บุกทุก segment จริงๆ สำหรับแบรนด์ 1MORE แบรนด์ผู้ผลิตหูฟังจากสหรัฐอเมริกาส่งสินค้ามาหวังตอบโจทย์ตั้งแต่ ฟังเพลง ดูหนัง เล่นเกม มีแบบมีสาย ไร้สาย-บลูทูธ ครอบหู แถมราคาเริ่มต้นที่หลักร้อยเท่านั้น
บุกตลาดหูฟัง จับมือพาร์ทเนอร์ตัวแทนจำหน่ายในไทย กระจายสินค้า
1MORE บริษัทผู้ผลิตหูฟังจากสหรัฐอเมริกาประกาศบุกตลาดประเทศไทยเป็นทางการแล้ว โดยได้จับมือกับบริษัทอินแกรม ไมโคร ประเทศไทยเพื่อเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายโดยตรง ส่วนการเข้ามาเล่นในตลาดประเทศไทย ต้องเรียกว่าเล่นใหญ่ เพราะ 1MORE ส่งหูฟังมา 10 รุ่นคลุมหลาย segment เช่น มีรุ่นที่เป็นหูฟังแบบมีสาย ไร้สาย-บลูทูธ มีแบบสอดหู มีแบบครอบหู และยังมีที่ออกแบบสำหรับเกมมิ่งด้วย
เทียรี่ เทียว ผู้อำนวยการฝ่ายขาย วันมอร์ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บอกว่า “ปรัชญาของเราคือการผลิตสินค้าคุณภาพ เป็นหัวใจเลย คือขอให้ลูกคาได้ลองสินค้าก็จะรู้ว่าสินค้าเราเป็นอย่างไร” ดังนั้นการจับมือกับอินแกรม ไมโครมาเป็นตัวแทนจำหน่ายที่มีพาร์ทเนอร์ร้านค้าไอทีอยู่ทั่วประเทศกว่า 3,000 แห่ง จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ 1MORE มองว่าจะทำให้สินค้าเข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่มได้จริงๆ
อารี มอร์เกอแลน ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ วันมอร์ สหรัฐอเมริกา ย้ำว่าการเข้ามาทำตลาดในไทยเป็นเพราะมองเห็นศักยภาพ “ในไทยไม่ใช่แค่ใช้หูฟังดูหนัง ฟังเพลงเท่านั้น แต่ตลาดเกมมิ่งถือว่ากำลังบูม จริงๆ ไม่ใช่แค่ไทย แต่คือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลยด้วยซ้ำ และหูฟังของเราก็มีในส่วนของเกมมิ่งโดยเฉพาะเช่นกัน”
ส่องราคาหูฟัง 10 รุ่นของ 1MORE เริ่มต้น 350 บาท ตัวท็อปสุด 6,300 บาท
- รุ่นที่ราคาถูกที่สุดคือ 1MORE Piston Fit In-Ear Headphones ราคา 350 บาท ตัวนี้ขับเคลื่อนด้วยไดรเวอร์เดียว
- รุ่นต่อมาคือ 1MORE Piston Classic ราคา 700 บาท และ 1MORE Single Driver ราคา 1,050 บาท สองรุ่นนี้ก็ยังเป็นหูฟังที่ขับเคลื่อนด้วยไดรเวอร์เดียว แต่ตัวการออกแบบได้รับรางวัลจาก IF Design Award และ Red Dot Design
- รุ่นถัดมาเป็น Flagship ของ 1MORE คือ หูฟั
งแบบสอดหูรุ่น Triple Drivers ราคา 3,500 บาท ตัวนี้มาด้วยไดรเวอร์ 3 ตัว คุณภาพเสียงค่อนข้างครบ
- รุ่นต่อมาเป็น หูฟังไร้สายแบบสอดหูรุ่น iBFree Bluetooth in-Ear Headphones ราคา 2,100 บาท ตัวนี้ออกแบบมาให้สะดวกในการใช้กับการออกกำลังกาย สะดวก พกพาง่าย เชื่อมต่อด้วยบลูทูธ และ 1MORE ก็มองว่ารุ่นนี้จะขายดีที่สุด เพราะทำยอดขายสูงสุดมาแล้วในอินเดีย เชื่อว่าในไทยตลาดน่าจะเป็นไปในแนวเดียวกัน
- ถัดมาเป็น หูฟังแบบสอดหูรุ่น Dual Driver Capsule In-Ear Headphone ราคา 3,150 บาท ตัวนี้ใช้ไดร์เวอร์คู่เป็นตัวขั
บเคลื่อนพลังเสียง - ส่วนที่เป็นหูฟังไร้สายแบบครอบหูก็ส่งมาเช่นกันคือ รุ่น 1MORE MK802 Bluetooth Over-Ear Headphones ในราคา 5,250 บาท
- ส่วนหูฟังเกมมิ่งมี 2 แบบคือ หูฟั
งเกมมิ่งรุ่น Spearhead VR Gaming Headphones ราคา 4,190 บาท ตัวนี้เหมาะกับการเล่นเกมแบบ VR โดยเฉพาะ ส่วนอีกตัวเป็นหูฟังตัวท็อปของเกมมิ่งคือ หูฟังรุ่น Dual Driver ANC มาในราคา 6,300 บาท เป็นตัวแรกที่ 1MORE บอกว่าใช้ไดรเวอร์คู่แบบตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้ดีที่สุด
- ปิดด้วยรุ่นสุดท้ายที่เป็น Flagship ตัวท็อปของ 1MORE คือ หูฟังแบบสอดหูรุ่น Quad Drivers ราคา 6,300 บาท ตัวนี้มี 4 ไดรเวอร์ รุ่นนี้ 1MORE บอกว่า จัดเต็มคุณภาพเสียงทุกย่านความถี่
การตลาด เป้าหมาย และความคาดหวังของ 1MORE
ตัวหูฟังทุกรุ่นทุกแบบจะได้เห็นกันตามร้านขายอุปกรณ์ไอทีทั่วไปในห้างสรรพสินค้าก่อน แต่จะยังไม่มีการโฆษณาตามสื่อต่างๆ เพราะ 1MORE ที่จับมือกับอินแกรม ไมโคร เล่าให้ฟังว่า การทำตลาดตอนนี้จะเน้นไปที่การใช้งานแฟร์เป็นจุดเริ่มต้น เช่น งานคอมมาร์ต 2017 ที่จะเกิดขึ้น เพราะว่าแบรนด์ต้องการกระจายความรับรู้ผ่านการใช้จริงและทำให้ลูกค้าได้ทดลองใช้ก่อน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการลองใช้ผลิตภัณฑ์
ส่วนการตลาดผ่านสื่อในแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น ในสื่อออนไลน์ ก็คาดว่าจะเกิดขึ้นหลังจากที่ได้เริ่มสร้างประสบการณ์ในครั้งนี้ อีกประเด็นคือการมี ambassador ยังไม่ลงตัว เพราะถ้าทำก็น่าจะใช้คนที่เป็นที่รู้จักทั้งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในกระบวนการ ไม่มีข้อสรุป
เป้าหมายของ 1MORE คือการเข้ามาขอส่วนแบ่งทางการตลาด แน่นอนว่าคงไม่สามารถมาสู้รายใหญ่ที่ครองตลาด ไม่ว่าจะเป็นในแนวใช้หูฟังเพื่อดูหนัง ฟังเพลง หรือเกมมิ่ง แต่การวางตำแหน่งของ 1MORE ที่จะคลุมทุก segment เป็นเกมการตลาดที่มองยาวๆ เล่นนานๆ กลุ่มเป้าหมายเป็นคนอายุตั้งแต่ 13 – 35 ปี และอีกอย่างหนึ่งตลาดอุปกรณ์เสริมไอทีของไทยก็โตต่อเนื่อง คิดแล้วตกปีละ 10%
การเข้ามาเล่นในตลาดอุปกรณ์ไอทีไทยที่มีหลายเจ้าครองอยู่ก่อนหน้าอย่างกว้างขวาง กลยุทธ์ของการส่งสินค้ามาแบบจัดเต็ม 10 รุ่น ถือเป็นการรุกตลาดที่น่าจับตามอง ด้วยคุณภาพระดับโลกของ 1MORE ที่หลายประเทศยอมรับ ทำให้ได้เปรียบ เพราะไม่สามารถจัดประเภทได้ว่าเป็นแบรนด์หูฟังเพื่อฟังเพลง ดูหนัง หรือเล่นเกมอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ส่งสินค้ามาคลุมทุกประเภท ถือเป็นจุดเด่นที่น่าจับตามอง
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา