ช่วงนี้ตลาดหุ้นไทยมีเงินต่างชาติไหลเข้าสูงมาก ส่วนหนึ่งมาจากการเพิ่มนำ้หนักการลงทุนของ MSCI แต่ถ้าการเมืองในประเทศมีความชัดเจนขึ้น ไทยก็ควรจะเป็นประเทศที่ต่างชาติสนใจเข้ามาลงทุนมากขึ้น แต่ทำไมหลังการโหวตตนายกรัฐมนตรี บล.บัวหลวงต้องปรับคาดการณ์ SET สิ้นปีนี้ลง
บล.บัวหลวงหั่นเป้าดัชนี SET สิ้นปีเหลือ 1,670 จุด
ชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์บุคคล บล.บัวหลวง บอกว่า ทางบริษัทปรับลดเป้าหมายดัชนีตลาดหุ้นไทยสิ้นปีนี้ลงเหลือ 1,670 จุด จากเดิมที่คาด 1,760 จุด สาเหตุหลักมาจากการปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไทยและทั่วโลก รวมถึงไตรมาส 1/2562 ที่ผ่านมาผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และบมจ.ปตท. (PTT) ที่มีสัดส่วนหลักในตลาดฯ ออกมาไม่ดีนัก
ทั้งนี้ความเสี่ยงจากต่างประเทศเรื่อง Trade war ยังสูงมากอาจจะกดดันเศรษฐกิจในประเทศเรื่องการส่งออก อย่างไรก็ตามจากผลการโหวตนายกรัฐมนตรีของไทยออกมา น่าจะทำให้นักลงทุนในตลาดคาดหวังว่ารัฐบาลจะลงทุนแบบ Aggressive มากขึ้น
“ตอนนี้นักลงทุนยังกังวลว่า รัฐบาลชุดนี้จะออกมาตรการ ออกกฎหมายต่างๆ ได้ราบรื่นไหม เช่น เรื่องงบประมาณแผ่นดินปี 2563 ที่จะพูดคุยในช่วงส.ค.-ก.ย.ถ้ารัฐบาลสามารถผ่านขั้นตอนนี้ได้ นักลงทุนจะมีความมั่นใจมากขึ้น แต่ถ้างบประมาณไม่ผ่าน ตลาดจะกังวลมากขึ้นว่ารัฐบาลชุดนี้จะบริหารต่ออย่างไร? ทั้งนี้คาดว่ารัฐบาลจะออกมาตรการดูแลปากท้องของคนก่อน”
อย่างไรก็ตามต้องติดตามสถานการณ์การเมืองในประเทศ เพราะจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ทั้งฝ่ายที่เตรียมจัดตั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านมีจำนวนใกล้เคียงกัน อาจทำให้การลงคะแนนโหวตวาระต่างๆ ผ่านได้ยากขึ้น หลังจากนี้มอกงว่าภาคธุรกิจที่คาดว่าจะดีขึ้นมาจากกลุ่มธุรกิจอิงเศรษฐกิจในประเทศ เช่น ค้าปลีก ยานยนต์ ฯลฯ
หุ้นใหม่ชะลอเข้า IPO ในตลาดหลักทรัพย์
พิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บล.บัวหลวง บอกว่า หลังจากผลโหวตนายกรัฐมนตรีของไทยออกมาเมื่อวานนี้ช่วยให้บรรยากาศการลงทุนผันผวนน้อยลง คาดว่าหุ้นกลุ่มที่ได้รับอานิสงค์ ได้แก่ หุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
ด้านสถานการณ์หุ้นเตรียม IPO จะชะลอตัวลงจากสภาพแวดล้อมที่ยังไม่ชัดเจน โดยปัจจุบันจะมี Index ประกาศเข้า IPO และในบล.บัวหลวงมีอีก 1-2 ดีลที่เตรียมเข้า IPO ในช่วงครึ่งปีหลัง
สรุป
แม้ปัจจัยต่างประเทศจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยมาก แต่การเมืองในประเทศเป็นปัจจัยพื้นฐานที่ต่างชาติศึกษาเพื่อเข้ามาลงทุน ดังนั้นเมื่อการเมืองไทยนิ่ง ชัดเจน ไม่มีปัจจัยเสื่ยงมากกว่าเดิม ภาคเอกชนจะเริ่มลงทุนมากขึ้น
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา