Brand Inside รวบรวมหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่น่าสนใจในปี 2021 โดยมองว่าเทรนด์การทำงานจากที่บ้านยังมีต่อไป รวมถึงการทำ Digital Transformation ขององค์กรทั่วโลก การเปลี่ยนพฤติกรรมของมนุษย์จากวิกฤติ COVID-19 ยังทำให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังเติบโตต่อได้ แม้จะมีมูลค่าแพง
ในช่วงปี 2020 ที่ผ่านมาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังให้ผลตอบแทนที่ดี ไม่ว่าจะเป็นทั้งในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา หรือแม้แต่ประเทศจีน จากปัจจัยสำคัญคือการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่เปลี่ยนพฤติกรรมของมนุษย์ให้หันมาใช้เทคโนโลยีไม่ว่าจะเป็นการทำงาน จับจ่ายใช้สอย สร้างความบันเทิง ฯลฯ แม้ว่าหลังการแพร่ระบาดแล้วพฤติกรรมของมนุษย์ก็อาจเปลี่ยนไปตลอดกาลจากการเข้ามาของเทคโนโลยี
สำหรับบทความนี้ Brand Inside จะพาไปรู้จักกับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี 10 ตัวที่ยังน่าจับตามองต่อในปีนี้ ยังมีหุ้นกลุ่มที่ยังน่าสนใจ แม้ว่าหลายๆ ตัวจะมีราคาแพงก็ตาม
กลุ่มรักษาความปลอดภัยระบบไอที
เหตุการณ์สำคัญที่การรักษาความปลอดภัยระบบไอทีนั้นมีความสำคัญเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากปี 2020 ที่ผ่านมามีเหตุการณ์ซอฟต์แวร์ของ FireEye และ SolarWinds มีช่องโหว่ระดับร้ายแรง คาดว่าเกิดจากฝีมือของแฮ็กเกอร์ความเชี่ยวชาญสูง ส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังภาคเอกชน ภาครัฐของหลายๆ ประเทศ คาดว่าผู้เสียหายจำนวนอาจถึงหลักหลายแสนองค์กรทั่วโลก
นอกจากนี้ในปี 2020 ยังรวมถึงเหตุการณ์ที่ข้อมูลผู้ใช้งานขององค์กรต่างๆ หลุดออกมาหลายต่อหลายครั้ง ทำให้หลายองค์กรเองเริ่มให้ความสำคัญของเรื่องความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
Wedbush บริษัทหลักทรัพย์ในสหรัฐมองว่าค่าใช้จ่ายสำหรับการรักษาความปลอดภัยระบบไอทีในปี 2021 จะเพิ่มขึ้นมากถึง 20% มากกว่าปี 2020 ที่อยู่ราวๆ 15% และจะเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ผู้บริหารระดับสูงที่ดูแลด้านเทคโนโลยีของบริษัทต่างๆ มีมุมมองว่าการรักษาความปลอดภัยนั้นเป็นเรื่องสำคัญเพิ่มมากขึ้นหลังจากนี้
สำหรับหุ้นที่น่าติดตามได้แก่
- CrowdStrike ผู้ให้บริการโซลูชันด้านความปลอดภัย โดยเฉพาะการใช้ระบบ Cloud ตรวจจับความผิดปกติ
- Palo Alto Networks จุดเด่นของบริษัท คือระบบ Firewall ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดรายหนึ่งของตลาดไอที
- Check Point Software ผู้ให้บริการระบบรักษาความปลอดภัยรายใหญ่ มีการออกคำแนะนำและเตือนภัยเรื่องความปลอดภัยเสมอ
กลุ่มผู้ให้บริการ CDN
ปัจจุบันการใช้งานอินเตอร์เน็ตทั่วโลกเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะจากการทำงานรวมถึงการเสพความบันเทิงภายในบ้าน ทำให้ผู้ให้บริการหลายๆ รายต้องหาระบบเพื่อรองรับจำนวนของผู้ใช้งานเพิ่มมากขึ้น จากเรื่องของการทำงาน หรือแม้แต่การเข้าชมเว็บไซต์ต่างๆ ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า CDN หรือ Content Delivery Network เพื่อที่จะลดภาระของเซิฟเวอร์หลักของผู้ให้บริการ และทำให้ผู้ใช้สามารถใช้บริการราบรื่นมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่นผู้ใช้บริการ CDN เหล่านี้ เช่น BBC, Bloomberg รวมถึง New York Times จนถึงบริการของ Disney+
ปัจจุบันผู้ให้บริการ CDN นั้นมีหลากหลายราย แต่สำหรับรายที่น่าสนใจคือ
- Akamai ผู้ให้บริการ CDN รายใหญ่ของโลก มีลูกค้าระดับองค์กรใหญ่ๆ ใช้งาน เช่น Apple เป็นต้น
- Fastly ผู้ให้บริการ CDN ที่องค์กรหรือแม้แต่สื่อระดับโลกเลือกใช้ เช่น Nikkei หรือ BBC ฯลฯ
- Cloudflare ผู้ให้บริการ CDN ที่แตกต่างจากเจ้าอื่นที่มีบริการแบบฟรี และยังมีบริการป้องกันความปลอดภัยให้กับลูกค้า
ในปีที่ผ่านมาหุ้นกลุ่มนี้ถือว่าให้ผลตอบแทนอย่างมหาศาลบางตัวให้ผลตอบแทนเกิน 400% แต่ในปี 2021 ก็ยังถือว่ากลุ่มผู้ให้บริการ CDN เป็นหุ้นที่ยังน่าสนใจและมีรายได้ที่คาดว่าจะเติบโตได้อีก รวมถึงความเสี่ยงเชิงบวกที่อาจมีการควบรวมกิจการได้อีก
อย่างไรก็ดีเนื่องจากหุ้นกลุ่มนี้มีการแข่งขันที่สูง และมีผู้เล่นใหม่ๆ สามารถเข้ามาในตลาด รวมถึงบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ๆ เองก็มีการพัฒนาระบบ CDN นี้ให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น Amazon หรือ Google หรือการพัฒนาระบบ CDN ใช้งานเองเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายแบบ Netflix ทำให้เป็นความเสี่ยงที่ลูกค้ารายใหญ่อาจหายไปได้
ผู้เล่นรายใหญ่ก็ยังน่าสนใจ
แม้ว่าหุ้นกลุ่ม FAANMG ที่ประกอบไปด้วย Facebook Apple Amazon Netflix Microsoft และ Alphabet (บริษัทแม่ของ Google) ในปี 2020 จะทำผลงานได้ดี แต่บริษัทใหญ่เหล่านี้ยังน่าจะสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง จากจุดแข็งของผลิตภัณฑ์ที่ออกสู่ตลาดและคู่แข่งไม่สามารถที่จะตีตื้นกับผลิตภัณฑ์ของบริษัทเหล่านี้ได้
แต่สำหรับความเสี่ยงหุ้นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่นี้คือหน่วยงานกำกับดูแลของประเทศต่างๆ ที่เริ่มแสดงความไม่พอใจมากยิ่งขึ้น จากความมีบทบาทในชีวิตประจำวัน กรณีการผูกขาดด้านแพลตฟอร์มจนอาจทำให้มีการแยกบริษัท ข้อมูลส่วนบุคคล จนถึงเรื่องของภาษีที่รัฐบาลของหลายๆ ประเทศนั้นต้องการที่จะเก็บภาษีเพิ่มเติม
หุ้นที่น่าจับตามองในปี 2021
- Facebook สิ่งที่น่าจับตามองคือหน่วยงานกำกับดูแลที่พยายามจะแยกธุรกิจของบริษัทออกมา รวมถึงการเปิดศึกกับผู้เล่นรายอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Apple (และ Apple ก็โต้กลับด้วย)
- Microsoft จากยุทธศาสตร์ใหม่ๆ ในปี 2020 รวมถึงรายได้จากกลุ่ม Cloud และบริการอื่นๆ ที่มากขึ้น ทำให้หลังจากนี้บริษัทจะทำรายได้เติบโตได้มากแค่ไหน
- Apple กับการพัฒนาชิปของตัวเองหลังจากปล่อย Macbook ออกมาและผลตอบรับไปในทางบวก หลังจากนี้จะสร้างอัตรากำไรได้มากแค่ไหนรวมถึงอนาคตของสินค้ากลุ่ม Mac แต่เรื่องที่น่าเป็นห่วงคือบริการ Services ต่างๆ ที่บริษัทได้ปล่อยออกมาในปี 2020 จะสร้างลูกค้าได้มากแค่ไหน
เรื่องอื่นๆ
ในบทวิเคราะห์ของ RBC Capital Markets ได้สำรวจลูกค้ากลุ่มสถาบัน 56% ในช่วงเดือนธันวาคมของปี 2020 ที่ผ่านมา โดยมองว่าหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีนั้นมีราคาแพง ซึ่งมากกว่าในปี 2019 ที่ลูกค้าจำนวน 37% มุมมองว่าหุ้นกลุ่มนี้มีราคาแพง แต่นักลงทุนเหล่านี้ 47% มองว่าหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีจะให้ผลตอบแทนโดดเด่นมากในปี 2021 นี้ในปีที่ผ่านมาหุ้นที่ลูกค้า RBC ให้สนใจนั้นให้ผลตอบแทนมากถึง 91%
หุ้นหรือกลุ่มอุตสาหกรรมไอทีที่น่าสนใจอื่นๆ
- บทวิเคราะห์ของ Morgan Stanley ชี้โมเดลธุรกิจของ Adobe นั้นเป็นโมเดลที่ยั่งยืนในระยะยาว จากการเปลี่ยนผ่านธุรกิจจากการขายซอฟต์แวร์ครั้งเดียว มาทำเป็นโมเดล Subscription และยังทำให้บริษัทอื่นๆ หันมาใช้กลยุทธ์นี้มากขึ้น
- ในบทวิเคราะห์ของ Piper Sandler มองว่าการทำ Digital Transformation จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ให้บริการ Cloud จะได้รับประโยชน์อย่างมาก รวมถึงบริษัทที่เกี่ยวข้อง เช่น Intuit หรือ Snowflake
- กลุ่มผู้ให้บริการรับชำระเงินยังมีความน่าสนใจ ในบทวิเคราะห์ของ Morgan Stanley มองว่าผู้บริโภคเองจะเริ่มหันมาใช้บริการกระเป๋าเงินดิจิทัลมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มวัยรุ่นอายุ 18-24 ปีที่มีการเติบโตถึง 42% ในผลสำรวจของ Morgan Stanley เองยังมองว่า PayPal และ Apple คือแบรนด์ที่ลูกค้าชื่นชอบ
- บริษัทอื่นๆ ในบทวิเคราะห์หุ้นกลุ่มไอทีจากหลากหลายสถาบันการเงินมอง เช่น
- Twilio ผู้ให้บริการ API การติดต่อสื่อสารทางโทรศัพท์และ SMS
- Shopify แพลตฟอร์มสำหรับใช้ในการสร้างร้านค้าออนไลน์
- AirBNB แพลตฟอร์มเช่าบ้านชื่อดัง ในบทวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองถึงการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา