที่ผู้คนอยากทำงานแบบ Work From Home ไม่ใช่แค่อยากจะทำงานจากที่ไหนก็ได้เท่านั้น Nela Richardson หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์และผู้เขียนรายงานร่วมของ ADP อธิบายว่า “เมื่อเราพูดถึงการทำงานแบบยืดหยุ่น เราไม่ได้พูดถึงแค่ว่าทำงานที่ไหน แต่เรากำลังพูดถึงทำงานเมื่อไหร่ และทำงานอย่างไรด้วย”
“ไม่ใช่ว่าคนทำงานแค่อยากทำงานจากบ้านเท่านั้น อย่าลืมว่าไม่ใช่ทุกคนที่มีเน็ตบ้านแรงและห้องน่าอยู่ แต่พวกเขาเริ่มคุ้นเคยกับอำนาจในการควบคุมจังหวะการทำงานหลังจากได้เริ่มทำงานทางไกลกันมา 2 ปี” เขาระบุ
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา