วิ่งเพื่อสุขภาพ เทรนด์มาแรงหยุดไม่อยู่ จัดกว่า 600 รายการต่อปี มูลค่ารวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท

จั่วหัวว่าวิ่งเพื่อสุขภาพ แต่เอาจริงๆ เป็นกิจกรรมเพื่อสุขภาพทั้ง งานวิ่ง, งานปั่นจักรยาน และงานไตรกีฬา ซึ่งเวลานี้เป็นเทรนด์ที่มาแรงมากทั่วโลก และมาแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เริ่มจากทุกคนใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น กินอาหารคลีน และออกกำลังกาย แต่จะให้ออกกำลังกายเฉยๆ ก็ไม่ท้าทาย ถ้ามาร่วมกิจกรรม มันท้าทายมากกว่า

กลายเป็นประโยคฮิตในกลุ่มคนชอบออกกำลังกายว่า “เสาร์-อาทิตย์นี้ไปไหน” ซึ่งหมายถึงว่าไปร่วมกิจกรรมออกกำลังกายที่ไหน แสดงว่ามีการจัดงานออกกำลังกายเยอะมาก?

ภาพจาก Samsung Galaxy 10K Thailand

งานออกกำลังกายรวมกว่า 700 รายการต่อปี

โอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็มวิชั่น จำกัด (MVISION) หนึ่งในผู้จัดงานกิจกรรมกีฬา บอกว่า มีการจัดงานวิ่ง (รวมทั้งวิ่งถนนและวิ่งเทรล หรือ แนววิ่งวิบาก) ประมาณ 20 งานต่อสัปดาห์ รวมทั้งปีแล้วมีงานวิ่งในไทยกว่า 600 งาน! ถ้ารวมงานปั่นจักรยานและงานไตรกีฬาอีก ประมาณกว่า 100 งาน

เท่ากับว่า ในประเทศไทยมีการจัดงานกีฬารวมแล้วกว่า 700 รายการต่อปี และมีแนวโน้มว่าปีนี้จะเพิ่มขึ้นใกล้ๆ หลักพัน และถ้าอยากสมัครร่วมงาน ต้องวางแผนล่วงหน้าอย่างน้อย 2-3 เดือน ไม่งั้นคนสมัครเต็ม อดวิ่ง ถ้างานไตรกีฬาสมัครล่วงหน้าเกิน 6 เดือน!

แสดงว่า ความต้องการ (Demand) มีมากกว่า การจัดงาน (Supply) จึงไม่แปลกใจที่ยังมีการค้นหาสถานที่จัดงานเพิ่มเติมขึ้นอีก เพื่อรองรับความต้องการ

ส่วนหนึ่ง ไม่ได้มีแค่คนไทยเท่านั้นที่วิ่ง แต่มีคนต่างประเทศให้ความสนใจมาร่วมงานวิ่งในไทยด้วย นั่นเพราะไทยเป็นประเทศที่สามารถจัดงานวิ่งได้ตลอดทั้งปี ต่างจากยุโรปหรืออเมริกา ที่มีช่วงฤดูที่หนาวจัด ร้อนจัด ไม่สามารถจัดงานได้

โอภาส เฉิดพันธุ์ พิชิตงาน IRONMAN 70.3 Thailand มาแล้ว

ประเมินมูลค่ากิจกรรมกีฬา 1 หมื่นล้านบาท

ด้วยตัวเลขการจัดงานกว่า 700 รายการต่อปี มีคนเข้าร่วมเฉลี่ย 3,000 – 5,000 คนต่องาน ค่าสมัครวิ่งเฉลี่ย 500-1,000 บาท ดังนั้นในแต่ละสัปดาห์จะมีเม็ดเงินจากการสมัครร่วมกิจกรรมกีฬา รวมค่าเดินทาง ค่าที่พัก และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ประมาณ 200-250 ล้านบาทต่อสัปดาห์ ตลอดทั้งปีจึงเป็นมูลค่า 10,000 ล้านบาท!

และการจัดงานกิจกรรมกีฬาประเภทนี้ ต้องใช้กำลังคนในการจัดประมาณ 1,000 – 2,000 คนแล้วแต่ว่าจัดงานใหญ่ขนาดไหน เป็นการสร้างงานด้วยเช่นกัน เท่ากับว่าการจัดงานหนึ่งครั้ง เป็นการรวมกลุ่มคนจำนวนเกือบหมื่น ดังนั้นจะมีเงินสะพัดสูงมาก ยิ่งถ้าจัดต่างจังหวัด คนในพื้นที่ยิ่งชอบ เพราะรายได้จะวิ่งเข้าชุมชนแน่นอน

ส่วนคนจัดงาน อย่างที่บอกไปแล้วว่า งานวิ่ง งานปั่น หรืองานไตรกีฬา แต่ละงานต้องสมัครล่วงหน้าอย่างน้อย 2-3 เดือน แปลว่า ผู้จัดจะได้รับเงินจากผู้สมัครล่วงหน้าแล้วอย่างน้อย 5 – 10 ล้านบาทต่อการจัดงานแต่ละครั้ง ถ้าเป็นผู้จัดงานอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นธุรกิจที่น่าสนใจมาก

ภาพจาก Samsung Galaxy 10K Thailand
ภาพสาวๆ จาก Samsung Galaxy 10K Thailand

ปฏิวัติวงการ สร้าง Sport Tourism ด้วยเทคโนโลยี

อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าการจัดงานกีฬา ทั้งงานวิ่ง งานปั่น ในไทยยังไม่ทันสมัย โดยเฉพาะระบบจ่ายเงิน ที่ยังใช้การโอนเงินแล้วส่งรูปสลิปจากนั้นรอการคอนเฟิร์ม และการที่ต้องสมัครล่วงหน้าหลายเดือน ทำให้หลายครั้งผู้สมัครอาจติดภารกิจด่วนไม่สามารถไปร่วมได้ จะขายต่อก็ไม่ได้เพราะระบุชื่อผู้สมัครไปแล้ว จะขอเงินคืนก็ไม่ได้ จะเลื่อนไปงานอื่นก็ยิ่งไม่ได้

โอภาส บอกว่า จุดเด่นของ MVISION คือ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Digital Event หรือ การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้บริหารจัดการ ดังนั้นนอกจากการจัดงานกีฬาประมาณ 15-20 รายการในปีนี้ เพื่อรองรับ Demand ที่มีอยู่มหาศาลแล้ว สิ่งที่ MVISION เน้นเป็นพิเศษคือ ร่วมมือกับผู้จัดงานทุกราย นำระบบเทคโนโลยีเข้ามาใช้งาน เพื่อยกระดับปฏิวัติวงการ

“ทุกคนยังจัดงานเหมือนเดิม MVISION ก็จัดงานโดยเน้นส่วนที่ยังว่างอยู่ เพราะอย่างที่บอกว่า Supply ไม่พออยู่แล้ว แต่สิ่งที่จะช่วยกันคือ การพัฒนาเทคโนโลยีไปใช้เพื่อยกระดับงานกีฬาทั้งหมด MVISION อยากเข้าไปช่วยระบบหลังบ้าน ให้งานออกมาดีขึ้น”

ภาพใหญ่ที่จะเกิดขึ้นกับงานกีฬา คือ จะเกิด Sport Tourism หรือการท่องเที่ยวเชิงกีฬาเกิดขึ้นในไทย

ภาพจาก pixabay.com

ระบบชำระเงิน จ่ายได้ เลื่อนได้ ขายต่อได้ ขอคืนก็ได้

สำหรับใครที่เคยวิ่งงาน Samsung Galaxy 10K มาแล้วจะรู้ว่ามีเทคโนโลยีช่วยให้สะดวกขึ้น แต่สำหรับระบบใหม่ที่ MVISION จะนำมาใช้ในปีนี้คือ ระบบการจ่ายเงิน

อย่างที่บอกว่า MVISION ไม่ได้มาแข่งขัน แต่มาร่วมมือกับผู้จัดงานทุกคน นำระบบจ่ายเงินใหม่ ที่รองรับการจ่ายได้หลากหลายวิธี และยังมีความพิเศษคือ เมื่อสมัครแล้วถ้าไม่สะดวกไปร่วม สามารถประกาศขายต่อใบสมัคร พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็นผู้สมัครคนใหม่ได้ หรือจะเลื่อนไปงานอื่นโดยจ่ายเงินส่วนต่าง เพราะระบบมีการเชื่อมกับงานวิ่งหลายงาน หรือจะคืนเงินก็ได้ เพราะมีคนรอสมัครอยู่แล้ว

“ระบบนี้สามารถทำได้ เพราะอย่างที่กล่าวไปตอนต้นว่า งานกีฬาต้องสมัครล่วงหน้า 3-6 เดือนเป็นอย่างน้อย ผู้จัดรับเงินเข้ามาก่อน ถ้ามีระบบมาบริหารจัดการดีๆ สามารถโอนเงินระหว่างกันได้ แค่มีเงื่อนไขเรื่องเวลา และค่าธรรมเนียมเล็กน้อย แต่เชื่อว่าจะมาแก้ปัญหาให้ทุกคนได้”

สำหรับการใช้งาน ทุกงานวิ่งมีเว็บไซต์ของตัวเอง ผู้สมัครสนใจงานไหนก็เข้าไปที่เว็บไซต์ของงานนั้นโดยตรง ในอนาคตจะมีรายการ จ่าย เลื่อน ขายต่อ ขอคืน หรือเข้าคิวรอซื้อ ไม่ต้องไปที่เว็บอื่น โดย MVISION จะดูแลระบบหลังบ้านและการเชื่อมต่อทั้งหมดให้

ระบบทั้งหมดจะเริ่มต้นใช้งานได้ปลายไตรมาสแรกถึงต้นไตรมาสสอง และจะพัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อยๆ คาดว่าจะได้ใช้งานจริงภายในปีนี้แน่นอน

ภาพจาก pixabay.com

Sport Tourism อย่างไร

โอภาส บอกว่า สิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นในไทยคือ Sport Tourism คือ ในปีนี้งานวิ่งจะกระจายตัวออกไปต่างจังหวัดมากขึ้น ดึงดูดให้คนไปเที่ยวต่างจังหวัด ไปร่วมงานวิ่งเพื่อสุขภาพ มีทั้งวิ่งถนน และวิ่งเทรล สนับสนุนให้ไปกันทั้งครอบครัว ต้องมีที่พัก ซึ่งการวิ่งจะผ่านจุดสำคัญๆ ที่เป็นแลนด์มาร์กของจังหวัดนั้นๆ

สำหรับจังหวัดใกล้ๆ อาจจะขับรถกันไปเป็นครอบครัว จับตลาดทั่วไปได้ แต่สำหรับจังหวัดไกลๆ จะจัดเป็นแพ็คเกจ เช่นเหมาลำเครื่องบิน บินไปจัดงานวิ่ง นี่คือการจับตลาดบนเรื่องการท่องเที่ยว เป็น Sport Tourism ซึ่งคนต่างประเทศกำลังสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะการวิ่งเทรล ที่ออกแนววิ่งลุยไปกับบรรยากาศของธรรมชาติ

ภาพจาก pixabay.com

สรุป

งานวิ่ง รวมถึงงานกีฬาเป็นเทรนด์ที่มาแรงมาก และยังแรงขึ้นเรื่อยๆ การนำเทคโนโลยีมาใช้ โดยเฉพาะเรื่องการจ่ายเงินและการขายต่อหรือขอเลื่อนไปการแข่งอื่น เป็นการทำลายข้อจำกัดของใครหลายคนที่ไม่มั่นใจว่าจะไปร่วมงานได้หรือไม่ มีโอกาสทำให้จำนวนนักกีฬาเพื่อสุขภาพเพิ่มมากขึ้นอีก ซึ่ง MVISION เลือกที่จะอยู่เบื้องหลัง ช่วยผู้จัดทุกราย ปฏิวัติวงการกีฬา มากกว่าจะมาจัดงานสร้างการแข่งขัน เชื่อว่าจะสร้างทั้งสุขภาพและธุรกิจไปพร้อมกัน

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา